วันทึ่ 26 เมษายน 2564 ร.อ. สมาน ธรรมีภักดิ์ ผู้อำนวยการองค์การสืบสวนการทุจริต FIO จังหวัดบุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้ นาย บุญเที่ยง จิตรลม รอง ผู้อำนวยการองค์การสืบสวนการทุจริต FIO จังหวัดบรีรัมย์, นายบรรพต พูลพิบูรณ์ หัวหน้าองค์การสืบสวนการทุจริต FIO.ประจำศูนย์ตำบล หนองกระทิง, นายชัยชนะ ไพลดอน หัวหน้าองค์การสืบสวนการทุจริต FIO ฝ่ายสืบสวน ตำบลหนองกระทิง, นาง สุวรรณี นาคินชาต ที่ปรึกษาองค์การสืบสวนการทุจริต FIO ตำบลหนองกระทิง, นายสำราญ จิตต์ลม รอง ผู้อำนวยการองค์การสืบสวนการทุจริต FIO อำเภอลำปลายมาศ ให้ลงพื้นที่ สภ.เมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีของ นายทน สิทธิศรี ตามรายละเอียดดังนี้
พ.ต.ท. รัฐพงษ์ พรมมี สารวัตร (สอบสวน) สภ. เมืองสุรินทร์ แจ้งว่าตามคดีจราจรลงวันที่ 29 เมษายน 2563 จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานได้ความว่า จ. ส. ท. พัฒนศักดิ์ ปิ่นแก้ว อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 77 หมู่ที่ 3 ตำบลห้วยทราย อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ได้ขับขี่รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า ทะเบียน กค 9427 อุตรดิตถ์ จากถนนเลี่ยงเมืองในช่องทางเดินรถที่ 1 จากซ้ายมือ มุ่งหน้าแยกคอโค เมื่อขับขี่รถยนต์มาถึงบริเวณปากทางเข้าบ้านรังผึ้ง ได้มีนายทน สิทธิศรีอายุ 40 ปีเลขที่ 73/1 หมู่ที่ 10 ตำบลสวาย อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า ทะเบียน 1กก - 4646 สุรินทร์ ออกมาจากปากทางเข้าบ้านรังผึ้ง โดยจะต้องเลี้ยวซ้ายไปทางแยกคอโค แต่นายทน สิทธิศรี ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรและไม่ใช้ความระมัดระวังตามวิสัย และพฤติการในขับขี่รถจักรยานยนต์ ตรงไปเพื่อที่จะข้ามไปยังถนนฝั่งตรงข้าม เป็นการตัดช่องทางเดินรถ เข้าไปเฉี่ยวชนที่บริเวณบังโคนหน้าด้านซ้ายมือ ของรถคู่กรณีเป็นเหตุให้รถทั้งสองคันได้รับความเสียหายและนายทน สิทธิศรี ได้รับบาดเจ็บรักษาตัวที่โรงพยาบาลสุรินทร์ ต่อมาพนักงานสอบสวนได้จัดเจรจาช่วยเหลือด้านมนุษย์ธรรม เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2563 ฝ่ายของนายทน สิทธิศรี ได้เรียกร้องความเสียหายค่าสินไหมทดแทนและค่ารักษาพยาบาลต่อเนื่องเป็นเงิน 100,000 บาท แต่การเจรจาไม่เป็นที่ยุติ ยังไม่สามารถตกลงกันได้ ต่อมาพนักงานสอบสวนได้จัดให้คู่กรณีเจรจาช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอีกครั้งโดยฝ่าย จ. ส. ท. พัฒนศักดิ์ ปั่นแก้ว ประสงค์จะช่วยด้านมนุษยธรรมเป็นเงิน 10,000 บาท โดยจะทยอยโอนเงินเข้าบัญชีของ นายทน สิทธิศรี จนครบตามจำนวน แต่ทางฝ่ายของนายทน สิทธิศรี ยังไม่รับข้อเสนอ จะไปพิจารณาอีกครั้ง จึงได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน พิจารณาแล้วเห็นว่าอุบัติเหตุในครั้งนี้เป็นความประมาทของ นายทน สิทธิศรี ซึ่งขับขี่รถโดยไม่ใช้ความระมัดระวังตามวิสัยและพฤติการณ์ โดยแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่าขับขี่รถจักรยานยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย แต่นายทน สิทธิศรี ไม่มีเงินที่จะชำระค่าปรับ และยังรักษาตัวต่อเนื่องโดยเป็นผู้ปวยติดเตียง ได้ร้องของให้ว่ากล่าวตักเตือน จึงได้ว่ากล่าวตักเตือน นายทน สิทธิศรี ในส่วนการเจรจาค่าเสียหายยังไม่ได้ข้อยุตินั้น ได้แนะนำคู่กรณีไปเรียกร้องกันในทางแพ่งต่อไป เป็นที่เข้าใจทุกฝ่ายแล้ว จึงได้ให้ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน องค์การสืบสวนการทุจริต FIO ที่พึ่งสุดท้ายของชาวฐานราก
ภาพ / บุญเที่ยง จิตรลมข่าว / ครรชิต ขวัญวิเชียร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น