ปิกอัพแซงไม่พ้น ประสานงากระบะวิ่งสวนทางมาอย่างแรง หมุนข้ามเลน ชน จยย. บาดเจ็บ 8 ราย
เมื่อเวลา 15.20 น. วันที่ 28 พ.ค.64 เกิดอุบัติเหตุหมู่รถปิกอัพชนประสานงาแฉลบไปชนรถ จยย. มีผู้บาดเจ็บรวม 8 คน สาหัส 4 ราย บนถนน อ.พญาเม็งราย-อ.เชียงของ บ.เวียงเดิม หมู่.13 ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ กู้ชีพบุญช่วยอุปถัมภ์เชียงของ กู้ภัยเทศบาลตำบลศรีดอนชัย กู้ภัยเทศบาลตำบลห้วยซ้อ สมาคมแสงธรรมสาธารณกุศลเชียงของ มูลนิธิสยามรวมใจ(ปู่อินทร์)จุดอำเภอเชียงของ และรถพยาบาล รพ.เชียงของ ออกตรวจสอบเหตุและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
ที่เกิดเหตุเป็นถนนสายรอง พบรถยนต์กระบะอีซูซุ ทีเอฟอาร์ สีเขียว ทะเบียน บษ 4219 เชียงราย มีร่องรอยถูกชนที่ด้านหน้ารถฝั่งผู้โดยสาร จอดขวางถนนฝั่งมุ่งหน้า ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ มีนายต๊ะ ท้าวนาม อายุ 69 ปี เป็นผู้ขับขี่ นางวิภา นันตา อายุ 50 ปี นางมณีนุช ทิจันทร์ อายุ 54 ปี นั่งมาด้วยได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำส่งรักษาตัวที่ รพ.เชียงของ ส่วน ด.ช.วัชรินทร์ ท้าวนาม อายุ 13 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
และถนนฝั่งตรงข้ามมุ่งหน้าไป อ.เชียงของ มีรถกระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ สีบรอนซ์ ทะเบียน บบ 4182 พิษณุโลก มีร่องรอยถูกชนด้านหน้ารถฝั่งผู้โดยสารและด้านข้างรถฝั่งขวา กระจกห้องผู้โดยสารฝั่งขวาแตกละเอียด มีนายสมศักร จักรแก้ว อายุ 51 ปี เป็นคนขับ และนายเอกชัย มาแก้ว อายุ 24 ปี ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ถูกนำตัวส่ง รพ.เชียงของ หลังรักษาแพทย์ให้กลับบ้าน
ใกล้กับรถกระบะดีแม็กซ์มีรถจยย.ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ถูกชนที่หน้ารถ ล้มอยู่บนถนนฝั่งมุ่งหน้า อ.เชียงของ มีนายรักษิต ศรีมา อายุ 24 ปี เป็นผู้ขับขี่ ได้รับบาดเจ็บสาหัส รพ.เชียงของ ส่งตัวต่อที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ส่วน ด.ญ.สุรภา สุนพุฒ อายุ 12 ปี ผู้โดยสาร ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยหลังรักษาแพทย์ให้กลับบ้านได้
จากการสอบถามเบื้องต้น ผู้เห็นเหตุการณ์เกิดเหตุเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุรถกระบะอีซูซุสีเขียวขับมาจากทางบ.ห้วยซ้อมุ่งหน้าไป อ.เชียงของ พยายามจะขับแซงรถคันหนึ่ง แต่จังหวะที่ขึ้นแซง รถกระบะดีแม็กซ์ขับสวนทางมา จึงชนประ สานงากันอย่างแรง ทำให้รถกระบะดีแม็กซ์หมุนตัวข้ามถนนมาฝั่งขาเข้าเชียงของ จังหวะมี รถจยย.ขับตามหลังรถกระบะสีเขียวมา เบรกไม่ทัน พุ่งเข้าชนกับกระบะดีแม็กซ์อย่างแรง เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 4 รายเจ็บเล็กน้อย 4 ราย รวมเป็น 8 คน
ต่อมาเจ้าหน้าตำรวจ สเหตุภ.บุญเรือง อ.เชียงของ ได้มาตรวจที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติครั้งนี้ และจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด........
.....ศรัณยู ตะถา ผู้สื่อข่าว........
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น