วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2563

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย ร่วมกับ พ่อเมืองเชียงราย เร่งทุกพื้นที่หาข่าวเพื่อชี้เบาะแสผู้ลักลอบเผาป่า หากพบดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นรุนแรงทันที

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย ร่วมกับ พ่อเมืองเชียงราย เร่งทุกพื้นที่หาข่าวเพื่อชี้เบาะแสผู้ลักลอบเผาป่า หากพบดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นรุนแรงทันที

     เมื่อวันพุธที่ 1 เมษายน 2563 พันเอก พักตร์พงษ์ เงสันเที๊ยะ หัวหน้ากลุ่มงานนโยบายแผนและการข่าวกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย ร่วมกับ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 ลงพื้นที่ตำบลนางแล อำเภอเมืองเชียงราย และตำบลป่าตึง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย หลังพบว่า มีการเกิดไฟป่าลุกลามในหลายพื้นที่ ระหว่างเขตรอยต่อตั้งแต่ตำบลนางแล ตำบลบ้านดู่ ตำบลแม่ยาว ตำบลห้วยชมพู อำเภอเมืองเชียงราย และตำบลป่าตึง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย

     โดยเจ้าหน้าที่ชุดดับไฟป่าในพื้นที่ดังกล่าวได้รายงานว่า พบจุดความร้อนบนภูเขาสูงชันยากต่อการเข้าไปดับไฟ ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากการหาของป่าของพรานป่าที่เป็นคนในพื้นที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มมาตรการเพื่อเดินทางเข้าไปดับไฟป่าให้ทันเหตุการณ์และติดตามผู้ลักลอบกระทำการเผาป่ามาดำเนินคดี

     สำหรับในเขตอำเภอเมืองเชียงราย นายสมกิจ เกศนาคินทร์ นายอำเภอเมืองเชียงราย กล่าวว่า ไฟป่าเกิดขึ้นที่บริเวณพื้นที่ หมู่ที่ 7 บ้านนางแลใน ตำบลนางแล ไฟได้ลุกลามเป็นบริเวณกว้าง จึงได้สั่งการให้ผู้นำหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าของตำบลนางแล รีบเข้าไปทำการดับไฟป่า การเดินทางต้องใช้รถจักรยานยนต์วิบากเพื่อเดิทางเข้าพื้นที่ ซึ่งใช้เวลาไม่มากนัก หากใช้การเดินเท้าต้องใช้นานเวลากว่า 3 ชั่วโมง แต่เจ้าหน้ที่ก็สามารถเข้าทำการดับไฟป่าได้ และทำแนวกันไฟไว้ได้ในเวลาต่อมา

     ในส่วนของอำเภอแม่จัน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากไฟป่าที่ตำบลป่าตึง ได้เกิดไฟป่าลุกลามมายังพื้นที่เดียวกันของตำบลนางแล ที่เป็นเทือกเขาเขตรอยต่อ ซึ่งไฟป่าได้ลุกลามไปยังบนเขาสูงสลับกับมีลมแรงส่งผลให้ไฟป่ามีความรุนแรงลุกโชนเพิ่มขึ้น จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยในชุดปฏิบัติการ เร่งดำเนินการเพื่อป้องกันการลุกลามไปยังพื้นที่อื่นข้างเคียง พร้อมกันนี้ ยังได้เน้นย้ำว่า ให้ทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชน ออกประกาศชี้เบาะแสหาผู้ลักลอบจุดไฟเผาป่าได้ ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วทันที และถ้าหากพบเห็นการเผาป่าสามารถแจ้งเหตุ ได้ที่ 191 โดยทันที


















ภาพข่าวศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่  3
นกพิราบศูนย์ข่าวพิจิตร 0831671688 รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น