วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2567

มณฑลทหารบกที่ 37 ระดมสรรพกำลังต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 พร้อมยุทโธปกรณ์ จิตอาสาภัยพิบัติ เร่งอพยพช่วยเหลือประชาชนพื้นที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมสูงอำเภอแม่สาย และอำเภอเมืองเชียงราย บางพื้นที่น้ำลด เตรียมฟื้นฟู


มณฑลทหารบกที่ 37 ระดมสรรพกำลังต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 พร้อมยุทโธปกรณ์ จิตอาสาภัยพิบัติ เร่งอพยพช่วยเหลือประชาชนพื้นที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมสูงอำเภอแม่สาย และอำเภอเมืองเชียงราย บางพื้นที่น้ำลด เตรียมฟื้นฟู 

เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567  พลตรี บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37  ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดเชียงราย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยมี นาย สุทธิพงศ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการประชุม เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันในการปฏิบัติงานร่วมกัน ในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ ในพื้นที่ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย  ณ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ที่ว่าการอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และเมื่อเวลา 08.00 น. ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 จัดกำลังพลจิตอาสาภัยพิบัติ ออกปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย พื้นที่ บ้านเกาะทราย ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย รวมถึงการขนย้ายประชาชนและสิ่งของจำเป็นเพื่อเข้าไปอยู่พื้นที่ปลอดภัย สำหรับการช่วยเหลือประชาชนศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จะรายงานให้ทราบต่อไป ขณะที่หน่วยเดือนรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขงเขตเชียงรายจัดกำลังพล ร่วมจัดเตรียมข้าวกล่องเพื่อนำไปแจกจ่าย ให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย และประชาชนที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่บ้านเหมืองแดง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย  ขณะที่ กองบังคับการผาทมิฬ หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก จัดกำลังพลชุดปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 8 ชุดปฏิบัติการ  ดำเนินการช่วยเหลือน้ำท่วมโดยการขนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย  และส่งอาหาร/น้ำดื่มให้ผู้ประสบภัย ในพื้นที่ ตำบลแม่สาย ตำบลเวียงพางคำ ตำบลศรีเมืองชุม และตำบลเกาะช้าง อำเภอแม่สายจังหวัดเชียงราย  ด้าน  นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) เปิดเผยถึงการติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ภายหลังจากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ร่วมกับ พลเอก มนัส จันดี หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บัญชาการทหารสูงสุด บริเวณจุดผ่านแดนถาวรสะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดี แม้ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาจะมีฝนตกตลอดทั้งคืน แต่ด้วยความร่วมไม้ร่วมมือของทุกภาคส่วนส่งผลให้พี่น้องประชาชนมีความสุขเพิ่มมากขึ้น โดยในขณะนี้น้ำที่เอ่อล้นจากแม่น้ำสายที่ท่วมขังบริเวณถนนด้านหน้าด่านศุลกากรแม่สายก็แห้งหมดแล้ว และเมื่อไปตรวจดูตามตรอกซอยบริเวณริมแม่น้ำแม่สายก็พบว่า ปัจจุบันระดับน้ำลดลงต่ำกว่าเดิมประมาณ 1 เมตรเศษ ใกล้เคียงที่จะเข้าสู่สถานการณ์ปกติ ทำให้ทางกองทัพสามารถช่วยอพยพผู้คนที่ติดค้างในอาคารบ้านเรือนสามารถทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้น “เมื่อคืนที่ผ่านมา หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ (หน่วยซีล) ของกองทัพเรือ ได้เดินทางมาถึงพื้นที่อำเภอแม่สายและได้ออกปฏิบัติหน้าที่ตามแผนปฏิบัติการที่ท่านผู้บัญชาการกองทัพไทยได้ซักซ้อมโดยทันที เพื่อเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ติดอยู่ภายในที่พักอาศัยจนถึงเช้าวันนี้ (12 กันยายน) สามารถช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ภายในที่พักเป็นคุณแม่และลูกอายุ 4 เดือนที่ตกค้างและมีผู้ใหญ่รวมแล้ว 8 คน โดยตั้งแต่ช่วงเช้าทหารมณฑลทหารบกที่ 37 และสำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้ออกปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชน โดย กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งกำลังพลของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กระจายกำลังไปครบทุกจุด เพื่อช่วยลำเลียง ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินได้ด้วยตนเอง เช่น บริเวณซอยเทศบาล 2 เทศบาลตำบลแม่สาย สามารถลำเลียงผู้สูงอายุ อายุประมาณ 80 ปีชายและหญิงออกมาบริเวณเกาะกลางถนน และประสานรถกู้ภัยรับตัวนำส่งตรวจสุขภาพเบื้องต้นที่โรงพยาบาลแม่สาย นอกจากนี้ได้พบผู้สูงอายุซึ่งเป็นเจ้าของร้านกำลังทำความสะอาดในบริเวณร้านซึ่งมีโคลนตมและน้ำขังเป็นจำนวนมาก สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่สายที่ 5 จึงได้เข้าไปช่วยขุดลอกร่องน้ำ ให้น้ำระบายออกจากบริเวณบ้านได้ ขณะเดียวกันทุกภาคส่วน ได้ร่วมกันบริหารจัดการเรื่องของอาหาร น้ำดื่ม ไปแจกจ่ายให้ทั่วถึงมากขึ้น” นายสุทธิพงษ์ กล่าว


แม้ว่าขณะนี้ อำเภอแม่สายกำลังจะเข้าสู่ระยะเวลาการฟื้นฟู ทำความสะอาด นำโคลนตมที่อยู่บริเวณที่อยู่อาศัยและถนนให้สะอาด แต่อย่างไรก็ดีทุกภาคส่วนยังคงแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศจากหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด โดยขอให้ฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกับเทศบาลตำบลแม่สายและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สร้างการรับรู้ความเข้าใจให้ประชาชนและผู้ประกอบการต้องมีความพร้อมในการเคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นสู่ที่สูง พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการแจ้งเตือนภัย ให้ประชาชนเคลื่อนย้ายอพยพให้ทันท่วงที โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำ หากฝนตกเกิน 100 มิลลิเมตร พอถึงประมาณ 50 มิลลิเมตร ให้รีบแจ้งเตือน ทั้งนี้ ในพื้นที่แม่สายวันนี้ ถ้าไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม ก็จะเข้าสู่ความเป็นปกติภายใน 4-5 วัน ด้วยความร่มไม้ร่วมมือ จึงต้องขอทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการอนุเคราะห์สนับสนุนทั้งด้านอาหาร ที่พักพิง ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งด้วยความร่วมไม้ร่วมมือเช่นนี้ทำให้ขณะนี้สถานการณ์ที่แม่สายดีขึ้นและไม่น่าวิตกมาก “ขณะเดียวกัน ในขณะนี้ในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ซึ่งรับน้ำจากแม่น้ำแม่กกที่มีต้นทางจากประเทศเพื่อนบ้านเช่นกัน สถานการณ์ค่อนข้างเข้าสู่ภาวะวิกฤต โดย นายพุทธิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เดินทางกลับไปที่อำเภอเมืองเชียงรายเมื่อช่วงสายวันนี้เพื่อบัญชาการเหตุการณ์แล้ว และขณะนี้ตนก็กำลังเดินทางไปสนับสนุนการช่วยเหลือ และในช่วงบ่าย กองบัญชาการกองทัพไทย ได้ส่งกำลังพลด้วยเครื่องบิน C-130 จำนวน 130 นาย มาช่วยในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงรายอีกด้วย และนางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงรายและประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย ได้ตั้งโรงครัวเหล่ากาชาดจังหวัดและโรงครัวแม่บ้านมท. ในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย เพื่อดูแลช่วยเหลือส่งอาหารและน้ำดื่มให้กับผู้ประสบอุทกภัย”นายสุทธิพงษ์ กล่าว

ทั้งนี้ ในเวลา 14.00 น. ด้วยความห่วงใยและความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือ ด้วยสถานการณ์ภาวะฉุกเฉินเร่งด่วน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับทราบสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่ และรับฟังข้อเสนอแนะจากภาคส่วนต่าง ๆ พร้อมทั้งมอบนโยบายในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัย ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งตนและผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย จะร่วมประชุมผ่านทางระบบ Video Conference จากจังหวัดเชียงราย 




























































































ภาพข่าว- วีดีโอ -ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 3 ธีรพงศ์ นาคแนม (นกพิราบศูนย์ข่าว จังหวัดพิจิตร)  ศูนย์ประสานงานข่าว น.ส.พ.ข้าแผ่นดินสยาม สมาชิกสมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนเพื่อสังคมประเทศไทย โทร 0831671688 รายงาน** คนรู้จักพัก ทว่าไม่รู้จักพอ ** จิตอาสาพัฒนา เราทำความดีด้วยหัวใจ....ร่วมใจกันพัฒนา


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น