วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2563

รองอธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่ตรวจสอบคันดินกั้นน้ำขาด มอบแนวทางแก้ไขปัญหา พร้อมตรวจการก่อสร้างประตูระบายน้ำในโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง

รองอธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่ตรวจสอบคันดินกั้นน้ำขาด มอบแนวทางแก้ไขปัญหา พร้อมตรวจการก่อสร้างประตูระบายน้ำในโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง

ชป. :  เมื่อวันที่  14 ตุลาคม 2563  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายประพิศจันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทาน  นายเสริมชัย เซียวศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่   และ  คณะ    ลงพื้นที่ตรวจสอบคันดินกั้นน้ำขาดจากการถูกน้ำกัดเซาะ  พร้อมตรวจการก่อสร้างประตูระบายน้ำ      จากอิทธิพลของพายุโซนร้อนหลิ่นฟาและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และ   อ่าวไทย มีกำลังแรง ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่องติดต่อกัน และ มีน้ำไหลผ่านเข้าสู่คลองผันน้ำโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นการช่วยเร่งการระบายน้ำในแม่น้ำตรัง และ  บรรเทาปัญหาอุทกภัยที่จะเกิดขึ้น   โดยมีนายรุทร์  อินนุพัฒน์  ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 11  สำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่  ตลอดจนเจ้าหน้าที่ในสังกัด ฯ ต้อนรับ  ณ หมู่ที่ 1 ตำบลหนองตรุด อำเภอเมืองตรัง

นายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทาน   กล่าวว่า   โครงการนี้เป็นโครงการผันน้ำ ที่จะช่วยผันน้ำส่วนเกินจากแม่น้ำตรัง  ดำเนินการมาแล้วกว่าร้อยละ 90   ทั้งการขุดหรือทำคันกั้นน้ำ ในขณะเดียวกัน   จะมีอาคารประตูระบายน้ำ 2 แห่ง สะพาน 44 แห่ง ที่อยู่ในระหว่างดำเนินการ และโครงการดังกล่าว ก่อประโยชน์ให้กับพื้นที่  ป้องกันน้ำท่วมในเขตเมือง   แต่ยังมีจุดอ่อน ซึ่งจะต้องควบคุมเพื่อมิให้คันดินที่มีอยู่  เสียหายมากกว่าเดิม   ด้วยการนำกล่องแกเบียนหรือกล่องหินมาวางเรียง   เป็นประสบการณ์จากลำน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น  ซึ่งกำหนดแล้วเสร็จภายใน 2 วัน พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 11  ที่ดูแลรับผิดชอบงานก่อสร้างโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง ได้จัดเตรียมความพร้อมในการรองรับภาวะวิกฤติ    หากมีปริมาณน้ำในแม่น้ำตรังเพิ่มสูงขึ้นและอาจจะเกิดผลกระทบกับการดำรงชีวิตของประชาชนในพื้นที่บริเวณรอบโครงการ ฯ    

“  โครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง จังหวัดตรัง มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดตรัง โดยมีลักษณะโครงการเป็นการก่อสร้างคลองผันน้ำพร้อมอาคารประกอบ เริ่มตั้งแต่บ้านหนองตรุด หมู่ที่ 1 ผ่านหมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 ต.หนองตรุด หมู่ที่ 1 ต.นาโต๊ะหมิง และหมู่ที่ 4 ต.บางรัก สิ้นสุดที่บ้านคลองช้าง หมู่ที่ 4 ต.บางรัก อ.เมือง จ.ตรัง ความยาวคลองประมาณ 7.55 กิโลเมตร ความกว้างท้องคลอง 102 เมตร ความลึกของคลองประมาณ 4.5 เมตร สามารถระบายน้ำได้ 750 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พร้อมทั้งก่อสร้างถนนบนคันคลอง ผิวจราจรกว้าง 9 เมตร ทั้ง 2 ฝั่งคลอง มีประตูระบายน้ำ จำนวน 2 แห่ง เพื่อควบคุมปริมาณน้ำที่ไหลเข้าคลองผันน้ำ และมีอาคารรับน้ำเข้าคลองคลอดความยาวของคลองผันน้ำ สามารถแบ่งน้ำที่จะไหลเข้าเขตเมืองได้สูงสุด 750 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากที่ไหลลงมาในแม่น้ำตรังทั้งหมดประมาณ 1,467 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยคาดว่างานก่อสร้างจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปีงบประมาณ 2564 “  นายประพิศ กล่าว. 

ด้านนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า จังหวัดตรังได้เร้งให้ความช่วยเหลือประชาชน แม้ขณะนี้ ฝนตกน้อยลงแต่ยังประมาทไม่ได้  ซึ่งได้กำชับให้ทุกท้องที่ได้ติดตาม รายงานสถานการณ์น้ำ  ปริมาณน้ำ และครัวเรือนที่ประสบอุทกภัยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง  ทั้งนี้ จังหวัดตรังร่วมกับสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง ได้นำสิ่งของไปช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลบางรัก จำนวน 50 ครัวเรือน และทางชลประทานจะเร่งผลักดันน้ำและติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ และสั่งการให้ทุกท้องถิ่นจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับแจ้งกรณีที่ประชาชนต้องการอพยพย้ายสิ่งของต่าง ๆ ตอนนี้ได้สั่งการเตรียมความพร้อมทุกหน่วยทุกพื้นที่และทุกอำเภอที่ได้รับผลกระทบ 7 อำเภอ ในเบื้องต้นทาง สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรังได้สนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 1,000 ชุด อีกด้วย นายขจรศักดิ์ กล่าว.








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา กองพลทหารม้าที่ 1 นำคณะ ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานตามโครงการหลัก 6 โครงการ ของสมาคมแม่บ้านทหารบกกองพันทหารม้าที่ 15 และกองพันทหารม้าที่ 10

ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา  กองพลทหารม้าที่ 1  นำคณะ ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานตามโครงการหลัก 6 โครงการ ของสมาคมแม่บ้านทหารบกกองพันทหารม้าที่...