วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2561

ทะเลเพลิง!! ด่วนระทึก !!! ! ทหารทัพ 3 ร่วมทุกหน่วยระดม เร่งช่วยเหลือผู้โดยสาร อุบัติเหตุกลางดึก แม่สอด ไฟไหม้รถวอดทั้งคันโกลาหล เร่งนำส่ง 29 ชีวิตรอดตาย เสียชีวิต 21 ศพ

ทะเลเพลิง!! ด่วนระทึก !!! ! ทหารทัพ 3 ร่วมทุกหน่วยระดม เร่งช่วยเหลือผู้โดยสาร อุบัติเหตุกลางดึก แม่สอด ไฟไหม้รถวอดทั้งคันโกลาหล เร่งนำส่ง 29 ชีวิตรอดตาย เสียชีวิต 21 ศพ
   กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดตาก มณฑลทหารบกที่ 310  และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัย, เจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร ,ชุดจราจร และชุดแพทย์ พยาบาลกู้ชีพฉุกเฉิน ของโรงพยาบาลค่ายวชิรปราการ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่ท้อ และ สถานีตำรวจภูธรพะวอ เข้าให้การช่วยเหลือ กรณี เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 30 มีนาคม 2561 หลังได้รับแจ้งมีรถบัสโดยสารเกิดอุบัติเหตุ มีไฟไหม้ทั้งคัน ซึ่งเป็นรถบัสโดยสารหมายเลขทะเบียน 10-3824 นครสวรรค์ เป็นรถรับจ้างไม่ประจำทางที่นำแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาไปทำบัตรต่อวีซ่าอายุทำงาน เพื่อขยายอายุการทำงานจาก 31 มีนาคม 2561 จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563  และเพื่อไปพิสูจน์สัญชาติ โดยออกจาก อำเภอแม่สอด จังหวัดตากในช่วงกลางดึก เพื่อไปอำเภอนวนคร จังหวัดปทุมธานี  เหตุเกิดบริเวณถนนสาย 12 เส้นทางแม่สอด - ตาก ถนนอุทยานตากสินมหาราช หลักกิโลเมตร ที่ 60 ถนนสาย อำเภอเมืองตาก - อำเภอแม่สอด เขต ตำบลด่านแม่ละเมา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยเมื่อเวลา 22.00 น. รถบัสโดยสารคันดังกล่าว ขับผ่านจุดตรวจความมั่นคงห้วยหินฝน โดยขับมาเป็นขบวน รถคันที่เกิดเหตุเป็นลำดับคันที่ 6
   ด้าน พันเอกเกรียงชัย อนันตศานต์ รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดตาก ได้เดินทางไปติดตามดูแลอำนวยการและจัดกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยกู้ชีพ กู้ภัย เจ้าหน้าที่ดับเพลิง เร่งดับไฟที่กำลังเกิดไฟลุกไหม้อย่างเร็ว และได้พยายามระดมกำลังเข้าช่วยเหลือผู้โดยสาร โดยทราบว่ามีแรงงานชาวเมียนมาร์เดินทางนั่งมาในรถโดยสารประมาณ 50 คน (เป็นแรงงานชาวเมียนมาร์ จำนวน 48 คน คนขับรถและภรรยาเป็นคนไทย จำนวน 2 คน) รวม 50 คน และจากการตรวจสอบพบว่ามีผู้หนีออกมาจากรถทัวร์ได้  29  คน (สัญชาติไทย 2 คน และสัญชาติเมียนมา 27 คน) ส่วนที่เหลือ อีก 21 คน ติดภายในห้องโดยสารของรถบัสหนีออกมาไม่ทันเสียชีวิต ทั้งหมด ซึ่งล่าสุดสามารถนำศพผู้เสียชีวติออกมาได้ทั้งหมดแล้ว รวม 21 ศพ แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นใครบ้าง เนื่องจากอยู่ในสภาพไหม้เกรียมเจ้าหน้าที่ลำเลียงศพไปยังโรงพยาบาลตากสินราชานุสรณ์ เพื่อชันสูตรศพอีกครั้ง
   ขณะที่นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก สั่งการให้เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่แรงงานที่รอดชีวิตอย่างเต็มที่ และสั่งการให้บริการดูแลประชาชนในการใช้รถเส้นทางสายแม่สอด - ตาก และตรวจสอบรถที่วิ่งความเร็วเกินกำหนด และไม่มีความพร้อมในการขับขี่ หรือรถไม่มีคุณภาพมาใช้งาน





















ข่าวทั่วไทย พิจิตร

วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2561

รองแม่ทัพภาคที่ 3 “ รุดติดตามเหตุรถบัสโดยสารไหม้ทั้งคันที่ตาก จนมีผู้เสียชีวิต 20 ราย พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บ ” กำชับเจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือỊỊ

รองแม่ทัพภาคที่ 3 “ รุดติดตามเหตุรถบัสโดยสารไหม้ทั้งคันที่ตาก จนมีผู้เสียชีวิต 20 ราย พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บ ” กำชับเจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือỊỊ

   เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2561 เวลา 08.30 น. พลตรีรเณศ อินทร์ยิ้ม รองแม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย พันเอกเกรียงชัย อนันตศานต์ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 310 , พันเอกเสมา มังมติ รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดตาก ,พลตำรวจตรี ปริญญา วิศิษฐฎากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก และ  นายสมชาย ไตรทิพย์ชาติสกุล นายอำเภอเมืองตาก  ลงพื้นที่เกิดเหตุติดตามกรณีรถบัสโดยสารไม่ประจำทางนำแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาไปทำบัตรต่อวีซ่าอายุทำงาน และเกิดเพลิงไฟลุกไหม้อย่างเร็ว ทำให้รถเสียหายทั้งคัน โดยรถบัสโดยสารคันดังกล่าว นำแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาไปทำบัตรต่อวีซ่าอายุทำงานและพิสูจน์สัญชาติ โดยออกจาก อำเภอแม่สอด จังหวัดตากในช่วงกลางดึก เพื่อไปนวนคร จังหวัดปทุมธานี  เหตุเกิดบริเวณถนนสาย 12 เส้นทางถนนอำเภอเมืองตาก - อำเภอแม่สอด หน้าอุทยานตากสินมหาราช หลักกิโลเมตร ที่ 60 เขตตำบลด่านแม่ละเมา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เมื่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 30 มีนาคม 2561 ทำให้มีผู้เสียชีวิต รวม 21  ราย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บที่สามารถหนีออกมาจากรถบัสได้มีจำนวน 29  คน เป็นสัญชาติไทย 2 คน และสัญชาติเมียนมา 27 คน 
   ด้าน สำนักนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ กับวิทยาการตำรวจภูธรจังหวัดตาก และ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ตำรวจภูธรจังหวัดตาก เข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุและตรวจสอบสาเหคุเพื่อหาหลักฐานทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ ดังกล่าว ก่อนจะนำผลการตรวจสอบพร้อมหลักฐานทั้งหมดมาสรุปสำนวนการสอบสวนคดีนี้ และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
   จากนั้นเวลา 09.30 น. พลตรีรเณศ อินทร์ยิ้ม รองแม่ทัพภาคที่ 3 และคณะ เดินทางไปรับฟังการสอบสวนผู้โดยสารที่รอดชีวิต และเยี่ยมพบปะให้กำลังใจ ด้วย พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้รอดชีวิตเป็นอย่างดี ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บนั้น ทีมแพทย์ทหาร พยาบาลฉุกเฉิน M-MERT ของโรงพยาบาลค่ายวชิรปราการ ได้ทำการปฐมพยาบาล ให้การรักษาในเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจรักษาอย่างละเอียดต่อไป ณ สถานีตำรวจภูธรตำบลแม่ท้อ ตำบลแม่ท้อ อำเภอเมือง จังหวัดตาก
   ต่อมา เวลา 10.00 น. รองแม่ทัพภาคที่ 3 และคณะ เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จำนวน 2 ราย และสำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้รับการส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก จำนวน 1 ราย โดยมี นายแพทย์จรัล วิวัฒน์คุณูปการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นผู้ให้ข้อมูลการตรวจรักษาฯ ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก
























ข่าวทั่วไทย

วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2561

กองทัพภาคที่ ๓ จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

กองทัพภาคที่ ๓ จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
พลโท วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานในการจัด “กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 63 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2561” ณ ลานพื้นแข็งสโมสรบันเทิงทัพ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม 2561

  พลโท วิจักขฐ์  สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 และ คุณ สุภาพ  สิริบรรสพ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 3 ได้นำกำลังพล และครอบครัว พร้อมทั้งนักศึกษาวิชาทหาร รวมถึงมวลชนรอบค่ายของหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 3 ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ถวายราชสักการะ และกล่าวถวายพระพรเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องใน  วันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ  63 พรรษา ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้ ที่ใต้ฝ่าละอองพระบาท ทรงมีพระวิริยะอุตสาหะ บำเพ็ญพระราชกรณียกิจด้วยพระเมตตา จนเป็นที่ประจักษ์ อยู่ในดวงใจของเหล่าพสกนิกรชาวไทยตลอดมา รวมทั้งทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน กองทัพ และประเทศชาติ ทรงเป็นปราชญ์แห่งการพัฒนามนุษย์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีสารสนเทศ   และความมั่นคงของประเทศ ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนทุกระดับ ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดจนเผยแพร่พระเกียรติคุณในพระปรีชาสามารถในด้านต่างๆ หลายแขนงทั้งด้านดนตรี การศึกษา การพัฒนาสังคม การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยด้านภาษาและวรรณศิลป์ ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อนานาอารยประเทศ โดยเฉพาะเมื่อเสด็จฯไปทรงเยือนประเทศต่างๆ จะทรงศึกษาและทรงนำแนวทางต่างๆมาพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ชุมชนและประเทศชาติตลอดมา
 พร้อมนี้ กองทัพภาคที่ 3 ได้จัดกิจกรรมการรับบริจาคโลหิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ณ ห้องบันเทิงทัพ 101 สโมสรบันเทิงทัพ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมีเหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลก พร้อมเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล จากโรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช คอยให้บริการรับการบริจาคโลหิตจากกำลังพลของหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 3 ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก นักศึกษาวิชาทหารมณฑลทหารบกที่ 39 และครอบครัวกำลังพล พร้อมกับมอบเข็มกลัดกาชาดให้กับผู้บริจาคโลหิตในครั้งนี้ด้วย




















ข่าวทั่วไทย พิจิตร

1ในผลงานของ“พรรคประชาธิปัตย์“ ”เฉลิมชัย ศรีอ่อน“หัวหน้าพรรคปชป.หวัง สว.รับไม้ต่อกฎหมายสมรสเท่าเทียมหลังสภาผู้แทนฯผ่านวาระ3 ทันทีที่ประชุมสภา...