วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

พิธีกรรมโบราณการสวดถอนสีมา วัดมูลเหล็ก ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมือง จ.พิจิตร


วันที่ 7 พ.ย.2563 เวลา 13.29 น.พระภิกษุสงฆ์จำนวนเกือบร้อยรูปร่วมพิธีสวดถอนอุโบสถหลังเก่าของ วัดมูลเหล็กตามพิธีกรรมโบราณที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ในอดีต โดยมี พระครูวิภัชธรรมโสภิต (หลวงพ่อเชื่อม) รองเจ้าคณะอำเภอเมือง พิจิตร พระครูสังฆรักษ์กิตติคุณ วรธมฺโม เจ้าอาวาสวัดถ้ำชาละวัน  พร้อมด้วย พระครูพิศาลธรรมนันท์(หลวงพ่อทัด) เจ้าอาวาสวัดมูลเหล็ก เจ้าคณะตำบลโรงช้าง เป็นประธานคณะสงฆ์นำพระภิกษูสงฆ์สวดถอนอุโบสถหลังเก่าทั้ง 4 ทิศ ตามพระวินัยที่ได้กำหนดไว้ สถานที่การสร้างโบสถ์นั้น ต้องทำการสวดถอนติจีวราวิปปวาสสีมา และสมานสังวาสสีมา ในพื้นที่นั้นเสียก่อน แล้วจึงจะสวดสมมุติเป็นสมานสังวาสสีมา และติจีวราวิปปวาสสีมาอีกครั้ง เพื่อไม่ให้สถานที่นั้นเกิดความคาบเกี่ยวกันของสีมา การสวดถอนสีมาถือเป็นพิธีใหญ่ เนื่องจากการรื้อโบสถ์เพื่อสร้างใหม่นั้นไม่ได้ทำกันง่ายนัก พิธีกรรมนี้นาน ๆ จะได้เห็นบางคนอยู่จนอายุเกือบ 100 ปี ยังไม่เคยเห็นพิธีกรรมดังกล่าว ดังนั้นการสวดถอนสีมาจึงเป็นพิธีกรรมสำคัญแตกต่างจากการสวดถอนอื่นๆ เป็นเรื่องของพระสงฆ์ทั้งมวลที่ต้องมาชุมนุมและยืนในหัตถบาท เพื่อประกอบพิธี ต้องนิมนต์พระสงฆ์จำนวนมาก เพราะพัทธสีมาไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่งเป็นเจ้าของ เป็นของส่วนรวม ดังนั้นการถอนพัทธสีมาตามพระวินัยต้องนิมนต์พระสงฆ์เป็นจำนวนมาก มาชุมนุมกันเพื่อขอเป็นมติสงฆ์ในการถอนสีมา เมื่อถอนแล้วโบสถ์หลังนั้นก็ไม่สามารถใช้อุปสมบทพระภิกษุได้อีก การจะสร้างโบสถ์หลังใหม่จึงจำเป็นที่จะต้องสวดถอนหลังเก่าก่อนตามพิธีโบราณที่สืบทอดปฏิบัติกันมา ในระหว่างที่พระภิกษุสงฆ์กำลังสวดถอนได้มีฝนโปรยลงมาเป็นที่อัศจรรย์กับผู้ที่กำลังดูพระภิกษุสงฆ์ทำพิธีกรรมสวดถอน


















นกพิราบ  ภาพข่าวรายงาน

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น