ครูวัยเกษียณร้องทุกข์วอนผู้ว่าฯพิจิตรสอบโรงงานสร้างข้างบ้านส่งผลกระทบมลภาวะเสียงฝุ่นละออง
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 นายบุญเลิศ ลี่ประเสริฐ อายุ 65 ปี และ นางพูลศรี ลี่ประเสิรฐ อายุ 65 ปี สองสามีภรรยา อดีตข้าราชการครูโรงเรียนตะพานหิน จ.พิจิตร ซึ่งทั้งคู่นำหลักฐานเข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าว โดยเล่าให้ฟังว่าหลังจากปลดเกษียณตั้งใจจะใช้บั้นปลายชีวิตอย่างสงบสุขจึงได้ตัดสินใจซื้อที่ดินจำนวน 3 ไร่ และสร้างบ้านอยู่ที่บ้านเลขที่ 147 หมู่ 5 ต.ห้วยเกตุ อ.ตะพานหิน ก่อสร้างเมื่อปี 2555 และเข้าไปอยู่บ้านหลังนี้เมื่อ 2558 ซึ่งในตอนนั้นยังไม่มีโรงงานเกิดขึ้นชีวิตความเป็นอยู่ของตนเองและเพื่อนบ้านกว่า 10 หลังคาเรือน ก็อยู่กันอย่างสงบสุขตามวิถีชีวิตของชาวชนบท จนประทั่งต่อมาปี 56/57 ก็มีผู้ประกอบการมาสร้างอาคารทำกิจการเกี่ยวกับคอนกรีตและวัสดุก่อสร้างขนาดไม่ใหญ่โตอะไรมากนัก ชาวบ้านแถบนั้นต่างก็อยู่กันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย แต่ต่อมาในช่วงปี 63/64 โรงงานข้างบ้านแห่งนี้ก็ขยายกิจการมีรถบรรทุกวิ่งเข้า-ออก กลายเป็นแพล้นท์ปูนและผลิตวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างทำงานมีเสียงดัง มีฝุ่นละออง และมีแรงสั่นสะเทือนอันเกิดจากการประกอบกิจการสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับตนเองและครอบครัว เนื่องจากโรงงานดังกล่าวสร้างตัวอาคารอยู่ใกล้ชิดกับขอบรั้วบ้านของตน ซึ่งตนเองและเพื่อนบ้านเมื่อได้รับความเดือดร้อนรำคาญอันก่อให้เกิดมลภาวะทางเสียง ทางอากาศ และฝุ่นละออง ตนเองและเพื่อนบ้านก็ร้องทุกข์ไปยังศูนย์ดำรงธรรมและสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตร รวมถึง อบต.ห้วยเกตุ ซึ่งเป็นผู้ปกครองส่วนท้องถิ่น แต่เรื่องก็เงียบหายไป ทุกวันนี้ตนเองและเพื่อนบ้านเดือดร้อนมากจึงขอร้องทุกข์ผ่านผู้สื่อข่าววอนไปถึง นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ขอให้ตรวจสอบการประกอบกิจการของโรงงานที่อยู่ข้างบ้านแห่งนี้ ว่า ดำเนินการตาม พ.ร.บ.การผังเมือง พ.ศ. 2562 , พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 , พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 , พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 ว่าดำเนินการถูกต้องตามระเบียบของทางราชการหรือไม่เพื่อจะได้บังคับใช้กฎหมายและสร้างความเป็นธรรมให้กับชาวบ้าน
โดย นายบุญเลิศ ลี่ประเสริฐ และ นางพูลศรี ลี่ประเสิรฐ สองสามีภรรยา อดีตข้าราชการครูโรงเรียนตะพานหิน จ.พิจิตร กล่าวทิ้งท้ายว่า ไม่ได้มีเจตนาจะให้ปิดโรงงานแต่อยากขอร้องว่าผู้ประกอบการกับชุมชนควรอยู่ร่วมกันได้แบบสันติสุขพึ่งพาซึ่งกันและกันเท่านั้น
สิทธิพจน์ พิจิตร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น