วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2564

หนุ่มแสบอ้างเป็นนายพลตำรวจเบี้ยวค่าพักรีสอร์ท


                                  หนุ่มแสบอ้างเป็นนายพลตำรวจเบี้ยวค่าพักรีสอร์ท

........เมื่อวันที่ 23 เม.ย.64 พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนาผกก.4 บก.ป.พ.ต.ท.ภัทรพันธ์ พูลทวี และ พ.ต.ต.ณรงค์ หาญสันเทียะ สว.กก.4 บก. จับกุม นายไพรวัลย์ หรืออ้วน  อายุ 36 ปี ตามหมายจับศาลล้มละลายกลาง ที่ 1754/2563 ลงวันที่ 19 พ.ค. 63 ข้อหา “จงใจขัดขืนหมายเรียกของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นเหตุให้ขัดข้องต่อการดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีล้มละลาย” จับได้ที่รีสอร์ท ต.บ้านกาด อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่

       วันที่ 21 เม.ย.64 รับแจ้งว่ามีบุคคลแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ อ้างว่าชื่อ รองอุ้ย มาเปิดห้องพักที่รีสอร์ทใน ต.บ้านกาด อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่  ขอค้างค่าที่พัก พนักงานสอบถามพบพิรุธบอกต้นสังกัดไม่ได้ และไม่มีบัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจมาแสดงให้ดูได้แจ้งให้กองปราบปรามมาตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบชายคนตัดผมสั้นเกรียน ใส่เสื้อกั๊กสีดำ ลักษณะคล้ายกเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนอยู่หน้ารีสอร์ท จึงแสดงตัวขอตรวจสอบ เบื้องต้นทราบชื่อนายไพรวัลย์ มีอาชีพเป็นเกษตรกร ไม่ได้เป็นตำรวจ จึงควบคุมตัวและตรวจค้นรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค ทะเบียน ขล 1319 เชียงใหม่ ของผู้ต้องหา พบชุดเครื่องแบบตำรวจประดับยศพันตำรวจตรี

, หมวกแก็ปหน้าหมวกปักตราแผ่นดิน ใต้ตราแผ่นดินปักตัวอักษรภาษาอังกฤษ ROYAL THAI POLICE  กระบองไฟส่งสัญญาณ,ไฟฉายและรองเท้าคัทชูสีดำ 2 คู่ จ   

      จึงได้เข้าตรวจค้นห้องพักพบชุดเครื่องแบบควบคุมฝูงชน ตำรวจภูธรภาค 5 ประดับยศพันตำรวจตรี  กางเกงสีกากี เครื่องแบบตำรวจ เสื้อคุมแขนสั้น สีดำ ปักตราตำรวจภูธรภาค 5 ,วิทยุสื่อสาร,กระเป๋าถือ สีดำ ปักตราสมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ,หมวกหม้อตาลตำรวจ

     นายไพรวัลย์ รับสารภาพว่า เครื่องแบบและสิ่งของรายการดังกล่าวเป็นของตนเองจริง ได้สวมใส่เป็นประจำเนื่องจากมีความชอบและอยากเป็นตำรวจ มักจะแอบอ้างว่าชื่อ รองอุ้ย สังกัดตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อทำให้ผู้อื่นเกรงใจ นอกจากนี้ยังได้แอบอ้างกับพนักงานของรีสอร์ทขอพักอาศัยและรับประทานอาหาร โดยบอกกับพนักงานว่า ขอค้างค่าที่พักและค่าอาหารไว้ก่อนแล้วจะนำมาชำระให้ภายหลัง ต่อมาได้ชำระเงินค่าใช้จ่ายกับรีสอร์ทไปส่วนหนึ่งแล้ว แต่ยังค้างจ่ายอีก  14,000 บาท ส่วนกรณีหมายจับของศาลล้มละลายกลาง เดิมตนและภรรยาและเช่าซื้อบ้านที่ จ.แพร่ ไว้กับธนาคาร ต่อมาเมื่อปี 2554 ประสบปัญหาเศรษฐกิจ ไม่สามารถชำระหนี้กับธนาคารได้จึงถูกฟ้องร้องเป็นคดี เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ แต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิ, แต่งกายโดยใช้เครื่องแต่งกายคล้ายเครื่องแบบตำรวจกระทำการใดๆ อันทำให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่าเป็นตำรวจ, สวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงานโดยไม่มีสิทธิ, มีและใช้เครื่องวิทยุโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำตัวส่ง สภ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีต่อไป............




....ศรัณยู  ตะถา(ผู้สื่อข่าว).....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

“ปชป.”สร้างคนรุ่นใหม่ส่ง“ดร.รัชดา”ร่วมอบรมการพัฒนาผู้ประกอบการที่เยอรมันหวังกลับมาต่อยอดโครงการส่งเสริมอาชีพกลุ่มสตรี

“ปชป.”สร้างคนรุ่นใหม่ส่ง“ดร.รัชดา”ร่วมอบรมการพัฒนาผู้ประกอบการที่เยอรมันหวังกลับมาต่อยอดโครงการส่งเสริมอาชีพกลุ่มสตรี นายอลงกรณ์ พลบุตร รองป...