วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

รองอธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่สำรวจโครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น อ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดพัทลุง

รองอธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่สำรวจโครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น อ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดพัทลุง

วันนี้ (30 กรกฎาคม 2563) เวลา 09.30 น. นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ และคณะ ลงพื้นที่นำคณะสื่อมวลชนสำรวจโครงการอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดพัทลุง โดยมีนายภูดิศ ชนะวรรณโณ นายอำเภอป่าบอน ให้การต้อนรับ และลงพื้นที่ร่วมกับผู้แทนจากหน่วยงานราชการระดับอำเภอ และระดับตำบล ผู้นำชุมชน ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ ณ โครงการอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดพัทลุง
ในการนี้รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ ได้ลงสำรวจพื้นที่และให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในประเด็น "การพัฒนาแหล่งน้ำและการบริหารของโครงการกับประเด็นการบรรเทาและแก้ไขผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสีย" และสำรวจพื้นที่หัวงานร่วมกับนายอำเภอและผู้นำชุนชนที่เกี่ยวข้อง ก่อนการประชุมปัจฉิมนิเทศในช่วงบ่ายร่วมกับประชาชนในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ”อ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว เป็นโครงการพระราชดำริ ซึ่งในวันนี้เกิดความสำเร็จในการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยประชาชนเสียงส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งนี้กรมชลประทานพร้อมดำเนินการก่อสร้างคาดว่าในปี 64 เป็นต้นไป หากดำเนินการแล้วเสร็จอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่วจะมีความจุประมาณ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถส่งน้ำใช้เพื่อการอุปโภค บริโภค 2,090 ครัวเรือน สามารถนำน้ำไปใช้ในระบบประปาภายในชุมชนได้อย่างทั่วถึง ส่งน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่ชลประทาน 11,600 ไร่ นอกจากนี้จะมีการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำเพื่อให้เกิดการจัดสรรน้ำอย่างเท่าเทียมกันอีกด้วย และขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวป่าบอน และชาวพัทลุงที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาแหล่งน้ำ ซึ่งหากก่อสร้างแล้วเสร็จจะทำให้เกิดความมั่นคงด้านน้ำต่อประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน”
โดยโครงการอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดพัทลุง ตั้งอยู่ บ้านเหมืองตะกั่ว หมู่ที่ 1 ตำบลหนองธง อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง เป็นเขื่อนเก็บกักน้ำชนิดเขื่อนดินถมชนิดแบ่งส่วน จากการศึกษาสภาพภูมิประเทศและจากการตรวจสอบในภาคสนาม พบว่า สภาพภูมิประเทศบริเวณพื้นที่รับประโยชน์มีสภาพเป็นลูกคลื่น สลับลูกเนินสลับที่ราบ ซึ่งเหมาะสมกับระบบส่งน้ําชลประทานชนิดระบบท่อส่งน้ํา โดยแนวท่อส่งน้ำจะพิจารณาวางไปตามแนวถนนเดิม ซึ่งจะทำให้ไม่กระทบกับที่ดินของราษฎร อีกท้ังยังสามารถส่งน้ำในพื้นที่ที่สูงกว่าท่อส่งน้ำได้ เนื่องจากส่งน้ำด้วยระบบแรงดัน จากการวางแนวท่อส่งน้ำทำให้สามารถส่งน้ำครอบคลุมพื้นที่รับประโยชน์ 16,475 ไร่ คลอบคลุม 9 หมู่บ้านในตําบลหนองธง และ 1 หมู่บ้านในตําบลคลองใหญ่ มีความยาวท่อส่งน้ํารวมประมาณ 37.20 กิโลเมตร คิดเป็นพื้นที่ชลประทานฤดูฝน 11,600 ไร่ ฤดูแล้ง 2,600 ไร่ และสามารถส่งน้ําให้ด้านอุปโภค-บริโภค ในตําบลหนองธงและคลองใหญ่ได้ตลอดทั้งปี










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมาคมพิทักษ์แผ่นดินไทย”(ศ.ป.พ.๓) ตำบล แก่งหางแมว อำเภอ แก่งหางแมว จังหวัด จันทบุรี ได้ร่วมจัดชุดยังชีพมอบให้กับครอบครัวผู้มีรายได้น้อย

วันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๗ “สมาคมพิทักษ์แผ่นดินไทย”(ศ.ป.พ.๓) ตำบล แก่งหางแมว อำเภอ แก่งหางแมว จังหวัด จันทบุรี ได้ร่วมจัดชุดยังชีพมอบให้กั...