กองทัพภาคที่ 3 จัดแถลงข่าวการจับกุมขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดยาบ้า 9,400,000 เม็ด และ ไอซ์ 788 กิโลกรัม
พลตำรวจเอก ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตรี ฉลองชัย ชัยยะคำ รองแม่ทัพภาคที่ 3/รองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองทัพภาคที่ 3 พลตำรวจโท พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5, พลตรี จิรเดช กมลเพ็ชร ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง, นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และ นายคณิศร ภาพีรนนท์ ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการข่าวและปราบปรามยาเสพติด 4 ร่วมกัน “แถลงข่าวการจับกุมขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 9,400,000 เม็ด และยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 788 กิโลกรัม” ณ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 ค่ายเม็งรายมหาราช ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เมื่อวันอังคารที่ 3 เมษายน 2561
ตามที่แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองทัพภาคที่ 3 ได้กรุณาเดินทางมาตรวจเยี่ยม เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 ในเรื่องการสกัดกั้นยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดนไทย – สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ด้าน อำเภอเชียงของ และอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2561 ได้กรุณาสั่งการให้เพิ่มมาตรการในการสกัดกั้นยาเสพติด โดยให้บูรณาการแผนการปฏิบัติกับ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ และ ส่วนปฏิบัติการข่าวและปราบปรามยาเสพติด 4 นั้น
เมื่อวันอังคารที่ 3 เมษายน 2561 เวลา 00.15 น. โดยสถานีตำรวจภูธรเวียงแก่น ร่วมกับ กองร้อยทหารพรานที่ 3106 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 31 กองกำลังผาเมือง และหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตเขียงราย ได้ทำการลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ บริเวณ บ.ไทยเจริญ หมู่ 8 ต.ม่วงยาย อ.เวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ได้ตรวจพบรถยนต์กระบะ ต้องสงสัย ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นวีโก้ สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 ฒอ 363 กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้น แต่คนขับรถคันดังกล่าว เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ ได้จอดรถแล้ววิ่งหลบหนี ไม่สามารถติดตามจับกุมได้ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ พบกระสอบ จำนวน 84 กระสอบ ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) จำนวน 9,400,000 เม็ด และยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 788 กิโลกรัม
โดยผลของการจับกุมขบวนการลำเลียงยาเสพติดในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะสามารถนำข้อมูลที่สอบสวนได้นั้น ดำเนินการขยายผลได้ถึงต้นตอ รายใหญ่ และทำให้รู้วิธีการขนยาเสพติด และเส้นทางการลำเลียงของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ซึ่งสามารถช่วยให้เจ้าหน้าที่นำไปเพิ่มมาตรการต่างๆ ให้เข้มงวดขึ้น และใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาในการป้องกันปราบปรามยาเสพติด เพื่อลดการแพร่ระบาดของ ยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ อีกทั้งยังช่วยสกัดกั้นยาเสพติดที่จะทะลักเข้ามาในพื้นที่ตอนในของประเทศไทยอีกด้วย ดังนั้น ต้องร่วมกันผนึกกำลังทั้ง ทหาร ตำรวจ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน เพื่อมุ่งไปสู่การแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน
ข่าวทั่วไทย พิจิตร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น