ป.ป.ท. พบพิรุธเบิกจ่ายงบประมาณฯ พร้อมเร่งขยายผลตรวจสอบสาธารณสุขอำเภอในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ส่อทุจริตหมู่ ปลอมลายมือชื่อและนำรายชื่อผู้เสียชีวิต“จัดโครงการทิพย์” มูลค่าความเสียหาย กว่า 3 ล้านบาท
วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม 2565) นายภูมิวิศาล เกษมศุข รองเลขาธิการ รักษาราชการแทน เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. มอบหมายให้นายพุฒิพงษ์ เลิศสถิตย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พร้อมด้วยพันตำรวจโท
สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) ลงพื้นที่ ณ ที่ว่าการอำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา เพื่อตรวจสอบ
การดำเนินโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการในการป้องกันโรคให้กับประชาชนของสำนักงานสาธารณสุขอำเภอในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา (32 อำเภอ) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 สืบเนื่องมาจากมีผู้ร้องเรียนการจัดอบรมเท็จในพื้นที่อำเภอด่านขุนทด นำไปสู่การไต่สวนข้อเท็จจริงของสำนักงาน ป.ป.ท. และมีข้อมูลครอบคลุมไปถึงการจัดโครงการที่ได้รับงบประมาณเดียวกันในจังหวัดนครราชสีมา อีกจำนวน 31 อำเภอที่เหลือ
สำนักงาน ป.ป.ท. ในฐานะฝ่ายเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) จึงได้ขยายผลตรวจสอบกรณีการดำเนินโครงการดังกล่าวทั้งพื้นที่ในจังหวัดนครราชสีมา เบื้องต้นจำนวน 26 อำเภอ พบว่า อาจไม่มีการจัดโครงการฯ จริง ตามที่มีการเบิกจ่ายและอาจส่อไปในทางทุจริต โดยตรวจพบมูลค่าความเสียหาย จำนวนประมาณกว่า 3 ล้านบาท รวมทั้งตรวจพบพิรุธการเบิกจ่ายงบประมาณใน 3 ประเด็นหลัก ดังนี้
1) ผู้มีรายชื่อเป็นผู้จัดทำอาหารและเบิกค่าอาหารตามเอกสารการเบิกจ่าย ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นผู้จัดทำอาหารและเบิกค่าอาหารแต่อย่างใด
2) ผู้มีรายชื่อเข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่ ให้ข้อมูลยืนยันว่า ไม่ได้เป็นผู้ลงลายมือชื่อในเอกสารและเข้าร่วมโครงการตามวัน เวลา และสถานที่ตามที่ปรากฏในโครงการ
3) สถานที่สำหรับการจัดงานตามโครงการ ซึ่งส่วนใหญ่ระบุเป็นสถานที่ราชการ เจ้าของสถานที่ยืนยันว่าไม่มีการจัดโครงการจริง และไม่ปรากฏหนังสือราชการถึงเจ้าของสถานที่เพื่อขอใช้สถานที่ในการจัดโครงการแต่อย่างใด
นอกจากนี้ สำนักงาน ป.ป.ท. ได้พบข้อสังเกตที่จะต้องดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติม ดังนี้
1) พบว่ามีการนำรายชื่อผู้เสียชีวิตมาเป็นผู้เข้าร่วมโครงการ
2) ผู้มีชื่อเข้าร่วมโครงการบางราย มีชื่อและนามสกุล ไม่ตรงกับชื่อสกุลจริง
3) บัญชีรายชื่อผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ อาจเป็นการลงลายมือชื่อโดยบุคคลคนเดียวกัน
4) ไม่ปรากฏภาพถ่ายในการจัดโครงการฯ
ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ท. จะขยายผลการตรวจสอบไปยังจังหวัดอื่นๆ หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีมูลความผิดเกี่ยวกับการกระทำทุจริต สำนักงาน ป.ป.ท. จะส่งเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว: สำนักงาน ป.ป.ท. กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น