พลโท ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 3 เดินทางตรวจเยี่ยมผู้ประสบวาตภัยและมอบถุงยังชีพ เครื่องอุปโภค - บริโภค น้ำดื่ม ให้แก่ผู้ประสบภัย ในพื้นที่อำเภอบางระกำ และอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พร้อมติดตามการดำเนินการซ่อมแซมปรับปรุงบ้านเรือนผู้ประสบวาตภัย พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจด้วยความห่วงใยประชาชนด้วย เมื่อวันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2562
เนื่องด้วย ในห้วงที่ผ่านมา ประเทศไทยตอนบนได้เกิดพายุ ฤดูร้อน โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ประกอบกับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชนเป็นจำนวนมาก ในพื้นที่ภาคเหนือ
กองทัพภาคที่ 3 โดย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 ได้จัดกำลังพล และ ยุทโธปกรณ์เข้าช่วยเหลือ ผู้ประสบภัย ใน 17 จังหวัดภาคเหนือ ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุวาตภัยตั้งแต่วันที่ 15 - 25 เมษายน 2562 พบบ้านเรือนผู้ประสบภัยได้รับความเสียหาย ในพื้นที่ 14 จังหวัด 62 อำเภอ จำนวน 19,312 หลัง ดำเนินการซ่อมแซมแล้ว จำนวน 17,643 หลัง อยู่ระหว่างการดำเนินการ 1,687 หลัง
จากกรณีเมื่อวันที่ 22 เมษายน ๒๕๖๒ ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่ม ลมกระโชกแรงในหลายพื้นที่ของจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งพบว่ามีบ้านพักของทหารกองประจำการ คือ พลทหาร ศราวุธ ภัทดียุทธ สังกัด กองบังคับการมณฑลทหารบกที่ 39 ผลัดที่ 2/62 อยู่บ้านเลขที่ 21/3 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ได้รับความเสียหาย ซึ่งมีผู้พักอาศัย รวมกัน 6 คน (แม่ภรรยา, ภรรยา, พี่สาวภรรยา, น้องสาว, บุตร) ทั้งนี้ สภาพบ้านพักหลังดังกล่าว เป็นบ้านไม้เก่าแบบสองชั้น โดยในค่ำคืนดังกล่าว ได้ประสบวาตภัย พายุฤดูร้อนลมกระโชกแรงพัดถล่มพังเสียหาย และได้ทำการปรับปรุงซ่อมแซมใหม่ เนื่องจากขาดแคลนเงินเป็นทุนทรัพย์ ปัจจุบันเจ้าหน้าที่เทศบาลนครพิษณุโลก ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการสำรวจเพื่อเตรียมการช่วยเหลือ
สำหรับเหตุวาตภัย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสารภัยอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก รายงานว่าเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2562 เวลา 19.30 น. วาตภัยพายุฤดูร้อนลมกรรโชกแรงพัดถล่มพังจนบ้านเรือนได้รับความเสียหาย จำนวน 10 หลังคาเรือน ได้แก่ 1.บ้านของนายเกตุ ราชขวัญ บ้านเลขที่ 206 หมู่ที่ 1 ตำบลปลักแรด อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก,
2.นายชลอม แก้วศรีทัศน์ บ้านเลขที่ 80 หมู่ที่ 1 ตำบลปลักแรด อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก, 3.นางนวพร รัตนมาตร บ้านเลขที่ 191 หมู่ที่ 1 ตำบลปลักแรด อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก, 4.นางสาวเทียม คล้ายทอง บ้านเลขที่ 58 หมู่ที่ 1 ตำบลปลักแรด อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก, 5.นางชูชีพ ขุนงามขำ บ้านเลขที่ 70 หมู่ที่ 1 ตำบลปลักแรด อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก, 6.นางสาวอารี กันภัย บ้านเลขที่ 199 หมู่ที่ 1 ตำบลปลักแรด อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก, 7.นายละออง บุญใหญ่ บ้านเลขที่ 108/2 หมู่ที่ 1 ตำบลปลักแรด อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก, 8.นางกาญจนา ธนะวิทย์ บ้านเลขที่ 123 หมู่ที่ 1 ตำบลปลักแรด อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก, 9.นางบัวลอย แก่นจรรยา บ้านเลขที่ 71/1 หมู่ ที่ 1 ตำบลปลักแรด อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก และ 10.นางราเซีย อินหาดกรวด บ้านเลขที่ 169/2 หมู่ที่ 1 ตำบลปลักแรด อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่ง กองทัพภาคที่ 3 , มณฑลทหารบกที่ 39, เหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลก, อำเภอเมืองพิษณุโลก, เทศบาลนครพิษณุโลก, สำนักงานป้องกันและบรรเทาสารภัยจังหวัดพิษณุโลก, อำเภอบางระกำ, สำนักงานป้องกันและบรรเทาสารภัยอำเภอบางระกำ, ฝ่ายปกครอง จิตอาสา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการเร่งเข้าให้การช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัยจากเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่ม เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2562 และเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา ได้รับความเดือดร้อนจาดพายุฝนและลมแรงในห้วงวันเวลาที่ผ่านมา ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัยเป็นการเบื้องต้นแล้ว
สำหรับภาพรวมความเสียหายจากเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มจนเกิดวาตภัย ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ห้วงตั้งแต่วันที่ 15 - 25 เมษายน 2562 ( ข้อมูล ณ เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2562 เวลา 12.00 น. ) มี จำนวน 16 ตำบล 47 หมู่ บ้าน 308 หลังคาเรือน บ้านเรือนได้รับความเสียหายบางส่วน จำนวน 301 หลังคาเรือน ภายหลังเกิดพายุฤดูร้อนทำให้บ้านเรือนราษฎรในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง เบื้องต้น กองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับ จังหวัดพิษณุโลก ฝ่ายปกครอง, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งดำเนินการซ่อมแซมบ้านเรือนราษฎรที่ได้รับความเสียหายแล้ว
แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยว่า จากเดิมที่ประชาชนอาจจะพบเห็นหน่วยทหารได้ออกมามอบสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ นั้น ในปัจจุบันนี้ยังมีหน่วยงาน มูลนิธิ องค์กร ทั้งภาคเอกชน และภาคประชาสังคม รวมเป็นพหุภาคีที่จะเข้ามาให้ความช่วยเหลือมากขึ้น ยิ่งสำคัญไปกว่านั้น จิตอาสาประชาชนที่เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาไฟป่าและหมอกควันทางภาคเหนือตอนบน วาตภัย และสนับสนุนกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อส่วนรวม และจากกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาร์เคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้บริเวณภาคเหนือเกิพายุฤดูร้อนขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองลมกรรโชกแรง ทำให้ในบางพื้นที่ของจังหวัดพิษณุโลกและพื้นที่ภาคเหนือ เกิดพายุ พัดถล่มทำให้บ้านเรือนเกิดความเสียหาย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 3 ได้เตรียมความพร้อมทางด้านกำลังพล ยุทโธปกรณ์ เพื่อให้ประชาชนและผู้ประสบภัยพิบัติ ได้เกิดความมั่นใจว่า กองทัพภาคที่ 3 หน่วยทหารในพื้นที่ พร้อมที่จะนำยุทโธปกรณ์และกำลังพลเข้าให้การช่วยเหลือในทันทีเมื่อเกิดภัยพิบัติ วาตภัย อุทกภัย และภัยแล้ง พร้อมทั้งมีการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยทหาร ส่วนราชการ และภาคเอกชนในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการช่วยเหลือประชาชนและที่สำคัญยิ่งกว่าคือ การแจ้งเตือนภัย และติดตามอาการเพื่อให้เกิดความรวดเร็วและทันเวลา
ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 3 โดย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 ได้เล็งเห็นความเดือดร้อนของประชาชนผู้ประสบภัย แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 3 จึงได้เดินทางตรวจเยี่ยมและมอบถุงยังชีพ จำนวน 40 ชุด ให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ตำบลปลักแรด, ตำบลพันเสา อำเภอบางระกำ และจำนวน 10 ชุด ให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่อำเภอเมือง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจให้กับประชาชน
นกพิราบศูนย์ข่าวพิจิตร
ภาพข่าวศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 3
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น