วันพุธที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2563

ภัยแล้งจ่อคอหอย! ผู้ว่าฯพิจิตรสั่งเร่งสำรวจช่วยเหลือราษฎรพบ1แห่งต้องแจกน้ำกินน้ำใช้ส่วนใครอยากทำนาปรังต้องพึ่งตนเอง


ภัยแล้งจ่อคอหอย! ผู้ว่าฯพิจิตรสั่งเร่งสำรวจช่วยเหลือราษฎรพบ1แห่งต้องแจกน้ำกินน้ำใช้ส่วนใครอยากทำนาปรังต้องพึ่งตนเอง

เจ้าเมืองชาละวันนั่งไม่ติด ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งดูแหล่งน้ำธรรมชาติ พบเข้าขั้นจุดวิกฤตจ่อคอหอยแล้ว เรียกประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนรับมือ คาด 4-5 เดือน ต้องเจอภัยร้อน-ภัยแล้ง เป็นห่วงชาวนาและสวนไม้ผล เน้นย้ำหากชาวนาอยากทำนาปรังต้องมีน้ำสำรองหรือบ่อน้ำบาดาลเป็นของตนเอง ยืนยันน้ำกินน้ำใช้ไม่ขาดแคลน แต่น้ำเพื่อการเกษตรชลประทานตอบชัดเจนไม่มีสนับสนุน พื้นที่ 12 อำเภอ  พบแล้ว 1 แห่ง คือในเขตตำบลเขาทรายที่ขอรับการช่วยเหลือต้องแจกจ่ายน้ำอุปโภค-บริโภค

วันที่  7  มกราคม 2563  นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการที่ศาลากลางจังหวัดพิจิตร ถึง สถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นในหลายอำเภอของจังหวัดพิจิตร ขณะนี้ที่ส่อเค้าว่าจะรุนแรง หลังจากพบว่าแหล่งน้ำตามธรรมชาติ เช่น   ห้วย   หนอง   คลอง บึง  ในพื้นที่  ที่อยู่ติดกับเทือกเขาเพชรบูรณ์  ซึ่งประกอบไปด้วย   อำเภอสากเหล็ก    วังทรายพูน   ทับคล้อ   และอำเภอดงเจริญ   รวมทั้งพื้นที่ลุ่มแม่น้ำยม 4   อำเภอ   คืออำเภอสามง่าม    โพธิ์ประทับช้าง   บึงนาราง และอำเภอโพทะเล    โดยปริมาณน้ำตามแหล่งน้ำดังกล่าวได้ลดระดับลงจนแห้งขอดลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปลายเดือน พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา

 ซึ่งขณะนี้เริ่มส่งผลกระทบกับประชาชนแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ที่ 10 ตำบลเขาทราย อำเภอทับคล้อ ระบบน้ำประปาไม่เพียงพอต่อการบริโภคและอุปโภค แนวทางแก้ไขเทศบาลตำบลเขาทราย นำรถบรรทุกน้ำไปแจกจ่ายถังกลางหมู่บ้านสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

อีกทั้งพื้นที่ตำบลบ้านนา อำเภอวชิรบารมี พื้นที่ทำนาปรัง 6 หมู่บ้านได้รับผลกระทบจากภัยแล้งแล้วเช่นกัน โดยในวันนี้  นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้เรียกหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประชุมแนวทางการช่วยเหลือ และเฝ้าระวังพื้นที่ ที่คาดว่าจะประสบปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะในเรื่องของน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ได้สั่งกำชับว่าต้องหาทางช่วยราษฎรในทุกๆวิถีทาง ชาวบ้านต้องมีน้ำกิน-น้ำใช้  ส่วนน้ำเพื่อทำการเกษตรนั้น ผู้ว่าฯพิจิตร กล่าวว่า ถ้าหากใครจะทำนาปรังต้องมีบ่อน้ำ มีบ่อน้ำบาดาล อยู่ในไร่นาของตนเอง บอกแบบตรงไปตรงมาว่า ต้องช่วยเหลือตนเอง ทั้งในพื้นที่เขตชลประทานและนอกเขตชลประทานปีนี้ไม่มีน้ำจากเขื่อนส่งมาให้ทำนาปรังอย่างแน่นอน อีกทั้งผู้ที่เคยใช้แพสูบน้ำจากพลังงานไฟฟ้าสูบน้ำจากแม่น้ำน่านไปทำนาปรังปีนี้ก็ต้องขอร้องว่าต้องงดสูบน้ำ ทั้งนี้เพื่อเก็บน้ำในแม่น้ำน่านไว้เพื่อการอุปโภค-บริโภค และรักษาระบบนิเวศ

นอกจากนี้ ผู้ว่าฯพิจิตร ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หากหมู่บ้านใดที่น้ำประปาไม่เพียงพอ ทรางราชการก็ได้เตรียมการทั้งในระดับอำเภอและจังหวัดที่จะต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา ด้วยการสนับสนุนรถแจกจ่ายน้ำ   เจาะบ่อน้ำบาดาลเพิ่ม  

ส่วนการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) จะมีการประชุมติดตามสถานการณ์ของทั้ง 12 อำเภอ เป็นระยะๆ ว่ามีอำเภอใด ตำบลใดบ้างที่มีปัญหาภัยแล้งเข้าหลักเกณฑ์ที่จะประกาศ เป็นเขตพื้นที่ภัยพิบัติภัยแล้ง เพื่อที่จะได้จัดหางลประมาณไปช่วยเหลือได้โดยทันที ในส่วนของเกษตรกรถ้าไม่ได้ทำนาปรังแล้วต้องการทำอาชีพเสริมทั้งการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ ขณะนี้ สนง.เกษตรจังหวัดพิจิตร และ สนง.ปศุสัตว์ ก็ได้มีแผนการช่วยเหลือราษฎรไว้พร้อมแล้วด้วยเช่นกัน







สิทธิพจน์  พิจิตร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น