มณฑลทหารบกที่ 37 กองกำลังผาเมือง กอ.รมน.จังหวัดเชียงราย ร่วมซ้อมแผนเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ covid-19 หากมีการแพร่ระบาดระลอก 2 ในพื้นที่ชายแดน
มณฑลทหารบกที่ 37 กองกำลังผาเมือง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย ร่วมกับ จังหวัดเชียงราย ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลสร้างกลไกการขับเคลื่อนการรับมือสาธารณภัย ด้วยการฝึกภาคสนามเตรียมความพร้อมเผชิญสถานการณ์ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอก 2 ในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อวันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม 2563 ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอแม่สาย ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งในช่วงเช้าได้จัดกิจกรรมการให้ความรู้ เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจในสถานการณ์การแพร่ระบาด ต่อด้วยการจำลองสถานการณ์เพื่อเผชิญเหตุและแนวทางปฏิบัติในการแก้ไขปัญหา พร้อมสรุปผลการฝึกซ้อมเพื่อปรับแก้ไขจุดอ่อน ข้อจำกัด รวมทั้งอุปสรรคจากการปฏิบัติเพื่อนำไปสู่การควบคุมสถานการณ์ให้ได้ผลในเชิงปฏิบัติและสกัดกั้นการแพร่กระจายเชื้อให้ได้ผลในเชิงมุ่งผลสัมฤทธิ์ ก่อนที่จะมีการสรุปและประกอบพิธีปิดในช่วงบ่ายตามลำดับ
โอกาสนี้ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนางดวงจิตต์ ปรัชญ์สกุล ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย และหัวหน้าส่วนราชการ ได้เข้าร่วมรับฟัง สังเกตการณ์ และร่วมเป็นเกียรติในพิธีปิดการฝึกซ้อมด้วย
โดย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า กิจกรรมวันนี้ จังหวัดเชียงรายได้กำหนดการฝึกซ้อมแผน โดยสมมติว่าหากมีผู้ติดเชื้อในจังหวัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีบทบาทหน้าที่อย่างไร? และหากมีสถานการณ์ฉุกเฉินแทรกซ้อนจะรับมืออย่างไร? อีกทั้งยังเป็นการแลกเปลี่ยนความเข้าใจระหว่างหน่วยงานด้วย
ทั้งนี้ สถานการณ์ในจังหวัดเชียงรายยังไม่มีการแพร่ระบาด แต่ตามแนวชายแดนยังได้รับการควบคุมทางยุทธการอย่างเข้มข้นโดยกองกำลังผาเมือง และฝ่ายปกครองที่รับผิดชอบดูแลภายในหมู่บ้านอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ จังหวัดเชียงรายยังประสานความร่วมมือกับสหภาพเมียนมาร์ที่อำเภอท่าเหล็กเป็นอย่างดี ทั้งในการขนส่งสินค้าและการดูแลทางสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม ศปก.ตำบลนั้น ยังต้องให้ความสำคัญเพราะเป็นด่านหน้าที่จะป้องกันไม่ให้เชื้อเข้ามาสู่ประเทศไทย
อนุสนธิโดยในช่วงเช้า ก่อนเริ่มการฝึกได้ประกอบพิธีเปิดการฝึก โดยมี นายกฤชเพชร เพชระบูรณิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์กรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงราย ซึ่งประกอบด้วยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงราย คณะทํางานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัดเชียงราย (ศปก.จ.เชียงราย) และศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอําเภอแม่สาย (ศปก.อ.แม่สาย) ที่เข้าร่วมการฝึกกว่า 200 คน
เพื่อเป็นการซักซ้อมและทําความเข้าใจร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดเชียงรายในการปฏิบัติงานในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปอย่างมีเอกภาพตามบทบาทหน้าที่ร่วมกัน ด้วยการจำลองสถานการณ์และบทบาทสมมติในกรณีจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมามีผู้ติดเชื้อและ เกิดการระบาดระลอกที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2563 ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในรัฐยะไข่ เมืองชิตตเว ที่กําลังเป็นพื้นที่วิกฤติที่สุด มีจำนวนผู้ป่วยสะสมในพื้นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจังหวัดเชียงรายมีชายแดนติดกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จึงต้องกําชับและเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ดําเนินการตามมาตรการและคําสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างเคร่งครัด
โดยการฝึกซ้อมครั้งนี้ เป็นฝึกซ้อมในรูปแบบ Functional Exercise ด้านการรับการสั่งการ การอํานวยการ การฝึกตามสถานการณ์พิเศษ และขั้นตอนการอํานวยความสะดวกของแต่ละหน่วยงานและการตอบสนองต่อสถานการณ์ตามแผนของหน่วยงานและจังหวัด การจัดสรรทรัพยากรในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค การแบ่งมอบหน้าที่ตามความรับผิดชอบ และการร้องขอการสนับสนุนทรัพยากรเพิ่มเติม และช่วงท้ายจะมีการสรุปผลการประชุมและทบทวนหลักการปฏิบัติ (After Action Review : AAR) เพื่อรองรับสถานการณ์โควิด-19 ในระลอกที่ 2 ซึ่งจังหวัดเชียงรายมั่นใจว่า ทุกภาคส่วนจะมีความเข้าใจ สามารถปฏิบัติภารกิจตามบทบาทหน้าที่ได้อย่างถูกต้องและประสานกลมเกลียวได้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งมีความเข้าใจในบริบทสภาพแวดล้อมที่จะสามารถระงับสกัดกั้นการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประชาชนมีความเข้าใจ ให้ความร่วมมือและสามารถปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้องอีกด้วย
ภาพข่าวศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 3 นกพิราบศูนย์ข่าว พิจิตร
0831671688 รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น