วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

กรมประมง...เผยรายชื่อเกษตรกร และสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ด้านการประมง ประจำปี 2565 เตรียมรับพระราชทานโล่รางวัล ในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ


นายเฉลิมชัย  สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ด้วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีนโยบายให้หน่วยงานภายใต้สังกัดมีการคัดเลือกเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ เพื่อยกย่องประกาศเกียรติคุณ พร้อมเผยแพร่ผลงานให้สาธารณชนทั่วไปได้ยึดถือเป็นแบบอย่างและแนวทางในการประกอบอาชีพ เข้ารับพระราชทานโล่รางวัลในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ อันเป็นพระราชพิธีที่มีความเป็นสิริมงคล ซึ่งเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่เกษตรกรไทยได้เกิดความภาคภูมิใจในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยกำหนดจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมของทุกปี เนื่องจากเป็นเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มต้นฤดูกาลเพาะปลูก โดยในปีนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2565

สำหรับในส่วนของกรมประมงได้มีการคัดเลือกเกษตรกรและบุคคลทางการเกษตร รวมถึงสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2565 จำนวน 5 สาขา ดังนี้

เกษตรกรและบุคคลทางการเกษตรดีเด่นแห่งชาติ จำนวน 3 สาขา ประกอบด้วย

​​1) สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด ได้แก่ นายประวัติ พิริยศาสน์ จังหวัดปราจีนบุรี​

​​2) สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกร่อย ได้แก่ นายอรรถพงษ์ บุญเลิศฟ้า จังหวัดนครปฐม

​​3) สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงปลาสวยงามและพรรณไม้น้ำ ได้แก่ นายวัลลภ วุ่นสุด จังหวัดนครปฐม

สถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ จำนวน 2 สาขา ประกอบด้วย

​1) กลุ่มเกษตรกรทำการประมงหรือกลุ่มเกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ได้แก่ กลุ่มเกษตรกร

ทำประมงพัฒนาเกษตรพอเพียง 49 จังหวัดสมุทรสาคร

2) กลุ่มเกษตรกรแปรรูปสัตว์น้ำ ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนปลาส้มบ้านคำกลาง จังหวัดอุบลราชธานี

สำหรับเกษตรกร และกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกเป็นเกษตรกรดีเด่นและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติแต่ละสาขานั้น กรมประมงได้มีหลักเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติต่างๆ ให้เป็นไปอย่างเหมาะสม โดยเกษตรกรดีเด่น จะต้องมีคุณสมบัติ อาทิ เป็นเกษตรกรที่มีสัญชาติไทย มีความประพฤติดีไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสียมาก่อน ประกอบอาชีพด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละเพื่อส่วนรวม มีผลงานทางการเกษตรดีเด่นเป็นพิเศษ และเผยแพร่ให้แก่ส่วนรวมได้นำไปใช้ประโยชน์  สมควรแก่การยกย่องให้เป็นตัวอย่างแก่บุคคลอื่น ที่สำคัญต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยได้รับพระราชทานโล่รางวัลเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติในสาขาเดียวกันมาก่อน 

ส่วนสถาบันเกษตรกรที่ได้รับการคัดเลือกเป็นสถาบันเกษตรกรดีเด่นต้องมีคุณสมบัติเป็นสถาบันเกษตรกรที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย หรือเป็นกลุ่มที่รวมตัวกันอย่างเข้มแข็งมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี  มีข้อมูลย้อนหลังให้คณะกรรมการตรวจสอบอย่างน้อย 3 ปี  หากเป็นสถาบันเกษตรกรที่เคยได้รับพระราชทานโล่รางวัลดีเด่นแห่งชาติมาแล้ว จะต้องเว้นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี จึงจะมีสิทธิ์ได้รับการพิจารณาใหม่

ส่วนเกณฑ์การให้คะแนนคัดเลือกเกษตรกรดีเด่น และสถาบันเกษตรกรดีเด่น จะพิจารณาแตกต่างกันใน

แต่ละด้าน กล่าวคือ เกณฑ์การให้คะแนนการคัดเลือกเกษตรกรดีเด่นพิจารณาให้คะแนนใน 4 ด้าน ได้แก่ 

1) ความคิดริเริ่มและความพยายามฟันฝ่าอุปสรรคในการสร้างผลงาน  2) ผลงานและความสำเร็จของผลงาน

ทั้งปริมาณและคุณภาพ ตลอดจนระยะเวลาที่ปฏิบัติงานและความยั่งยืนในอาชีพ 3) ความเป็นผู้นำและการเสียสละ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมในด้านต่างๆ  และ 4) การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

สำหรับสถาบันเกษตรกรดีเด่นมีการพิจารณาให้คะแนนใน 5 ด้าน ดังนี้ 1) มีความคิดริเริ่ม 2) มีความสามารถ

ในการบริหารและการจัดการสถาบันเกษตรกร 3) บทบาทและการมีส่วนร่วมของสมาชิกต่อสถาบันเกษตรกร  

4) ความมั่นคงและฐานะทางเศรษฐกิจของสถาบันเกษตรกร และ 5) การทำกิจกรรมด้านสาธารณประโยชน์  การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

 ทั้งนี้ เกษตรกรและผู้แทนสถาบันเกษตรกร ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติด้านประมงทั้งหมด จะได้เข้าเฝ้ารับพระราชทานโล่รางวัลจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี 2565 ณ พลับพลาที่ประทับ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในวันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2565 นี้ ๏



กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

12 พฤษภาคม 2565

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น