โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิด “ร่วมกันตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่, ร่วมกันทำการแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันตั้งและประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
สืบเนื่องจากได้รับแจ้งว่า มีกลุ่มคนลักลอบตัดไม้ในป่าหลังหมู่บ้านสะเลียมหวาน แล้วขนชักลากออกจากมานำมาซุกซ่อนและทำการแปรรูปอยู่บริเวณดังกล่าว โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จนท.จึงตรวจลาดตระเวนมาถึงเส้นทางเข้าป่าผ่านบ้านไม่ทราบเลขที่ซึ่งภายในมีบ้าน จำนวน 2 หลัง ปลูกสร้างอยู่ข้างเส้นทางดังกล่าว และได้ยินเสียงแปรรูปไม้ด้วยเครื่องจักร ก่อนจะมองเห็นชายฉกรรจ์ทั้ง 2 คน เมื่อเห็น จนท. ก็ได้วิ่งหลบหนีไปทางด้านทิศตะวันตกผ่านที่นาเข้าไปในสวนสัก หลบหนีเข้าป่าไปเจ้าหน้าที่จึงเดินเข้าไปในสวนสัก พบอุปกรณ์การแปรรูปไม้ ไม้แปรรูป เศษไม้และขี้เลื่อยเป็นจำนวนมาก
ต่อมานางสาวปุณิกา อายุ 52 ปี ชาว ต.เวียงมอก เดินทางมาพบกับพนักงานเจ้าหน้าที่ แจ้งว่าตนเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว โดยเล่าว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้าน บิดา มารดาของตน ส่วนผู้ใดมาทำการแปรรูปไม้และนำไม้มาแปรรูปบริเวณดังกล่าวตนไม่ทราบข้อเท็จจริง ตนได้ข่าวว่าเจ้าหน้าที่มาตรวจใกล้ ๆ กับบ้านของตน ด้วยความบริสุทธิ์ใจตนจึงเดินทางมาดู จนท.จึงตรวจยึดของกลางทั้งหมด ก่อนจะสอบสวนผู้เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เหตุที่ 2 วันเดียวกัน เวลาประมาณ 16.30 น. บริเวณท้องที่ หมู่ 3 ต.เวียงมอก อ.เถิน จ.ลำปาง เจ้าหน้าที่ชุดเดียวกัน ได้ร่วมกันจับกุม, 1.นายชาติ อายุ 46 ปี ชาว หมู่ที่ 3 ต.เมืองมาย อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง คนขับรถขุดตักดิน พบกำลังขุดตักดินอยู่ในบ่อขุดดินที่เกิดเหตุ 2.นายประมวล อายุ 27 ปี ชาว หมู่ที่ 8 ต.แม่ปะ อ.เถิน จ.ลำปาง คนขับรถบรรทุกหกล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว บรรทุกดินเต็มลำรถกระบะบรรทุก นายพิษณุศักดิ์ อายุ 55 ปี ชาว หมู่ 6 ต.แม่ถอด อ.เถิน จ.ลำปาง เจ้าของรถขุดตักดิน พร้อมของกลาง 1.รถขุดตักดิน ยี่ห้อ โกเบลโก สีเขียว 1 คัน 2.รถยนต์บรรทุกหกล้อแบบยกดั้มได้ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว 1 คัน 3. อาวุธปืนลูกซองยาวไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก 4.เครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 14 นัด และตรวจยึด พื้นที่บ่อขุดดิน ซึ่งมีการขุดเอาดินออกไปหรือเปิดใช้ประโยชน์ในที่ดิน จำนวน 1 บ่อ เนื้อที่ประมาณ 2 งาน 16 ตารางวา
โดยแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ถูกจับกุมที่ 1 ผู้ถูกจับกุมที่ 2 และ นายพิษณุศักดิ์ ว่า“ร่วมกันทำการขุดดินโดยมีความลึกจากระดับพื้นดินเกินสามเมตรโดยไม่แจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ ,ร่วมกัน ตั้งโรงงานจำพวกที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่และร่วมกันประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่สามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงาน” และแจ้งผู้ถูกจับกุมรายที่ 1 ว่า“ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้พาอาวุธติดตัวโดยไม่มีเหตุจำเป็นและมีเหตุเร่งด่วน”
สืบเนื่องจาก จนท.ได้รับการร้องเรียนว่า ได้รับความเดือดร้อนจากการประกอบกิจการขุดดินของนายทุน ซึ่งได้นำรถแบคโฮลทำการขุดดินขายให้แก่ประชาชนทั่วไป ที่ต้องการถมที่ หรือปรับที่ดิน โดยใช้รถบรรทุกหกล้อจำนวนหลายคันบรรทุกดินออกไปขาย รถบรรทุกขับผ่านทำมูลดิน หิน หรือ ทราย ตกหล่นรั่วไหลลงถนนทางหลวงหรือทางสาธารณะ และได้รับผลกระทบจากฝุ่นละออง จนท.จึงเข้าตรวจสอบ พบตามทางหมู่บ้านเป็นหลุมบ่อ เมื่อไปถึงพบกระบะบรรทุกดินคันดังกล่าวไม่มีผ้าใบหรือวัสดุป้องกันการตกหล่นรั่วไหลของดิน ในพื้นที่ไม่พบมีรั้ว ไม่พบมีป้ายแสดงการขุดดินแต่อย่างใด จนท.จึงขอดูหลักฐานเอกสารสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายที่ดิน หลักฐานการอนุญาตตั้งโรงงานและประกอบกิจการโรงงาน จำพวกที่ 3
สอบถามบุคคลทั้งสองให้การว่า ตนเป็นคนงานลูกจ้างของนายพิษณุศักดิ์ ซึ่งนายพิษณุศักดิ์ฯ เป็นเจ้าของรถขุดตักดิน ในเวลาต่อมานายพิษณุศักดิ์ เดินทางมาที่เกิดเหตุ พบว่ามีเอกสารสิทธิ์ที่ดิน แต่ไม่มีใบอนุญาตตั้งโรงงาน ต่อมาพบว่านายชาติฯ มีอาการลุกลี้รุกรน จึงค้นตัวแต่ไม่พบยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด นายชาติฯ รับว่าตนมีอาวุธปืนที่กระท่อมเพิงพักซึ่งอยู่ข้าง ๆ กับบ่อขุดดิน ก่อนจะตรวจยึดของกลางไว้ได้ทั้งหมด จึงดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมด และดำเนินคดีกับนายชาติคดีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนเพิ่มเติมดังกล่าว..........
.....ศรัณยู ตะถา ผู้สื่อข่าวรายงานข่าว......
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น