วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

“รองนายกฯภูมิธรรม” ติดตาม กำชับการปฏิบัติงาน การสกัดกั้น การลักลอบลำเลียงยาเสพติด และแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

“รองนายกฯภูมิธรรม” ติดตาม กำชับการปฏิบัติงาน การสกัดกั้น การลักลอบลำเลียงยาเสพติด และแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

วันนี้ (6 ก.พ.2568) เวลา 10.20 น. ที่ห้องประชุมอาคารเทอร์มินอล สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมกำชับการปฏิบัติงานการสกัดกั้น การลักลอบลำเลียงยาเสพติด และการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณพื้นที่ชายแดน จังหวัดตาก  โดยมีนายบุญช่วย หอมยามเย็น รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับและร่วมประชุม 

โดยที่ประชุมรับทราบรายงานสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ 5 อำเภอแนวชายแดน จังหวัดตาก สถานการณ์ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงเรื่องการระงับการขายไฟฟ้า ที่จ่ายไปยังเมืองชเวโก๊กโก การตัดสัญญาณโทรศัพท์ และการถอดจานรับสัญญาณ เป็นต้น เพื่อหารือแนวทางการแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์อย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม เพื่อดูแล ปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน และความมั่นคงของประเทศ

ทั้งนี้รองนายกฯ กล่าวว่าได้มารับทราบผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ พร้อมให้กำลังใจกับผู้ปฏิบัติงานในการทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน สำหรับมาตรการตัดไฟฟ้า น้ำมัน และสัญญาณอินเตอร์เน็ต เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนชาวไทยจากภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสามารถนำเสาสัญญาณอินเตอร์เน็ตลงได้ทั้งหมด จากนั้นจะทำความเข้าใจและขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการท่าข้ามทั้ง 59 ท่าข้ามในพื้นที่ถึงมาตรการที่รัฐบาลได้ดำเนินการ

จากนั้นในช่วงบ่ายรองนายกฯ พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อ.แม่สอด ตรวจติดตามจุดที่ตัดไฟฟ้าไปก่อนหน้านี้ พร้อมรับชาวต่างชาติ  61 คน 7 สัญชาติ ที่เข้าข่ายการถูกหลอกลวงและการค้ามนุษย์ในเมียนมา กลับเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทย โดยกองกำลังพิทักษ์ชายแดน BGF ที่ดูแลพื้นที่เขตเศรษฐกิจชเวก๊กโก่และเคเคปาร์ค ในเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ได้ส่งชาวต่างชาติจำนวน 61 คน มายังประเทศไทย ที่ด่านพรมแดนแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งในจำนวน 61 คน เป็นชาวจีน 39 คน อินโดนีเซีย 5 คน อินเดีย 13 คน ส่วนสัญชาติเอธิโอเปีย ปากีสถาน มาเลเซีย และคาซัคสถาน สัญชาติละ 1 คน โดยทั้งหมดได้ส่งผ่านทางสะพานมิตรภาพไทยเมียนมาแห่งที่ 2 จากนั้นจะนำตัวเข้าคัดกรองตามกลไกการส่งต่อระดับชาติหรือ NRM เพื่อตรวจสอบตามขั้นตอนว่าเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์หรือเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์หรือไม่ก่อนพิจารณาส่งกลับประเทศต่อไป

ต่อมาคณะของรองนายกฯ ได้ลงพื้นที่จุดจำหน่ายไฟฟ้าบ้านวังผา อำเภอแม่ระมาด  ก่อนเดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ กำลังพลที่หน่วยเฉพาะกิจราชมนู โดยรองนายกฯกล่าวชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยเฉพาะกิจราชมนูที่ตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลโดยเฉพาะมาตรการ “ตัดน้ำ ตัดเน็ต ตัดน้ำมัน” เพื่อให้เครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติไม่สามารถใช้ทรัพยากรของไทยเป็นฐานได้ โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนการทำงานของกำลังพลเพื่อให้สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ รองนายกฯภูมิธรรม ระบุว่ามาตรการ ตัดไฟฟ้า ตัดน้ำมัน ตัดอินเตอร์เน็ต ของรัฐบาลจะดำเนินอย่างเข้มข้นโดยจะมีการประเมินและทบทวนกันอย่างน้อย 3 เดือน และพร้อมยกระดับความเข้มข้นของมาตรการหากพบว่าปัญหายังไม่คลี่คลาย โดยให้มั่นใจว่าฝ่ายความมั่นคงจะดูแลและแก้ไขปัญหานี้อย่างเต็มที่ต่อไป…// 



















ภาพ/ข่าว สำนักงานประชาสัมพันธ์

พิภพ  ลูกพระยาตาก  ข่าวออนไลน์

สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดตาก  สมาคมสื่อมวลชนภาคเหนือ  รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

องคมนตรี ตรวจเยี่ยมโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 55 จังหวัดตาก

องคมนตรี  ตรวจเยี่ยมโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 55 จังหวัดตาก วันนี้ (6 ก.พ.68) พลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี ในฐานะประธานกรรมการบริหารมูล...