นายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่ จ.สุโขทัย สั่งเร่งเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนภาคการเกษตร กำชับจังหวัดรับฟังความคิดเห็นประชาชน ย้ำสร้างความร่วมมือ “ไทยสร้างชาติ”
เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2563 เวลา 14.20 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย เมื่อเดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีได้สักการะพระประธานหลวงพ่อสัมฤทธิ์ และนมัสการเจ้าอาวาสวัดคลองกระจง (พระครูสุมณฑ์ธรรมธาดา) ณ อุโบสถวัดคลองกระจง เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นนายกรัฐมนตรีพบปะประชาชนผู้ประสบอุทกภัย และมอบถุงยังชีพ ณ ศาลาอเนกประสงค์ วัดคลองกระจง หมู่ที่ 3 ตำบลคลองกระจง อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย โดยมี พลโท ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 ให้การต้อนรับและร่วมปฏิบัติภารกิจ
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวพบปะกับประชาชนว่า มีความห่วงใยสถานการณ์ในทุกพื้นที่ โดยได้มอบหมายให้ส่วนราชการเร่งให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จังหวัดสุโขทัยประสบปัญหาอุทกภัยพื้นที่การเกษตรเกิดความเสียหายกว่าแสนไร่ ได้สั่งการให้เร่งเยียวยาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเกษตรและการประมง ซึ่งจากการบินสำรวจดูพื้นที่พบว่าจังหวัดสุโขทัยมีพื้นที่ที่มีศักยภาพในการทำการเกษตรแต่ติดปัญหาเรื่องน้ำท่วม เพราะฉะนั้นประชาชนต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน ในส่วนของการดำเนินการแก้ไขปัญหาไม่ว่าจะเป็นการขุดลอกคลอง รวมถึงการดำเนินโครงการต่าง ๆ ต้องสอบถามความคิดเห็นของประชาชน ให้ประชาชนมีส่วนร่วม พร้อมกับกำชับให้จังหวัดรับฟังความคิดเห็นว่าประชาชนต้องการอะไร ซึ่งทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานความเป็นไปได้ จัดลำดับความเร่งด่วนและความเหมาะสมกับงบประมาณ ทั้งนี้ ขอให้จังหวัดช่วยสร้างความร่วมมือในลักษณะ “ไทยสร้างชาติ”
นายกรัฐมนตรียืนยันรัฐบาลพร้อมรับฟังปัญหาและนำมาแก้ไข ขอให้ประชาชนมีความหวัง และมีศรัทธาต่อรัฐบาล รัฐบาลพร้อมทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และฝากประชาชนเตรียมพื้นที่กักเก็บน้ำในที่ดินของตนเอง เพื่อกักเก็บน้ำรองรับการเพาะปลูกในฤดูแล้ง ในส่วนของการทำการเกษตรต้องดูการตลาดเป็นหลัก มีการวางแผนตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ส่วนตัวรู้สึกเห็นใจชาวสุโขทัยที่ประสบปัญหาอุทกภัยแบบซ้ำซากขอให้เดินหน้าแก้ไขปัญหาไปพร้อมกัน พร้อมกับกล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกรังเกียจผู้ที่มาร้องเรียน เข้าใจปัญหาดี และรักทุกคนเพราะเป็นคนไทยด้วยกัน ต้องรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ บ้านเมืองต้องสงบ รัฐบาลพร้อมทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ แต่ก็มีข้อจำกัดของเวลา
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณในความเสียสละทำงานด้วยความเข้มแข็งของเจ้าหน้าที่ อสม. จนทำให้ติดอันดับ 1 ในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 พร้อมทั้ง ขอให้ทำงานอย่างเข้มแข็งร่วมกับท้องถิ่นในการแก้ไขปัญหาร่วมกันต่อไป ให้มีหัวใจที่ภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ร่วมมือ รวมหัวใจและสองมือ ช่วยกันทำให้บ้านเมืองดียิ่งขึ้นไป
ภาพข่าวศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 3 นกพิราบศูนย์ข่าว พิจิตร 083167168 รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น