วันเสาร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2568

วาระ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน “อลงกรณ์”ปาฐกถามั่นใจความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไทย-จีนมีแนวโน้มสดใส


วาระ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน “อลงกรณ์”ปาฐกถามั่นใจความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไทย-จีนมีแนวโน้มสดใส

นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบันเอฟเคไอไอ.ไทยแลนด์(FKII Thailand) และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศได้รับเชิญเป็นองค์ปาฐกและร่วมเป็นประธานเปิดการประชุมนักธุรกิจและประกาศเกียรติคุณกิจการและองค์กรที่มีผลงานดีเด่นในวาระเฉลิมฉลอง 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนกับราชอาณาจักรไทยจัดโดยสมาคมการค้าไทย-จีนและเศรษฐกิจเอเชีย ร่วมกับองค์กรปานามา แปซิฟิก อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็กโปซิชั่น( Panama Pacific International Exposition )ที่โรงแรมเดอะแกรนด์ โฟวิงก์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานครโดยนายอลงกรณ์ปาฐกถาแสดงความมั่นใจว่าความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไทย-จีนมีแนวโน้มสดใสพร้อมกับโชว์ธนบัตรฉบับแรกของไทยที่นำออกใช้ในปี 2445 (ค.ศ 1902)หรือเมื่อ 123 ปีก่อนในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5มีภาษาจีนปรากฏในธนบัตรดังกล่าวซึ่งในหลวงรัชกาลที่5ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้คนจีนสามารถทำมาหากินทำการค้าธุรกิจในประเทศไทย(สยาม) ต่อมาอีก100ปีรัฐบาลไทยจึงให้จัดพิมพ์ธนบัตรดังกล่าวโดยพิมพ์เพิ่มด้านหลังเป็นพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่5และรัชกาลที่9เพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงทั้ง2พระองค์ซึ่งในรัชสมัยของในหลวงรัชกาลที่9ทรงสถาปนาความสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนกับราชอาณาจักรไทยอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ.2518 ซึ่งได้รับความสนใจจากที่ประชุมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้นายอลงกรณ์ยังกล่าวยกย่อง ม.ล.สุภาพ ปราโมชว่าเป็น1ในคนไทยที่ทุ่มเทสานสัมพันธ์ไทย-จีนโดยเดินทางไปเยือนแผ่นดินใหญ่จีนถึง 157 ครั้งนับแต่ร่วมคณะม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช นายกรัฐมนตรีไปสถาปนาความสัมพันธ์ที่กรุงปักกิ่งในปี พ.ศ.2518


โดย นายอลงกรณ์กล่าวปาฐกถาตอนหนึ่งว่า

“…วันนี้ เราทุกคนมารวมกัน ณ ที่แห่งนี้ ก่อนอื่น ขออวยพรให้ทุกท่านมีความสุขในปีใหม่ และในปีนี้ เราร่วมกันเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย ซึ่งเป็นช่วงเวลาอันทรงคุณค่า และร่วมกันหารือถึงโอกาสใหม่ๆ ในการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและไทย

    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การค้าระหว่างจีนและไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มูลค่าการค้าทวิภาคีทำสถิติสูงสุดใหม่ การแลกเปลี่ยนทางการค้าในภาคสินค้าเกษตรผลิตภัณฑ์เครื่องจักรกลและไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์เคมีมีมากขึ้นเรื่อยๆ ผลไม้คุณภาพสูงและข้าวของไทยเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ผู้บริโภคชาวจีน ในขณะที่เครื่องจักรกลและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ของจีนก็มีบทบาทสำคัญในตลาดไทยเช่นกัน   

       


ภายใต้การผลักดันของนโยบาย “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ของรัฐบาลจีน การเชื่อมโยงระหว่างจีนและไทยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น รถไฟความเร็วสูงจีน-ไทย ได้สร้างช่องทางที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นสำหรับการค้าระหว่างกัน ในขณะเดียวกัน การแลกเปลี่ยนในด้านการท่องเที่ยว วัฒนธรรมและการศึกษาของทั้งสองฝ่ายก็มีการพัฒนาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน เราจะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน สนับสนุนนวัตกรรมทางเทคโนโลยี และการแลกเปลี่ยนบุคลากรเพื่อร่วมกันขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ เพื่อส่งเสริมความเข้าใจและมิตรภาพระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ       

       เมื่อมองไปสู่อนาคต โอกาสในการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและไทยมีแนวโน้มสดใส โดยเฉพาะในวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เราจะส่งเสริมมิตรภาพดั้งเดิม เสริมสร้างความเชื่อมโยงทางยุทธศาสตร์ และแสวงหาโอกาสความร่วมมือในสาขาใหม่ๆ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล พลังงานทดแทน เพื่อผลักดันความร่วมมือในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีนและไทยให้บรรลุผลสำเร็จมากยิ่งขึ้น ทำให้ต้นไม้แห่งมิตรภาพจีน-ไทยเจริญงอกงามยิ่งขึ้น นำมาซึ่งความสุขและความเจริญให้แก่ประชาชนทั้งสองประเทศ และมีส่วนร่วมในการสร้างสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคมากยิ่งขึ้น…”








 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ไฟฟ้า หงสา ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน จัดทำโครงการ “พัฒนาศักยภาพด้านการศึกษา เด็กน่านสู่ความเป็นเลิศ ประจำปีงบประมาณ 2568” ณ โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร จังหวัดน่าน

ไฟฟ้า หงสา ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน จัดทำโครงการ “พัฒนาศักยภาพด้านการศึกษา เด็กน่านสู่ความเป็นเลิศ ประจำปีงบประมาณ 2568” ณ โรงเร...