นบ.ยส.24 แถลงข่าวโชว์ผลงานการตรวจยึด เฮโลอีน จำนวน 32 แท่ง, ยาไอซ์ น้ำหนัก 117 กก. และจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 80 มัด ประมาณ 160,000 เม็ด ในพื้นที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เมื่อวันที่ 18 พ.ย.67 เวลา 10.00 น. ที่กองร้อยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พล.ต.ฉัฐชัย มีชั้นช่วง รอง ผบ.นบ.ยส.24 (2)/ผบ.มทบ.210, พ.อ.กัญญนัต ไชโอชะ รอง ผอ.ส่วนอำนวยการ นบ.ยส.24 (2),พ.อ.ศรณณัฐ นวยมณี รอง ผบ.บก.ควบคุมที่ 1(ร.3)กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี / รองผอ.ส่วนอำนวยการ นบ.ยส.24 (5) นายสุรศักดิ์ กันสูงเนิน ป้องกันจังหวัดนครพนม,พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผกก.ตดช.23, พ.ต.อ.หญิง จีระนันท์ ธนะสิงห์ ผกก.พฐ.นครพนม,พ.ต.ท.สมพล ห้าวหนู รอง ผกก.ตชด.23 พร้อมด้วย พ.ต.ท.เรวัฒ จำปาน ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 และชุดปราบปรามยาเสพติดฯ พร้อมหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมแถลงข่าวตรวจยึดเฮโรอีน 32 แท่ง ยาไอซ์ 117 ห่อ/กก.
โดยเมื่อ วันที่ 16 พ.ย.67 เวลา 22.00 น. ชุดปราบปรามยาเสพติด กองร้อยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่กำลังจะออกไปกรีดยางว่าพบเห็นพระพุทธรูป จำนวน 3 องค์ ที่ถูกวางไว้ข้างทางห่างจากแหล่งชุมชนหมู่บ้านพอสมควร บริเวณทางเข้าหมู่บ้านดอนแดงน้อย ต.ท่าจำปา อ.ทำอุเทน จ.นครพนม เป็นที่น่าสงสัย จึงรีบแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ฯ เพื่อให้นำไปตรวจสอบและคาดว่าอาจจะมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ภายใน เมื่อเข้าไปสำรวจตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามียาเสพติดที่มีลักษณะวางซุกซ่อนในองค์พระพุทธรูปเป็นจำนวนมากจริง ก่อนถูกหล่อด้วยน้ำยาเรซิ่นอยู่ภายใน แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ยังคงวางกำลังดักซุ่มรอ เพื่อหวังจะมีผู้มารับพระจำนวนดังกล่าวจนกระทั่งถึงเช้า เมื่อไม่มีผู้ใดมารับหรือแสดงตัวเป็นเจ้าของ จึงได้ทำการตรวจยึดและนำพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ มายังกองร้อยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 เพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียด จึงพบว่าในองค์พระพุทธรูปทั้ง 3 องค์นั้น มียาเสพติดให้โทษให้โทษประเภทที่ 1 (เฮโรอีน) จำนวน 32 แท่งและยาไอซ์ จำนวน 117 ห่อ /กิโลกรัม สำหรับยาไอซ์ที่ตรวจยึดไว้ได้ ถูกจัดเรียงไว้ภายในขององค์พระพุทธรูปก่อนใช้น้ำยาเรซิ่นเทหล่อทับเพื่อพรางสายตาเจ้าหน้าที่ สำหรับการตรวจยึดยาเสพติดจำนวนมากในครั้งนี้ อาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้วยดีตลอดมา จึงทำให้ผลการตรวจยึดของกลางจำนวนดังกล่าวเป็นผลสำเร็จก่อนที่ ยาเสพติดจำนวนนี้จะทะลักเข้าไปสู่พื้นที่ชั้นในต่อไป
อีกคดีเมื่อ วันที่ 17 พ.ย.67 เวลา 07.00 น. ชุดปราบปรามยาเสพติด กองร้อยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติด เข้ามาในพื้นที่ จึงได้จัดกำลังพลทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ บริเวณพื้นที่ ปั้ม ปตท.บ้านแพง ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ตามที่รับแจ้ง จนกระทั้งเวลาประมาณ 07.00 น. ตรวจพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุสีเทาทะเบียนหมายเลข 3 ฒต 9723 กรุงเทพฯ จอดอยู่บริเวณปั๊ม ปตท.บ้านแพง จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว พบชาย 2 คน และ ผู้หญิง 1 คน จึงแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ขอทำการตรวจค้นรถกระบะคันดังกล่าว พบว่าเป็นยาเสพติดประเภท 1 ยาบ้า จำนวน 80 มัด ประมาณ 160,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง และปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน1 กระบอก จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาทำการขยายผล ณ กองร้อยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 ต่อไป
ทางด้าน พล.ต.ฉัฐชัย มีชั้นช่วง รอง ผบ.นบ.ยส.24 (2)/ผบ.มทบ.210 กล่าวว่า ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ได้มอบหมายให้กองทัพภาคที่ 2 จัดตั้ง นบ.ยส.24 เป็นหน่วยหลักในการบูรณาการสกัดกั้น ป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมอบหมายให้ กองกำลังป้องกันชายแดน เป็นส่วนสกัดกั้น, ตำรวจภูธร เป็นส่วนปราบปราม และ ศอ.ปส.จว. เป็นส่วนป้องกัน ซึ่งการบูรณาการนี้ ได้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม จนถึงปัจจุบัน ในห้วงที่ผ่านมา มีสถิติการจับกุมในพื้นที่อำเภอชายแดนของจังหวัดนครพนม จำนวน 54 ครั้ง ผู้ต้องหา 120 คน โดยมีของกลางยาบ้ามากถึง 1,183,747 เม็ด, เฮโรอีน 67.10 กิโลกรัม และไอซ์ 117.295 กิโลกรัม การจับกุมในพื้นที่รับผิดชอบทั้งหมด 7 จังหวัด 25 อำเภอ จำนวน 167 ครั้ง ผู้ต้องหา 275 คน โดยมีของกลางยาบ้ามากถึง 19,978,876 เม็ด, ไอซ์ 765.295 กิโลกรัม, เฮโรอีน 85.63 กิโลกรัม, เคตามีน 3.79 กิโลกรัม, และอื่นๆ (ยาอี 1,484 เม็ด, happy Water 410 ซอง, ฝิ่น 0.66 กรัม)ซึ่งนโยบายเร่งด่วนในการป้องกันปราบปรามการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าประเทศตามแนวชายแดนทั่วประเทศ โดยสืบสวนหาข่าว ลาดตระเวนช่องทางต่างๆ และตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามจุดเสี่ยง ทำให้ผู้ค้ายาเสพติดต้องหาวิธีการใหม่ๆในการส่งต่อยาเสพติดเข้ามายังพื้นที่ตอนใน ซึ่งผลการปฏิบัติในครั้งนี้ ก็เป็นการทำงานเจ้าหน้าที่ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ และหน่วยความมั่นคงและทุกส่วนราชการที่ได้ปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง และบูรณาการร่วมกันจนทำให้การจับกุมในครั้งนี้ประสบความสำเร็จทำให้สามารถตรวจยึดยาเสพติดได้ในปริมาณมากอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะได้เพิ่มการเฝ้าระวังบริเวณแนวชายแดน และพื้นที่เสี่ยง อย่างเข้มแข็งต่อไป เพื่อป้องกันปราบปรามยาเสพติดให้สิ้นซากอย่างเด็ดขาดต่อไป
ขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่าน ที่มาร่วมเป็นสักขีพยาน และช่วยประชาสัมพันธ์ ข้อมูลข่าวสาร ขอให้สื่อได้ช่วยเป็นกระบอกเสียง เชิญชวนประชาชนร่วมแจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการลักลอบค้ายาเสพติด หรือข้อมูลผู้ค้ายาเสพติดผ่านช่องทางตรงของ นบ.ยส.24 ที่เบอร์ 064-6641982 หรือผ่านเจ้าหน้าที่ในหน่วยกำลังป้องกันชายแดนทุกหน่วย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ปัญหายาเสพติดลดลง และพี่น้องประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินต่อไป
ภาพ : นบ.ยส.24
ข่าว : พรพิพัฒน์ เพ็ชรสังหาร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น