" ด้วยพระเจ้าหงสาวดี
มิได้อยู่ในครองสุจริตมิตรภาพขัตติยราชประเพณี
เสียสามัคคีรสธรรม ประพฤติพาลทุจริต คิดจะทำภยันตรายแก่เรา
สืบแต่นี้ไปเป็นเดิมหน้า ศรีอยุธยา กับหงสาวดี ขาดไมตรีกัน มิได้เป็นสุวรรณปฐพีเดียวกันดุจกาลก่อน ขาดกันแต่วันนี้จนชั่วกาลปวาสน "
พระปฐมบรมสัจจวาจา ที่ สมเด็จพระนเรศวร
เจ้าฟ้าสองแคว ทรงประกาศแก่เทพยดา ในที่ประชุมทัพไทย ทรงหลั่งทักษิโณทกจากสุวรรณภิงคาร ประกาศอิสรภาพ ณ เมืองแครง พุทธศักราช 2127
พลโท วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานในพิธีบวงสรวงพระบรมราชา - นุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช , สมเด็จพระเอกาทศรถ และพระรูปพระสุพรรณกัลยา เนื่องในวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช , สมเด็จพระเอกาทศรถ และพระรูปพระสุพรรณกัลยา ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันพุธที่ 25 เมษายน 2561 เวลา 08.09 น.
เนื่องด้วยในวันที่ 25 เมษายน ของทุกปีเป็นวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2548 กำหนดให้วันที่ 25 เมษายน ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคต สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยให้มีการวางพวงมาลา บวงสรวงถวายราชสักการะ เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กองทัพภาคที่ 3 กระทำพิธีบวรสรวงถวายแด่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ผู้ทรงกอบกู้อิสรภาพของไทย และเป็นการเผยแพร่พระเกียรติคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผู้เป็นพระมหากษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่และกล้าหาญ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจ ทำนุบำรุงบ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนปกปักรักษาเอกราชของชาติ และเพื่อเป็นการถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 2 มีพระนามเดิมว่า พระองค์ดำ เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชา และพระวิสุทธิกษัตริย์ เสด็จพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ. 2098 ที่พระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลก มีพระเชษฐภคินีคือ พระสุพรรณกัลยา มีพระอนุชาคือ สมเด็จพระเอกาทศรถ (พระองค์ขาว) และเป็นพระราชนัดดาของสมเด็จพระศรีสุริโยทัย พระนามของพระองค์ปรากฏในลายลักษณ์อักษรหลายฉบับ เช่น พระนเรศ วรราชาธิราช, พระนเรสส, องค์ดำ จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าพระนาม นเรศวรได้มาจากที่ใด สันนิษฐานเบื้องต้นว่า เพี้ยนมาจาก สมเด็จพระนเรศวรราชาธิราช มาเป็น สมเด็จพระนเรศวรราชาธิราช เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2133 สิริรวมการครองราชย์สมบัติ 15 ปี
เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครบ ๔๑๓ ปี แห่งวันสวรรคต องค์มหาราชดำ ในวันพุธที่ 25 เมษายน พุทธศักดิ์ราช 2561 เป็น วันรัฐพิธี วันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จันทรคติ ตรงกับ วันจันทร์ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเส็ง จุลศักราช 967 ตรงกับสุริยคติ วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พุทธศักราช 2148 พระชนมายุได้ 50 พรรษา สิริราชสมบัติ 15 ปี ทรงประกอบพระราชกรณียกิจ ทำนุบำรุงบ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนปกปักรักษาเอกราชของชาติ ซึ่งใต้ผืนดินไทยทุกตารางนิ้ว ที่ชาวไทยได้อยู่อาศัยมาจนถึงทุกวันนี้ ล้วนทาทาบด้วยเลือดของบรรพบุรุษไทย ที่ต่อสู้กับศัตรู
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงพระประชวรหนัก ณ พลับพลาค่ายหลวง ทุ่งแก้ว เมืองหาง ห่างจากเป้าหมายการศึก กรุงอังวะ ทรงรับสั่งแก่ สมเด็จพระเอกาทศรถ พระอนุชาธิราช ที่มาเข้าเฝ้าพระเชษฐา เป็นครั้งสุดท้าย ว่า
.".. มิให้เลิกทัพกลับอยุธยา แต่จงไปตีเอาอังวะให้จงได้...." ก่อนเสด็จสรรคต
บ่งบอกถึงน้ำพระราชหฤทัยอันหาญกล้า ห่วงใยบ้านเมืองงยิ่งชีพ แม้ในห้วงวินาทีสุดท้ายของพระชนม์ชีพแห่งพระองค์ ก็ตามที
เพื่อรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของ มหากษัตริย์ไทย กษัตริย์นักรบไทย และกษัตริย์ทุกพระองค์ รวมถึงเหล่าบรรพชนของไทย และทหารกล้าที่ได้สร้างวีรกรรมอันกล้าหาญ ยอมเสียสละเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อปกป้องรักษาแผ่นดินไว้เป็นมรดกจนถึงวันนี้ ซึ่งทางกองทัพไทย มีการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่สูงสุด เป็นสถาบันที่สำคัญยิ่งแก่เหล่าทหาร กองทัพไทยจึงมีส่วนสำคัญในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
ข่าวทั่วไทย พิจิตร ภาพข่าว Nong' EDDY lsara
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น