พระและกรรมการวัดวอนเทศบาลเขาทรายเลิกจุ้นจ้านกับตลาดสดบนที่ดินของวัด
เรื่องวุ่นๆ ที่ยืดเยื้อมายาวนานระหว่างเทศบาลตำบลเขาทรายกับวัดเขาทรายที่ร้าวฉานถึงขั้นฟ้องศาลปกครองชี้ให้วัดชนะคดีเรื่องควรจะจบแต่มันไม่จบเมื่อ ทต.เขาทราย ที่ลงทุน 5.6 ล้าน ใช้เงินภาษีของรัฐลงทุนสร้างตลาดบนที่ของวัดจัดเก็บรายได้แต่จ่ายค่าเช่าที่ดินราคาถูกวัดขอขึ้นราคาค่าเช่าคุยกันไม่รู้เรื่องจึงท้าฟ้องศาล ล่าสุดเทศบาลอ้างพร้อมยกอาคารให้ชุมชนภายใต้เงื่อนไขที่กรรมวัดและพระผู้มีสิทธิ์บนธรณีสงฆ์รับไม่ได้
วันที่ 4 ธันวาคม 2564 นางยุพยงค์ แสงจันทร์ฉาย “คุณนายน้อย” , นายประพันธ์ วิริยะ , นางฉัตรนภา ส้มทอง “ป้าแต๋ว” , น.ส.นิตยา เลี่ยมวิไล ซึ่งทั้งหมดเป็นกรรมการวัดและไวยาวัจกรวัดพระพุทธบาทเขาทราย ต.เขาทราย อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร รวมตัวกันร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวเพื่อผ่านถึง นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร รวมถึง ป.ป.ช.พิจิตร โดยเล่าว่าเมื่อ 20 ปีก่อน เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทเขาทรายได้ยินยอมให้เทศบาลตำบลเขาทราย (ในยุคผู้บริหาร ทต.เขาทราย คนก่อนหน้านี้) เช่าที่ดินของวัดเนื้อที่ประมาณเกือบ 3 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสี่แยกเขาทรายให้ใช้ทำเป็นตลาดสด ซึ่ง ทต.เขาทราย ลงทุน 5.6 ล้านบาท สร้างลานซิเมนต์เอนกประสงค์ , ห้องสุขา , ตัวอาคารตลาด , โต๊ะปูนเพื่อใช้วางสินค้า , ติดไฟส่องสว่าง , ติดกล้องวงจรปิด ซึ่งในยุคนั้นวัดคิดค่าเช่าที่ 3,000-3,500 บาท / เดือน ต่อมาในยุคของ นายภานุวัฒน์ รัตนศฤงคาร นายกเทศมนตรีเทศบาลเขาทราย กรรมการวัดเขาทรายที่ดูแลเรื่องผลประโยชน์ของวัดจึงขอขึ้นราคาเป็น 4,500 บาท เมื่อ 4-5 ปีก่อน แต่ปรากฎว่า ผู้บริหาร ทต.เขาทราย คนปัจจุบันไม่สู้ราคา และไม่ได้จ่ายค่าเช่าที่ดินให้วัดรวมถึงมีการท้าทายให้วัดฟ้องร้องจนในที่สุดคณะกรรมการของวัดซึ่งได้รับมอบอำนาจจากเจ้าอาวาสจึงได้ฟ้องศาลปกครองพิษณุโลกในคดีหมายเลขแดงที่ 94/2563 โดยวัดเขาทราย คือ ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ชนะคดี และ ทต.เขาทราย ผู้ถูกฟ้องคดี ศาลมีคำบังคับให้ชำระเงินจำนวน 76,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี ซึ่งก็มีการชำระหนี้รวมเป็นเงิน 84,247.50 บาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเรื่องน่าจะจบแต่กลับไม่จบเพราะผู้บริหาร ทต.เขาทราย และพนักงานเจ้าหน้าที่ยังคงไปสร้างความวุ่นวายภายในตลาดสดซึ่งอาคารเป็นของเทศบาลแต่ที่ดินเป็นของวัดเขาทราย กรรมการ และ ไวยาวัจกรของวัด จึงร้องทุกข์อยากให้ นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เข้าตรวจสอบพฤติการณ์ของ ทต.เขาทรายดังกล่าว รวมถึงอยากให้ ป.ป.ช.พิจิตร ลงพื้นที่ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวนี้ด้วยเช่นกัน
ในส่วนของ นายภานุวัฒน์ รัตนศฤงคาร นายกเทศมนตรีเทศบาลเขาทราย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวยอมรับในคำพิพากษาของศาลปกครองพิษณุโลกแต่โยนเรื่องการเริ่มเช่าที่ดินและการสร้างอาคารเกิดขึ้นในยุคก่อนที่ตนเองจะเข้ามาบริหาร แต่เมื่อเข้ามาบริหาร ทต.เขาทราย ก็เข้าไปพัฒนาต่อยอดตลาดดังกล่าวเพื่อให้ถูกสุขอนามัยและให้บริการพ่อค้า-แม่ค้า เพื่อให้เป็นพื้นที่ค้าขายกระตุ้นเศรษฐกิจและบริการจัดเก็บขยะส่วนรายได้การเก็บค่าเช่าแผงร้านค้าก็นำส่งกองคลังของ ทต.เขาทราย ถูกต้องตามระเบียบราชการเชิญผู้มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบได้ ส่วนเรื่องอาคารตลาดสดบนที่ดินของวัดเขาทรายก็พร้อมที่จะยกให้ชุมชนเข้ามาบริหารใช้ทรัพย์สินทางราชการร่วมกัน แต่ปรากฎว่าฝ่ายกรรมการและไวยาวัจกรของวัดเขาทรายก็ไม่ยอมรับหลักการจึงทำให้คุยกันไม่รู้เรื่อง
นางยุพยงค์ แสงจันทร์ฉาย “คุณนายน้อย” กรรมการวัดคนสำคัญก็นำบันทึกข้อตกลงที่ทาง ทต.เขาทราย เสนอมา 10 ข้อ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อห้ามและข้อปฏิบัติที่ร่างมาฝ่ายเดียวไม่ได้ร่วมร่างข้อตกลงร่วมกันดังนั้นจึงรับไม่ได้กับข้อตกลงหรือ MOU ที่ไม่เป็นธรรม จึงทำให้คุยกันไม่รู้เรื่องเช่นกัน
ล่าสุด ทต.เขาทราย ออกหนังสือที่ พจ52704/1427 ลงวันที่ 3 ธ.ค. 64 กำหนดให้มีการจัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของ ทต.เขาทราย ที่อยู่ในพื้นที่ตลาดสด (เช้า) วัดเขาทรายขึ้น ในวันที่ 8 ธ.ค. 64 เวลา 09.00 น. ซึ่งกรรมการและไวยาวัจกรของวัดเขาทราย แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่าจะไม่เข้าร่วมเวทีประชาคมในครั้งนี้ เนื่องจากมีคำพิพากษาศาลปกครองแล้วก็น่าจะจบกันตามนั้น จึงทำให้เรื่องดังกล่าวส่อเค้าว่าจะวุ่นวายอลเวงและก่อให้เกิดการแบ่งฝ่าย แบ่งพวก แตกแยกกันในหมู่ชาวบ้าน-ร้านค้า ของตำบลเขาทรายดังกล่าวนั่นเอง
สิทธิพจน์ พิจิตร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น