ทหารพราน 31 ร่วมกับ บมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สร้างฝายชะลอน้ำ ดอยตุง
ย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีก่อนหน้านี้ พื้นที่ดอยตุง จังหวัดเชียงราย ถือเป็นพื้นที่ทุรกันดาร สภาพป่าเขาบนดอยมีความเสื่อมโทรม เนื่องจากการตัดไม้ทำลายป่า การปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย จนทำให้ดอยตุงกลายเป็นเขาหัวโล้น พื้นดินแห้งแล้งขาดความอุดมสมบูรณ์ ประชาชนทั้ง 6 ชนเผ่าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดอยตุงมีความยากจนและขัดสนอย่างยิ่ง
จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2531 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงเล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าวจึงริเริ่ม “โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” ขึ้นมา ซึ่งถือเป็นโครงการพัฒนาโครงการแรกของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่น้อมนำศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มาเป็นหลักในการพัฒนาฟื้นฟูสภาพป่าเขาที่เสื่อมโทรม ควบคู่ไปกับการสร้างงานและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนบนพื้นที่ดอยตุงให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน ….หัวหน้าชุดปฏิบัติการทหารพรานดอยตุงหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 31 จัดกำลังพล ร่วมกับ งานพัฒนาสังคม สำนักงานประสานงานโครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ, หน่วยป้องกันไฟป่าดอยตุง, ชุดพัฒนามวลชนสัมพันธ์ที่ 3209 กองกำลังผาเมือง , คณะผู้บริหารและพนักงานธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) , ร่วมกิจกรรมการสร้างฝายอนุรักษ์ ประจำปี 2565 ตามโครงการสร้างฝายต้นน้ำลำธาร ฝายชะลอความชุ่มชื้น ณ บ้านแม่เปิน หมู่ที่ 13 ตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย จำนวน 8 ฝ่าย ซึ่งมีความยาว 3 เมตร ความกว้าง 60 เซนติเมตร และความสูง 60 เซนติเมตร มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 200 คน พื่อฟื้นฟูความสมบูรณ์ของธรรมชาติและแหล่งน้ำบนดอยตุง ซึ่งเปรียบเสมือนต้นน้ำที่สำคัญสำหรับชุมชนท้องถิ่นเพื่อการดำรงชีวิตและการเกษตร โดยฝายชะลอน้ำจะช่วยชะลอการไหลของน้ำในฤดูน้ำหลาก และช่วยเพิ่มปริมาณน้ำใต้ดินอันเป็นประโยชน์ต่อการทำประปาหมู่บ้าน รวมทั้งช่วยรักษาความชุ่มชื้นอุดมสมบูรณ์แก่ผืนป่า ตลอดจนยังเป็นแนวป้องกันธรรมชาติจากไฟป่าอีกด้วย
โครงการสร้างฝายชะลอน้ำ ดอยตุง อาศัยความร่วมมือร่วมใจของเหล่าอาสาสมัครพนักงานกรุงศรีและบริษัทในเครือ พันธมิตรทางธุรกิจ หน่วยทหาร และชุมชนท้องถิ่น ในการรักษาสมดุลย์ของสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ และสังคม เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน ซึ่งนอกจากจะบรรลุตามวัตถุประสงค์ดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ เป้าหมายที่ 6: การบริหารจัดการน้ำและการสุขาภิบาลอย่างยั่งยืน เป้าหมายที่ 15: การส่งเสริมการใช้ระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน และเป้าหมายที่ 17: ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน อีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น