วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2563

อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำแจงปีนี้น้ำน้อยห่วงเกิดภัยแล้งลงพื้นที่เร่งพัฒนาบึงสีไฟให้มีลมหายใจด้วยการเติมน้ำ

น่าห่วงหลายพื้นที่เตรียมรับมือภัยแล้งอธิบดีกรมน้ำฯ เผยปีนี้ปริมาณน้ำฝนมีน้อยกว่าปี 62 ซึ่งเป็นปีที่จัดว่าแห้งแล้ง ดังนั้นเมื่อสภาพน้ำฝน ปี 63 เป็นเช่นนี้ก็จะส่งผลในช่วงหน้าแล้งของปี 64 น่าจะหนักหน่วงลงพื้นที่ติดตามงานที่สืบเนื่องจาก พลเอกประวิตร “บิ๊กป้อม”สั่งการอยากเห็นและขอให้บึงสีไฟพิจิตรเป็นพื้นที่กักเก็บน้ำแก้แล้งช่วยน้ำท่วม กรมน้ำฯลงพื้นที่ติดตามงาน เร่งประสานชลประทานต่อลมหายใจให้บึงสีไฟด้วยเติมน้ำเข้าในช่วงฤดูน้ำหลากให้เต็มที่ แม้ต้องใช้งบประมาณเพื่อดำเนินการก็ต้องทำ

 วันที่ 23 ก.ย. 2563 ความคืบหน้าจากการที่ พลเอกประวิตร  วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาตรวจราชการที่บึงสีไฟเมื่อวันที่ 15  ก.ค. 2563 และได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังช่วยกันแก้ปัญหาบึงสีไฟที่มีการขุดลอกบึงสีไฟแล้วมีกองดินจำนวนหลายล้านคิวทำลายทัศนียภาพ อีกทั้งบึงสีไฟที่เป็นแหล่งน้ำใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ แต่ไม่สามารถทำหน้าที่เป็นบึงน้ำเพื่อกักเก็บน้ำได้

 ล่าสุดวันนี้  นายภาดล   ถาวรกฤชรัตน์   อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ  ได้ลงพื้นที่ดูสภาพบึงสีไฟพร้อมทั้งเข้าร่วมประชุมกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาบึงสีไฟและแหล่งน้ำภายในจังหวัดพิจิตร ซึ่งประกอบด้วย    พลโทผดุง   ยิ่งไพบูลย์สุข   ผู้แทนสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ และที่ปรึกษามูลนิธิอุทกพัฒน์ในพระบรมราชูปถัมภ์  ,  นายอำนาจ อินทร์วงศ์แก้ว ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิจิตร , ผู้แทนผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 3  กรมเจ้าท่า  , ประมงจังหวัดพิจิตรและหน่วยงานภาครัฐจังหวัดพิจิตร พร้อมคณะที่ปรึกษาฯ ที่มีการหารือกันว่าอนาคตะต้องพัฒนาบึงสีไฟโดยมุ่งเน้นเป้าหมายหลักว่า บึงสีไฟต้องเป้นแหล่งน้ำรัการะบบนิเวศและเป็นแหล่งที่มนุษย์สามารถใช้ประโยชน์จากบึงสีไฟได้ เป็นแหล่งผลิตอาหาร  เป็นห่วงโซ่ของสัตว์น้ำและนกในธรรมชาติสร้างคุณประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่จะต้องเป็นพื้นที่สร้างงาน สร้างความสุขให้กับชาวบ้านที่อยู่โดยรอบบึงสีไฟและจะไม่มุ่งเน้นเรื่องสิ่งปลูกสร้างให้มากเกินความจำเป็น

 จากนั้น  นายภาดล   ถาวรกฤชรัตน์   อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากปริมาณน้ำฝนในปีนี้มีน้อยกว่าปี 62 ที่จัดได้ว่าเป็นช่วงที่แห้งแล้งสุดๆ ดังนั้นปี 63 น้ำฝน  น้ำในเขื่อนหลักหรือแอ่งน้ำขนาดใหญ่ก็มีน้อยกว่าปี 62 จึงคาดการณ์ว่า ในช่วงฤดูแล้งของปี 64 สถานการณ์อยู่ในภาวะน่าเป็นห่วง ส่วนเรื่องการพัฒนาบึงสีไฟตามบัญชาของ พลเอกประวิตร  วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ขณะนี้การขุดลอกและขุดดินบึงสีไฟมีความคืบหน้าโดยกรมเจ้าท่าจะดำเนินการขุดลอกบึงสีไฟ คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดทุกกิจกรรมภายในวันที่  12 ก.ย. 2563 นี้ ส่วนกองดินที่อยู่โดยรอบบึงสีไฟจำนวนหลายล้านลูกบาศก์เมตรนั้นมีการประมูลขายไปได้หมดแล้ว ซึ่งผู้รับเหมาหรือผู้ประมูลซื้อไปจะต้องดำเนินการขนย้ายดินไปให้เสร็จสิ้นไม่เกินเดือน ก.พ. 64 ซึ่งหลังจากนั้นก็จะพัฒนาบึงสีไฟให้มีน้ำ มีบัว มีปลา มีออกซิเจน หรืออากาศบริสุทธิ์ เพื่อให้บึงสีไฟเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเป็นที่กักเก็บน้ำแก้ภัยแล้งช่วยน้ำท่วม

 ในส่วนของบึงสีไฟในอนาคตวางเป้าไว้ว่าจะต้องเก็บน้ำให้ได้ 24 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปีนี้ปริมาณน้ำมีน้อย กรมชลประทานก็เติมน้ำเข้าบึงสีไฟวันละ 2 แสนลูกบาศก์เมตร ได้น้ำอยู่ในบึงสีไฟแล้ว 10 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งถ้าในช่วงนี้กรมชลประทานมีน้ำเพียงพอหรือมีฝนตกอีกช่วงหนึ่งก็จะพยายามผลักดันน้ำเข้าบึงสีไฟเพิ่มเติมขึ้นอีกเพื่อให้เกิดน้ำซึมน้ำซับที่เกษตรกรที่อยู่รอบๆบึงสีไฟจะได้ใช้ประโยชน์ต่อไป 








สิทธิพจน์  พิจิตร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น