พระครูสังฆรักษ์กิตติคุณ ขอเชิญพุทธศาสนิกชนกราบไหว้พระบรมสารีริกธาตุ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๒ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระวโรกาสให้ พระครูสังฆรักษ์กิตติคุณ วรธมฺโม เจ้าอาวาส วัดถ้ำชาละวัน และพุทธศาสนิกชน เฝ้าถวายสักการะ เนื่องในวาระคล้าย วันประสูติ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๒ ในการนี้ พระครูสังฆรักษ์กิตติคุณ ได้ถวายพระพิจิตรพุทธมงคลวิโรจนวรธัมโมภาส (พระประธานประจำอุโบสถ)ซึ่ง เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระองค์ ทรงพระกรุณาประทาน พระบรมสารีริกธาตุ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่ออัญเชิญมาประดิษฐาน ณ อุโบสถวัดถ้ำชาละวัน ให้เป็นที่สักการะบูชา แห่งพุทธบริษัท ทั้งไกลและใกล้ สืบไป วัดถ้ำชาละวันเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งในจังหวัดพิจิตร ตั้งวัดเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๗ ตามเอกสารที่สำนักงานพระพุทธศาสนาออกหนังสือรับรองสภาพวัดให้ แต่เป็นวัดร้างไม่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ในปี พ.ศ. ๒๕๑๗ พระครูวิจิตรคุณาทร (ทวี ติสฺสวํโส) เจ้าคณะตำบลโรงช้าง-คลองคะเชนทร์ เจ้าอาวาสวัดคลองคะเชนทร์ ในยุคนั้นเห็นว่าสถานที่วัดร้างแห่งนี้ มีความเงียบสงบเหมาะแก่การบำเพ็ญสมณธรรม จึงได้เป็นผู้นำคณะศรัทธาพระภิกษุสามเณร ตลอดจนชาวบ้านมาช่วยกันถากถางบูรณะ วัดถ้ำชาละวันให้เจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง พระภิกษุสามเณร สมัยนั้นมี สามเณรวิรัติ วะสะศิริ ได้ร่วมอยู่ในคณะผู้ที่มาบุกเบิกถากถางในครั้งนั้น ปัจจุบันได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชสิทธิเวที,ดร.เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร หลังจากได้ลงหลักปักฐาน ถากถางวัดร้างนั้น พระครูทวี ได้มอบหมายให้พระอาจารย์เพ็ญ เป็นผู้ดูแลสำนักสงฆ์วัดถ้ำชาละวัน จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๓๔ หลวงพ่อวิโรจน์ ได้เดินธุดงค์ มาถึงสถานที่แห่งนี้ เห็นถึงความสงบร่มเย็น จึงได้เข้าพักปักกลด ญาติโยมจึงได้นิมนต์ให้ท่านอยู่จำพรรษาดูแลสำนักสงฆ์วัดถ้ำชาละวันต่อไป ในขณะที่หลวงพ่ออยู่จำพรรษานั้น ได้สร้างเสนาสนะไว้เป็นอนุสรณ์ เช่น กุฏิ ศาลา เป็นต้น จนพ.ศ. ๒๕๓๙ หลวงพ่อวิโรจน์ ได้มรณภาพ จึงได้นิมนต์ หลวงตาเงิน ดูแลสืบต่อมา หลวงตาเงินอยู่ดูแลได้ระยะหนึ่ง ก็ย้ายกลับไปจำพรรษาอยู่ที่วัดใกล้บ้านเนื่องด้วยสุขภาพ ชาวบ้านจึงไปนิมนต์พระสงฆ์ วัดดงชะพลู มาจำพรรษา พระครูวิภัชธรรมโสภิต จึงได้ส่งพระอาจารย์สมมาต อานนฺโท มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส และเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๖ พระราชสิทธิเวที, ดร.เจ้าคณะจังหวัดพิจิตรได้สำนึกกตัญญูต่อสถานที่ที่เลี้ยงดูท่านมาจนเติบโตได้เป็นถึงพระราชาคณะ มีตำแหน่งปกครองถึงเจ้าคณะจังหวัด จึงได้ดำริที่จะสร้างอุโบสถเพื่อทดแทนคุณ จึงได้ทำการวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างอุโบสถ และในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ พระเดชพระคุณท่าน ได้มารับตำแหน่งรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดถ้ำชาละวัน จนวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ศรัทธาญาติโยม จึงได้ไปนิมนต์พระอาจารย์ กิตติคุณ วรธมฺโม พระลูกวัด วัดคลองคะเชนทร์ มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส สานงานก่อสร้างอุโบสถ และพัฒนาวัดถ้ำชาละวัน ต่อจากพระเดชพระคุณพระราชสิทธิเวที, ดร. เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ภายใน วัดถ้ำชาลวันนั้น มีหลวงพ่อพระพิจิตรพุทธมงคลวิโรจนวรธัมโมภาส ปฐมองค์พระพิจิตร แห่งวัดถ้ำชาละวัน ถ้าพูดถึง จังหวัดพิจิตร สาธุชนคนทั่วไปจะนึกถึง พระคู่บ้าน คู่เมือง ของจังหวัดพิจิตร คือ หลวงพ่อเพชร ที่ทุกคนในประเทศจะรู้จักกัน แต่ถ้าพูดถึงหลวงพ่อพระพิจิตรพุทธมงคลวิโรจนวรธัมโมภาส ทุกคนจะไม่ค่อยได้ยินชื่อของท่านมากนัก เพราะเป็นพระพุทธรูปหล่อขึ้นใหม่ โดยการดำริของพระทีฆทัสสีมุนีวงศ์ เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร (ปัจจุบันคือ พระราชสิทธิเวที) ที่อยากจะมีพระพุทธรูปศิลปะพิจิตรสักองค์หนึ่ง เพื่อประดิษฐานเป็นพระประธานประจำอุโบสถ วัดถ้ำชาละวัน ให้เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองอีกสักองค์ จึงได้นำพระกรุโบราณชิ้นสำคัญของจังหวัดพิจิตร คือพระพิจิตรกลีบบัว โดยได้นำพระกรุชิ้นนี้ ให้ช่างถอดแบบวาดภาพพุทธลักษณะออกมา ก่อนที่จะได้ให้ช่างขึ้นหุ่น และเททองหล่อเมื่อปี ๒๕๕๖ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ในหลวง รัชกาลที่ 9 เจริญพระชนพรรษา ๘๕ พรรษา ขึ้นเป็นปฐมองค์พระพิจิตร พระพุทธรูปสำคัญที่จะต้องจารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ของเมืองพิจิตร เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระพุทธรูปองค์ปฐมแห่งพุทธศิลป์พิจิตร ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ภายในอุโบสถหลังใหม่ ของวัดถ้ำชาละวัน ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมือง จ.พิจิตร เป็นพระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธ์มาก หลวงพ่อพระพิจิตรพุทธมงคลเป็นพระพุทธปฏิมากรที่หล่อด้วยโลหะทองเหลือง สร้างขึ้นตามศิลปะสมัยกรุงสุโขทัย กับศิลปะสมัยเชียงแสน พระพุทธลักษณะปางขัดสมาธิ หน้าตักกว้าง ๕๔ นิ้ว ที่พระเกศเปลวเพลิงคต มีพระพิจิตรเกศคต ๒ องค์ (หน้า-หลัง) โครงสร้างพุทธสรีระ อย่างศิลปะเชียงแสน พระพักต์ พระหัตถ์ พระโอษฐ์ พระเนตร พระกรรณ อย่างศิลปะสุโขทัย ฐานกลีบบัวคว่ำ-บัวหงาย มีพระพิจิตรเกศคตองค์เล็กๆอีก ๓๘ องค์ หมายถึงมงคล ๓๘ ประการเป็นพระพุทธรูปประจำวัดถ้ำชาละวัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น