วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2564

จ.อุตรดิตถ์ อดีต ผอ.สกสค.6 จังหวัดและสมาชิก ชพค.และ ชพส. ยื่นขอความเป็นธรรม ผอ.สนง.ป.ป.ช.อุตรดิตถ์ ให้ตรวจสอบการสรรหาเลขาธิการคณะกรรมการและ ผอ.สกสค.


จ.อุตรดิตถ์ อดีต ผอ.สกสค.6 จังหวัดและสมาชิก ชพค.และ ชพส. ยื่นขอความเป็นธรรม ผอ.สนง.ป.ป.ช.อุตรดิตถ์ ให้ตรวจสอบการสรรหาเลขาธิการคณะกรรมการและ ผอ.สกสค.

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 มีนาคม 64 ที่ห้องสหกรณ์ครูจังหวัดอุตรดิตถ์ นายธำรงรัฐ  จอมสืบ อดีต ผอ.สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) จ.อุตรดิตถ์ พร้อมด้วยอดีต ผอ.สกสค.รวม 6 จังหวัด ประกอบไปด้วย จ.อุตรดิตถ์ จ.ตาก จ. พิษณุโลก  จ.กำแพง  จ.สุโขทัย จ.เพชรบูรณ์ และ ดร.ธำรงค์  น่วมศิริ ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุตรดิตถ์ จำกัด นายชวลิต  คำเพ็ง ประธานสันติบาต สหกรณ์จังหวัดอุตรดิตถ์ รวมทั้งสมาชิก ชพค.และชพส.ซึ่งเป็นครูและอดีตครู หน่วยงาน สกสค.และผู้บริหาร จ.อุตรดิตถ์ จำนวน 200 คน ร่วมแถลงข่าวและเดินทางไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมขอให้ตรวจสอบ การสรรหาเลขาธิการคณะกรรมการและ ผอ.สกสค.กับ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.จ.อุตรดิตถ์ ในครั้งนี้

ต่อจากนั้น นายธำรงรัฐ  จอมสืบ อดีต ผอ.สกสค.จ.อุตรดิตถ์ และคณะได้เดินทางไปยัง สำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อยื่นหนังสือขอให้ตรวจการสรรหาเลขาธิการคณะกรรมการ และ ผอ.สกสค. ส่อไปในทางที่อาจทำให้เกิดการทุจริตเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง ซึ่งนำพาไปสู่การแก้ไขหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาผู้อำนวยการ สกสค.จังหวัดกรุงเทพมหานคร ขัดต่อหลักธรรมาภิบาล โดยมีข้อสังเกตดังนี้ 1.ในปี พ.ศ.2562 นายดิสกุล  เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการ กศน. ได้รับการแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. อีกตำแหน่งหนึ่ง หลังจากมาปฏิบัติงานได้เพียง 7 วัน ก็ทำการแก้ไขคุณสมบัติของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ สกสค. โดยปรับลดคุณวุฒิการศึกษาจากระดับปริญญาโทเหลือระดับปริญญาตรี และแก้ไขประสบการณ์จากที่เคยดำรงตำแหน่งเป็นครูหรือบุคลากรทางการศึก ษาปรับแก้ไขเป็นบุคลากรใด ๆ ก็ได้ อันเป็นเหตุนำไปสู่การแต่งตั้งรองเลขาธิการ สกสค. และเลขาธิการในลำดับต่อมา

และผู้ที่ให้รับการสรรหาและแต่งตั้งให้เป็นเลขาธิการ สกสค. ได้มาทำหน้าที่เป็นผู้สรรหาผู้อำนวยการ สกสค.จังหวัด ต่อมา นายดิสกุล  เกษมสวัสดิ์ ได้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นเลขาธิการคุรุสภา และได้รับการแต่งตั้ง ซึ่งแทนที่จะสมัครเป็นเลขาธิการ สกสค. เพื่อหลีกทางให้ นายธนพร  สมศรี (รองเลขาธิการ ซึ่งตนแต่งตั้งไว้) ขึ้นมาเป็นเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. 2.ได้มีการแก้ไขระเบียบการสรรหาผู้อำนวยการ สกสค.จังหวัด โดยมีการตัดขั้นตอนการสรรหา ซึ่งแต่เดิมกำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกบุคคลในท้องถิ่น จำนวน 2 คน ส่งให้ส่วนกลางพิจารณาเลือกให้เหลือ 1 คน แล้วแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการ สกสค.จังหวัด ซึ่งถือได้ว่าเป็นการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นแต่ละจังหวัดเลือกท้องถิ่นของตนเข้าไปทำหน้าที่บริหารงาน สกสค. จะได้ดูแลสมาชิกในจังหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ การตัตตอนตังกล่าวทำให้มีข้อสังเกตว่า คนจากจังหวัดบุรีรัมย์หรือเคยรับราชการอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการ สกสค.จังหวัดในครั้งนี้จำนวนไม่น้อยกว่า 20 คน จากตำแหน่งที่แต่งตั้งจำนวน 64 ตำแหน่ง

3.ความไม่ชัดเจนของหลักเกณฑ์และการให้ผู้สมัครจัดส่งเอกสาร ประกอบการสมัครไม่ชัดเจนครั้งแรกให้ส่งเอกสารรวมเล่มทั้งเนื้อหา และเอกสารประกอบ ต่อมามีการแจ้งให้แยกส่ง ซึ่งทำให้ผู้สมัครสับสนทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบของการสรรหาครั้งนี้  4.การสัมภาษณ์ไม่เป็นไปตามมาตรฐานของการสอบสัมภาษณ์โดยทั่วไป ไม่มีการกำหนดคะแนนขั้นต่ำและขั้นสูงไว้ ทำให้กรรมการสอบสัมภาษณ์สามารถให้คะแนนผู้หนึ่งผู้ใดสูงหรือต่ำกว่ามาตรฐานได้ โดยคำถามนั้นเป็นคำถามในหน้าที่การงานของ ผู้อำนวยการ สกสค.จังหวัด แต่ผู้ที่ไม่เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ สกสค.จังหวัด มาก่อน กลับมีคะแนนดีกว่าผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งนี้มาแล้วถึง 20 กว่าคน ซึ่งผู้ร้องได้ทำเรื่องขอทราบผลคะแนนการสอบสัมภาษณ์ของผู้ร้องเองแต่ได้รับการปฏิเสธ (ตามเอกสารแนบ) จึงทำให้เป็นข้อสังเกตที่จะไม่ได้รับความเป็นธรรม  5.ผู้สมัครหลายคนสมัครในจังหวัดหนึ่ง ต่อมาขอถอนตัว และไปสมัครอีกจังหวัดหนึ่ง ซึ่งก็ได้รับการสรรหา และแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการ สกสค.จังหวัด ในที่ไปสมัครครั้งหลังสุดทุกคน เช่น จังหวัดตาก, จังหวัดพะเยา คล้ายกับมีการจัดโผการสรรหา และแต่งตั้งไว้เรียบร้อยแล้ว

จากพฤติกรรมดังกล่าวข้างต้น ผู้ร้องมีความเชื่อว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เชื่อว่าการสรรหาผู้อำนวยการ สกสค.จังหวัด ครั้งนี้มีการทุจริต เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง จึงมีความประสงค์ขอให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการไต่สวน เพื่อให้ได้ความจริง และดำเนินการดังนี้ 1.ยกเลิกสัญญาจ้าง นายธนพร  สมศรี เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. และพวก พร้อมคืนเงินค่าจ้าง ค่าตอบแทน และเงินอื่น ๆ ที่ได้รับในระหว่างการดำรงตำแหน่ง  2.ยกเลิกสัญญาจ้างผู้อำนวยการ สกสค.จังหวัด พร้อมทั้งคืนเงินค่าจ้างค่าตอบแทน และเงินอื่นที่ได้รับในขณะดำรงตำแหน่ง และ 3.พิจารณาโทษ นายธนพร สมศรี เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. และพวก ที่ร่วมกันแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ

ด้านนายอภินันท์ เรืองประเภท ผอ.สนง. ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า เบื้องต้นรับหนังสือดังกล่าวไว้ เพื่อจะได้ตรวจสอบตามข้อร้องเรียนหรือกล่าวหา ว่าเป็นไปตามขั้นตอนหรือเปล่า และจะได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงและนำเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติต่อไป







นาคา คะเลิศรัมย์/รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นบ.ยส.24 โดย ร้อย.ฉก.ทพ.2101 โชว์ฝีมือจับผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 12,000 เม็ด บริเวณ ทุ่งนา บ.แพงใต้ ม.11 ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม

นบ.ยส.24 โดย ร้อย.ฉก.ทพ.2101 โชว์ฝีมือจับผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 12,000 เม็ด บริเวณ ทุ่งนา บ.แพงใต้ ม.11 ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพ...