อุตรดิตถ์"ศรัณย์วุฒิ" ลุยป่าสู้! ช่วยชาวบ้าน บุกสำรวจพื้นที่ คทช.พร้อมหาถนนแนวกันไฟช่วยชาวบ้านห้วยต้า “
วันที่ 6 กค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีที่ นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ สส.อุตรดิตถ์ เขต2 พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านตำบลท่าแฝก อ.น้ำปาด และตัวแทนชาวบ้านจากตำบลนางพญา อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ เข้าพบนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกินและอยู่อาศัยที่ชาวบ้านอยู่ก่อนมีการประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติ โดยขอโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ร่วมถึงพื้นที่ตกสำรวจด้วย ทั้งนี้ ชาวบ้านได้ร้องขอทำถนนในรูปแบบแนวกันไฟให้กับชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 4 บ้านห้วยต้า ต.นางพญา ซึ่งเป็นหมู่บ้านเดียวในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ไม่มีเส้นทางการคมนาคมทางบก มีแต่เส้นทางคมนาคมทางน้ำและต้องอาศัยการเดินทางทางเรือเพียงอย่างเดียว ด้วยเรือโดยสารและเรือส่วนตัว
โดยผ่านพื้นที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ชาวบ้านต้องเสี่ยงชีวิตกับการเดินทางด้วยเรือ ฝ่ากระแสคลื่นลมแรง เข้าพื้นที่หมู่ 9 บ้านท่าเรือ ต.ท่าปลา โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ส่งผลทำให้ที่ผ่านมาเกิดเหตุเรือล่มถึง 2 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก หากมีถนนแนวกันไฟจะทำให้ชาวบ้านบ้านห้วยต้าได้มีเส้นทางบกใช้สัญจรไปมาระหว่างหมู่บ้านห้วยต้ากับหมู่บ้านห้วยพญา หมู่ที่5 ซึ่งเป็นหมู่บ้านติดกันแต่ต้องผ่านพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 2 แห่ง และ อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน จากผลกระทบของการสร้างเขื่อนสิริกิติ์ เมื่อปี พ.ศ.2511 หรือเมื่อ 55 ปีที่ผ่านมา ทำให้หมู่บ้านห้วยต้าถูกตัดขาดจากโลกภายนอกทันที ทำให้ขาดการพัฒนาพื้นที่ให้มีความเจริญเหมือนหมู่บ้านอื่นทั่วไป หากมีถนนแนวกันไฟเส้นทางบกจากบ้านห้วยต้าไปบ้านห้วยพญา จะทำให้การเดินทางไปมาสะดวก เดินทางไปถึงตัวอำเภอท่าปลาใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จะเป็นการสร้างความเจริญให้กับชาวบ้านในพื้นที่ทันที
เมื่อเร็วๆนี้ นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ สส.อุตรดิตถ์ เขต2 น.ส.รสรินทร์ ศรัณย์เกตุ กรรมการบริหารพรรคเพื่อชาติ ทีมงานสส. พร้อมด้วย นายวัน สมบัติยา นายก อบต.นางพญา นายสนั่น หล้าติ๊บ รองนายก อบต.นางพญา โดยมีตัวแทนเจ้าหน้าที่จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมลงพื้นที่หมู่5 บ้านห้วยพญา ต.นางพญา อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ เพื่อทำการสำรวจพื้นที่โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ซึ่งเป็นที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ที่ไม่มีผู้ครอบครอง นำมาจัดระบบการใช้ประโยชน์ให้แก่ผู้ยากไร้ไม่มีที่ดินทำากินหรือมีแต่ไม่พอเลี้ยงชีพ และสำรวจพื้นที่แนวกันไฟจากบ้านห้วยต้ามายังพื้นที่บ้านห้วยพญา ระยะทาง 9 กิโลเมตร ตามที่ชาวบ้านร้องขอต่อ นายจตุพร ปลัดกระปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งแนวกันไฟนี้ มีความกว้างประมาณ 2 เมตร ยาวทั้งสิ้นประมาณ 9 กิโลเมตร และจะต้องผ่านพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (บ้านห้วยต้า) ระยะทางประมาณ 1,385 เมตร ผ่านพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน ระยะทางประมาณ 6,645 เมตร และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (บ้านห้วยพญา) ระยะทางประมาณ 570 เมตร โดยอาศัยความร่วมมือจากชาวบ้านในพื้นที่ช่วยดูแลรักษาป่าให้คงอยู่ตลอดไป “ป่าอยู่ได้ คนอยู่ได้ เน้นคนอยู่ร่วมกับป่า” โดยมี อบต. ผู้ใหญ่บ้านและตัวแทนชาวบ้านร่วมเดินชี้สำรวจเส้นทางให้นายศรัณย์วุฒิ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ สส.อุตรดิตถ์ เขต2 ได้ทราบถึงเส้นทางแนวกันไฟดังกล่าว โดยมีแผนที่ทางอากาศประกอบนำชี้ และใช้เวลาประมาณเกือบ 1 ชั่วโมงในการเดินสำรวจ
สำหรับข้อดีของถนนแนวกันไฟคือ ชาวบ้านในหมู่บ้านไม่ต้องผจญปัญหาหรือเสี่ยงเจอกระแสคลื่นลมแรงในอ่างน้ำเขื่อนสิริกิติ์ระหว่างเดินทางด้วยเรือโดยสารหรือเรือส่วนตัวยังภายนอกหมู่บ้าน และไม่ต้องเสี่ยงเอาชีวิตไปแลกกับการเดินทางโดยเรือทุกครั้งที่จะเดินทางไปทำธุระที่อำเภอท่าปลาหรือไปศึกษาเล่าเรียนต่อในตัวเมือง ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตทางน้ำมาแล้วถึง 2 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 5 ราย, ใช้เป็นเส้นทางฉุกเฉินยามจำเป็นกรณีที่ชาวบ้านเจ็บป่วยต้องรีบพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลท่าปลาหรือโรงพยาบาลในตัวเมืองอุตรดิตถ์, สามารถป้องกันและควบคุมป้องกันไม่ให้ไฟป่าลุกลามเข้าไปยังพื้นที่คุ้มครอง เป็นการแบ่งพื้นที่ควบคุมไฟป่าออกเป็นส่วนๆสะดวกต่อการควบคุมไฟป่าไม่ให้ขยายวงกว้าง และใช้เป็นเส้นทางตรวจการณ์ไฟป่ารวมถึงแนวตั้งรับในการดับไฟป่า โดยมีชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน ร่วมดูแลป้องกันและรักษาป่าให้คงอยู่ตลอดไป
นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า แผนที่ที่กางให้เห็นอยู่นี้ เป็นแผนที่โดยสังเขปเกี่ยวกับที่ดิน คทช. โดยพบร่องรอยการทำกินของประชาชนอยู่เดิมก่อนแล้ว มีหมู่บ้านอยู่ด้วยกันอย่างหนาแน่น และอยู่ก่อนประกาศเขตป่าสงวนและอุทยานแห่งชาติ ดังนั้นชาบ้านจึงมีสิทธิได้รับโฉนดที่ดิน วันนี้การพิสูจน์สิทธิ์ระหว่างรัฐบุกรุกที่ประชาชนหรือประชาชนบุกรุกที่รัฐนั้นยังไม่ชัดเจนและต้องใช้เวลาในการพิสูจน์สิทธิ์ แต่สิ่งที่ประชาชนประสบเจอคือ ถูกเจ้าหน้าที่รัฐจับกุมและดำเนินคดีติดคุกติดตะรางและถูกค่าปรับเป็นเงินจำนวนมาก พันธุ์พืชที่ปลูกอยู่ในพื้นที่ก็ถูกตัดโค่นทิ้ง
นายศรัณย์วุฒิ กล่าวด้วยว่า โชคดีที่มี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำรงตำแหน่งปัจจุบัน พร้อมเจ้าหน้าที่ที่มีความเข้าใจวิถีชีวิตคนยากคนจนที่อาศัยอยู่กันมาก่อนถูกป่าประกาศทับซ้อนที่ดินได้มีการผ่อนผันให้คือสิ่งที่ประชาชนได้รับประโยชน์ วันนี้จึงมาบอกให้ประชาชนมารับสิทธิ์ของ คทช.ไปก่อนเพื่อให้สามารถทำกินได้ ไม่ต้องถูกจับถูกดำเนินคดี แต่สิทธิ์ที่ต้องได้ในที่ดินซึ่งอยู่มาตั้งแต่บรรพบุรุษเป็นร้อยปี อยู่ก่อนป่าสงวนและอุทยานแห่งชาติ จะต้องได้รับเอกสารสิทธิทุกคนในพื้นที่ตำบลนางพญาแห่งนี้
นี้คือวิถีชีวิตที่คนนางพญาเหลืออยู่ เพราะความยากจนจึงต้องทำสวนทำไร่ ซึ่งเป็นรายได้หล่อเลี้ยงให้กับประชาชนในพื้นที่ หากทำกินไม่ได้แล้ว ก็ไม่มีอะไรจะทำไม่มีอะไรจะกินเลย วันนี้ลูกหลานชาวนางพญาจำนวนหนึ่งต้องระหกระเห เร่ร่อน ไปทำงานอยู่ทั่วสารทิศ เพื่อส่งเงินมาเลี้ยงคนเฒ่าคนแก่และลูกหลานตำบลนางพญา เราจึงอยากจะต่อสู้ให้เขาได้เอกสารสิทธิ์และให้ได้สิทธิในการทำกินถนนเส้นนี้คือถนนแนวกันไฟที่ต้องตัดผ่านพื้นที่ป่าสงวนและอุทยาน ต้องขอบคุณทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่อนุโลมให้ทำถนนแนวกันไฟ ไม่ต้องเสี่ยงชีวิตเดินทางโดยทางเรือผ่านอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ใช้เวลาเดินทางเป็นหลายชั่วโมงและเรือก็ล่มหลายครั้ง มีคนเสียชีวิตประจำ นี่คือความทุกข์ยากของประชาชนคนในพื้นที่ถนนแนวกันไฟเป็นเพียงเส้นทางที่ให้ประชาชนในสัญจรผ่านไปมาได้ อย่างเอากฏหมายมาจับชาวบ้านเลยซึ่งเราจะต้องอยู่ร่วมกัน บางคนชอบพูดบอกว่า "กฏหมายและนโยบายอยู่เหนือสิ่งอื่นใด ผมขอเถียง ความอยู่รอดอยู่เหนือทั้งกฏหมายและนโยบาย ถ้ารัฐบาลชุดไหน ไม่เห็นแก่ประชาชน รับประกันได้ว่าอยู่ไม่ได้แน่นอน" นายศรัณย์วุฒิ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น