แถลงผลการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ จับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ๑ ราย
.คณะรัฐมนตรี โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๖ กรอบนโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นำความปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรี และนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย จะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึดหลัก "เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย" สนับสนุนให้ผู้เสพเข้ารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง เพื่อเพิ่ม จำนวนทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพให้กลับสู่สังคมและพัฒนาความสามารถให้เข้าสู่ภาคแรงงาน ส่วนผู้ผลิตผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ "ยึดทรัพย์" เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดพร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูตกับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย และดึงประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร
ตำรวจภูธรภาค ๓ โดย พล.ต.ท.ฐากูร นัทธีศรี ผบช.ภ.๓, พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.๓ /ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓, นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปส.ภาค ๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวนจับกุมผู้ค้ายาเสพติด ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติ การทำลายเครือข่ายตัดวงจรยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นใน
.ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ประสงค์ เรืองเดช ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี
-เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเขมราฐ
-เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังสุรนารี
-เจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ ๒๓๐๒
-เจ้าหน้าที่ทหารเรือ หน่วย นรข.อุบลราชธานี
-เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด กก.สืบสวน ๒ บก.สส.ภ.๓
-รอง ผกก.กก.สืบสวย ๒ บก.สส.ภ.๓
-เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ๒๒๗
-เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอเขมราฐ
เมื่อวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๗ สิบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประสานการปฏิบัติ ร่วมกันจับกุม นายไพรัช แสงอร่วม อายุ ๔๔ ปี บ้านเลขที่ ๖๔ หมู่ที่ ๔ บ้านแก้งเกลี้ยง ต.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี พร้อมของกลางยาบ้า ๓๑๐ มัด (ประมาณจำนวน ๖๒๐,๐๐๐ เม็ด )
เหตุเกิด บ้านแก้งเกลี้ยง ต.เขมราฐ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๗ เวลาประมาณ ๒๑.๔๐ น.
ตำรวจภูธรภาค ๓ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้งเบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถานประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙, สายด่วน ๑๙๑ และ Application Police I lert U ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และลดปัญหายาเสพติด ในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สังคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติด ต่อไป
ภาพ/ข่าว : ตำรวจภูธรภาค 3
กันตินันท์ เรืองประโคน ผู้สื่อข่าวภูมิภาค นครราชสีมา/รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น