วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2564

รองแม่ทัพภาคที่ 3 ตรวจเยี่ยมจุดบริการประชาชน จุดคัดกรอง วัดหลวงพ่อพุทธชินราช กระชับ!! มาตรการควบคุมยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID - 19 สถานีขนส่งผู้โดยสารพิษณุโลกแห่งที่ 1 และ แห่งที่ 2


รองแม่ทัพภาคที่ 3 ตรวจเยี่ยมจุดบริการประชาชน จุดคัดกรอง วัดหลวงพ่อพุทธชินราช กระชับ!! มาตรการควบคุมยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID - 19 สถานีขนส่งผู้โดยสารพิษณุโลกแห่งที่ 1 และ แห่งที่ 2

เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2564 พลตรี สุริยะ เอี่ยมสุโร รองแม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย พลตรี นพดล รอดกลาง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 39 เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพล จิตอาสาพระราชทาน และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำจุดบริการประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ วัดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พร้อมให้คำแนะนำวิธีการคัดกรองเชื้อไวรัส โควิด - 19 ให้กับกำลังพลทหารจิตอาสาพระราชทานประจำจุดบริการประชาชน เพื่อให้ร่วมปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพิษณุโลก , จิตอาสาพระราชทานจังหวัดพิษณุโลก และเจ้าหน้าที่ของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ในการดูแลประชาชนอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสักการะบูชาหลวงพ่อพระพุทธชินราช สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองพิษณุโลก ตามมาตรการทางสาธารณสุข การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 โดยมี พันเอก นพดล  วัชรจิตรบวร รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 39/ จิตอาสา 904 จังหวัดพิษณุโลก, พันโท ชำนาญ วงศ์รักษา รองหัวหน้าฝ่ายข่าว ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค 3, พันโท ยุทธนา รุ่งศรี ผู้ช่วยนายทหารฝ่ายยุทธการ และนโยบายแผน ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค 3,พันโท โสภณ  เชี่ยววานิช  ผู้ช่วยนายทหารกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 3/ ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือนกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3, ร้อยโท สมพงษ์ เขียวดี ผู้ช่วยนายทหารฝ่ายข่าว ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค 3 , เจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

ซึ่ง มณฑลทหารบกที่ 39 นำทหารจิตอาสาพระราชทาน จับมือ สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพิษณุโลก อำนวยความสะดวกในการเดินทาง ของนักท่องเที่ยวที่จะเยี่ยมชมและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร โดยเข้มงวดมาตรการการตรวจคัดกรองอุณหภูมิร่างกาย, การสวมใส่หน้ากากอนามัย และบริการเจลล้างมือแอลกอฮอล์ ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ด้วย

จากนั้น พลตรี สุริยะ เอี่ยมสุโร รองแม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย พลตรี นพดล รอดกลาง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 39 และคณะ ลงพื้นที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดพิษณุโลกแห่งที่ 1 เพื่อตรวจเยี่ยมการปฎิบัติงานของจุดบริการประชาชน  / มาตรการการคัดกรอง และ ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ของสำนักงานขนส่งจังหวัดพิษณุโลก  พร้อมให้คำแนะนำผู้โดยสารและพนักงานขับรถเกี่ยวกับมาตรการเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางและมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 รวมถึงพบปะพูดคุย และแนะนำการสวมใส่หน้ากากอนามัย, การเว้นระยะห่าง การลงทะเบียนและใช้ Application ไทยชนะ และ หมอชนะ ในการเดินทาง และการเข้ามาพำนักในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ให้แก่พี่น้องประชาชนผู้ใช้บริการสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดพิษณุโลกแห่งที่ 1 อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมี นางสุธีวรณ ศรีสุข ขนส่งจังหวัดพิษณุโลก และนายสถานีเดินรถ บริษัท ขนส่ง จำกัด  จิตอาสาพระราชทานจังหวัดพิษณุโลก และ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพิษณุโลก ร่วมให้การต้อนรับ

ต่อมา รองแม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 39 เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฎิบัติงานของจุดบริการประชาชน  / จุดคัดกรอง มาตรการการคัดกรอง และ ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ของสำนักงานขนส่งจังหวัดพิษณุโลก เยี่ยมชมรถโดยสารปรับอากาศรถโดยสารประจำทางและรถโดยสารไม่ประจำทางถึงความพร้อมในการรองรับการเดินทางของประชาชนและ มาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID  - 19 ที่ติดตั้งภายในรถโดยสาร พร้อมให้คำแนะนำผู้โดยสารและพนักงานขับรถเกี่ยวกับมาตรการเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางและมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 รวมถึงพบปะพูดคุย และแนะนำการสวมใส่หน้ากากอนามัย, การเว้นระยะห่าง การลงทะเบียนและใช้ Application ไทยชนะ และ หมอชนะ ในการเดินทาง ให้แก่พี่น้องประชาชนผู้ใช้บริการสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดพิษณุโลกแห่งที่ 2 ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดพิษณุโลกแห่งที่ 2 ตำบลสมอแข อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก

สำนักงานขนส่งจังหวัดพิษณุโลกได้ตั้งจุดตรวจรถโดยสารสาธารณะให้รถทุกคันต้องปลอดภัย มีสภาพมั่นคงแข็งแรง และตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถ ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็นศูนย์ มีชั่วโมงการทำงานไม่เกินที่กฎหมายกำหนด หากพบสภาพรถหรือผู้ขับรถมีข้อบกพร่องที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยจะต้องให้ผู้ประกอบการขนส่งจัดหารถคันใหม่และผู้ขับรถที่มีความพร้อมมาให้บริการแทนทันทีเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน พร้อมกับมีการเฝ้าระวังการใช้ความเร็วรถโดยสารสาธารณะตลอด 24 ชั่วโมงผ่านศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ส่วนประชาชนผู้โดยสารจะต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ลงทะเบียนเข้าใช้บริการ  ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล และรักษาระยะห่างตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด- 19 พร้อมกับกำหนดพื้นที่เข้า - ออกชานชาลาอย่างชัดเจน 

นอกจากนั้นยังได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่บริการให้คำแนะนำข้อมูลการเดินทาง รับเรื่องร้องเรียนการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะผ่านศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียนผ่านโทรสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยตั้งแต่เริ่มมาตรการเข้มข้นเพื่อความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 ถึงปัจจุบัน การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย






















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น