องคมนตรี เชิญถุงพระราชทาน มอบแก่ราษฎรที่ประสบวาตภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ องคมนตรี เชิญถุงพระราชทาน เครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบวาตภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ยังความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566  เวลา 10 นาฬิกา 55 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ร่วมกับ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทาน และเครื่องอุปโภคบริโภค มอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และราษฎรที่ประสบวาตภัยในพื้นที่บ้านม้งดอยปุย จำนวน 541 ถุง ณ ลานกิจกรรมโรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์ 1 อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

ในช่วงบ่าย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ร่วมกับ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทาน และเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 1,856 ถุง ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบวาตภัยในพื้นที่ตำบลฟ้าฮ่าม ณ อาคารศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

โอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวให้ราษฎรที่ประสบวาตภัย และเจ้าหน้าที่ได้รับทราบ พร้อมลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทาน และเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวราษฎรที่ประสบวาตภัยบริเวณหมู่บ้านม้งดอยปุย และพื้นที่ตำบลฟ้าฮ่าม จำนวน 10 ครอบครัว ยังความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณา

ในการนี้ องคมนตรี ได้ร่วมประชุมรับฟังการเกิดเหตุวาตภัย การแก้ไข รวมทั้งการดำเนินการให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ แก่ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบ โดยมี ปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

จังหวัดเชียงใหม่ ได้เกิดเหตุวาตภัยและพายุฤดูร้อน ในช่วงบ่ายวันที่ 18 และวันที่ 19 มีนาคม 2566 โดยมีฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกในพื้นที่ต่าง ๆ ส่งผลทำให้บ้านเรือนราษฎรเสียหายทั้งหลังและเสียหายบางส่วน สิ่งสาธารณประโยชน์ ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง และต้นไม้หักโค่นทับสายไฟฟ้าแรงสูงกีดขวางเส้นทางการจราจร โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ จากเหตุวาตภัยดังกล่าวทำให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบ จำนวน 4,380 ครัวเรือน ในพื้นที่ 8 อำเภอ 27 ตำบล 92 หมู่บ้าน ปัจจุบันสถานการณ์ได้คลี่คลายแล้ว คงเหลือเพียงบางพื้นที่ โดยจังหวัดเชียงใหม่ได้เร่งดำเนินการสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ เป็นการเร่งด่วนด้วยแล้ว

ภาพข่าวศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 3  (นกพิราบศูนย์ข่าว จังหวัดพิจิตร)  โทร 0831671688 รายงาน ** คนรู้จักพัก ทว่าไม่รู้จักพอ **