วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2564

โพลชี้นักธุรกิจชั้นนำเชียร์‘จุรินทร์’นั่งนายกฯ พร้อมเลือกผู้สมัครปชป.เป็นผู้ว่าฯกทม. ปลื้ม”ประชาธิปัตย์”ซื่อสัตย์สุจริต-มีจุดยืนแก้รธน.ให้เป็นประชาธิปไตย 


เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.  อินไซท์เอเชีย รีเสิร์ช กรุ๊ป (ประเทศไทย) ร่วมกับ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้สำรวจความคิดเห็นกลุ่มนักธุรกิจชั้นนำในประเทศไทย จำนวน 444 ราย ที่มีต่อรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลในกรณีถ้าต้องมีการเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรี ตามระบบรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตย และมุมมองต่อการขับเคลื่อนนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาลในปัจจุบัน ซึ่งคำถามที่ว่าพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใดมีจุดยืนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด ซึ่งผลสำรวจชี้ชัดว่านักธุรกิจชั้นนำเลือกพรรคประชาธิปัตย์ คิดเป็น 47.7 เปอร์เซ็นต์ มากสุดในบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด และเมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลใดมีความซื่อสัตย์สุจริตมากที่สุด พบว่านักธุรกิจชั้นนำ 40.6 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีความคิดเห็น หรือไม่ทราบ ขณะที่ 35.1 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าเป็นพรรคประชาธิปัตย์

ต่อคำถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใดมีความน่าเชื่อมั่นต่อการบริหารงานที่รับผิดชอบมากที่สุด พบว่านักธุรกิจชั้นนำ 38.8 เปอร์เซ็นต์ ไม่เชื่อมั่นพรรคใด แต่ 27 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความน่าเชื่อมั่นมากที่สุด เมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลใด สามารถทำตามนโยบายหาเสียงได้มากที่สุด พบว่านักธุรกิจชั้นนำ 34.4 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าไม่มีความเห็นและไม่ทราบ ขณะที่ 20.7 เปอร์เซ็นต์ เลือกพรรคประชาธิปัตย์ และโพลนี้สอบถามว่าถ้าสามารถเลือกหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเป็นนายกรัฐมนตรีได้ คิดว่าหัวหน้าพรรคใดควรเป็นนายกฯ ซึ่งนักธุรกิจชั้นนำ 45.05 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่ตัดสินใจหรือไม่เลือกใคร แต่ 27.48 เปอร์เซ็นต์ เลือกนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  ตามด้วย 15.32 เปอร์เซ็นต์ เลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และเมื่อสอบถามเพิ่มเติมถึงสาเหตุ พบว่านักธุรกิจชั้นนำ 22.17 เปอร์เซ็นต์ เลือกเพราะเล็งเห็นถึงความสามารถในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน

นอกจากนี้ เมื่อถามว่าตัวแทนพรรคการเมืองใดควรเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมากที่สุด ผลคือตัวแทนจากพรรคประชาธิปัตย์ยังคงได้รับความเชื่อใจจากนักธุรกิจชั้นนำให้เป็นผู้ว่าฯ กทม. 23.42 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับนักธุรกิจ 23.42 เปอร์เซ็นต์ ที่เลือกตัวแทนอิสระ รองลงมาคือนักธุรกิจชั้นนำที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ 15.32 เปอร์เซ็นต์

สำหรับความมั่นใจต่อรัฐบาลชุดปัจจุบันนั้น พบว่านักธุรกิจชั้นนำ 32.43 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่ามีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลในระดับปานกลาง ขณะที่ 29.73 เปอร์เซ็นต์ เชื่อมั่นน้อยที่สุด, 23.42 เปอร์เซ็นต์ เชื่อมั่นน้อย และ 10.81 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าเชื่อมั่นมาก เมื่อถามถึงผลงานของรัฐบาลในปัจจุบันว่ามีด้านใดบ้างที่สร้างความเชื่อมั่น พบว่า 17.19 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าด้านการคมนาคม ระบบขนส่งมวลชน รองลงมา 12.67 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าด้านสาธารณสุขและด้านอื่นๆ

เมื่อถามว่าหากเป็นนายกรัฐมนตรี สิ่งใดคือปัญหาเร่งด่วนที่ควรดำเนินงานในช่วงนี้ พบว่านักธุรกิจชั้นนำ 25.9 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องของประชาชน ตามด้วย 18.73เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าปัญหาและป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 และ 14.60 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าการพัฒนาจริยธรรมของคนในชาติ ขจัดการทุจริตคอร์รัปชั่น ผู้มีอิทธิพล ยาเสพติด





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น