วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2561

ปราจีนบุรี สุราเป็นเหตุคนงานก่อสร้างกินเหล้าเมาลงเล่นน้ำในแม่น้ำเป็นตะคริว กลายเป็นศพ!

ปราจีนบุรี สุราเป็นเหตุคนงานก่อสร้างกินเหล้าเมาลงเล่นน้ำในแม่น้ำเป็นตะคริว กลายเป็นศพ!
เมื่อเวลา 22.30 น. ของวันที่ 10 เม.ย.2561 ร.ต.อ. ปัณณวิชญ์ บัวชุม ร้อยเวรสอบสวนสภ.บ้านสร้าง
ต.บ้านสร้าง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้ง มีผู้จมน้ำเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณแคมป์คนงานก่อสร้างสระพานข้ามแม่น้ำติดกับแม่น้ำ ม.3 ต.บางพลวง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี จึงรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบำเพ็ญธรรมสถานจังหวัดปราจีนบุรีและชุดประดาน้ำก่อนที่จะให้ชุดประดาน้ำได้ออกค้นหาผู้สูญหายใต้น้ำ ใช้เวลาค้นหาประมาณ 30 นาที ห่างจากโป๊ประมาณ2ม. พบผู้เสียชีวิตติดอยู่กับผักตบชวาชุดประดาน้ำได้นำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาที่โป๊ รอแพทย์มาชันสูตร
ต่อมานาย แดง มีสูข พ่อผู้เสียชีวิตได้กล่าวผู้ตาย มีอาชีพเป็นคนงานก่อสร้าง ชอบดื่มสุราเป็นประจำ ซึ่งก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ข้ามไปอีกฝั่งซึ่งเป็นแคมป์คนงาน ได้อาศัยโป๊ดึงข้ามฝั่งไปกินเหล้ากับเพื่อนคนงานด้วยกัน พอกินเหล้าเสร็จ ก็ข้ามมาอีกฝั่งโดยใช้โป๊สำหรับที่ใช้งานดึงข้ามมาเพื่อที่จะมาที่พักแคมป์คนงานซึ่งพักอยู่คนละฝั่งกัน พอกลับมาถึง ก็ลงจะไปอาบน้ำที่แม่น้ำข้างแคมป์คนงาน แล้วผู้เสียชีวิตได้ลงไปเล่นน้ำผู้เป็นพ่อก็ห้ามแล้ว ผู้เสียชีวิตก็ว่ายออกจากฝั่งไปเลื่อยๆ น้ำในแม่น้ำอากาศเย็นบวกกับกินเหล้ามาด้วยทำให้เกิดเป็นตะคริวพ่อก็ช่วยไม่ทันพ่อก็ว่ายน้ำไม่เป็น จนผู้เสียชีวิตได้จมหายไป ในกอผักตบชวา แล้ววิ่งมาบอกหัวหน้าว่าลูกจมน้ำหัวหน้าได้โทรแจ้งไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานกู้ภัยให้มาช่วยเหลือทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมา นายขุนทอง มีสุขอายุ25ปีพักอยู่บ้านเลขที่ 163 ม.6 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี จากการสอบถาม นายวิรันน์ ทองลักษ์ หัวหน้าคนงาน ว่านายขุนทอง มีสุข เพิ่งมาทำงานได้เพิ่ง1เดือนมาอยู่กับพ่อ ผู้เสียชีวิตก็ชอบกินเหล้าตามปกติเหมือนเช่นทุกวัน ไม่เคยมีเรื่องหรือปัญหาอะไรเลยเป็นคนนิสัยดี จากการชันสูตรจากแพทย์ว่าผู้เสียชีวิตน่าจะเป็นตะคริวทำให้เกิดจมน้ำเสียชีวิตและไม่พบบาดแผลและการต่อสู้แต่อย่างใดทางญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิตทางแพทย์ทางร้อยเวร จึงมอบร่างผู้เสียชีวิตให้ญาติรับดำเนินการตามประเพณีต่อไป..

ข่าวทั่วไทย
ภาพ/ข่าว:ทองสุข
สิงห์พิมพ์ ผู้สื่อข่าวป่ะจำจังหวัดปราจีนบุรี/รายงาน...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น