วันเสาร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2561

"รองแม่ทัพภาค 3" ลงพื้นที่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และตรวจเยี่ยมจุดบริการประชาชนเทศกาลสงกรานต์ ปี 2561 กำชับ!!!! ดูแลนักท่องเที่ยว - ประชาชน

"รองแม่ทัพภาค 3" ลงพื้นที่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และตรวจเยี่ยมจุดบริการประชาชนเทศกาลสงกรานต์ ปี 2561  กำชับ!!!! ดูแลนักท่องเที่ยว - ประชาชน
รองแม่ทัพภาคที่ 3 ตรวจเยี่ยมจุดบริการประชาชนห้วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2561
พลตรี รเณศ อินทร์ยิ้ม รองแม่ทัพภาคที่ 3/รองผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3/รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 3 พร้อมคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จุดบริการประชาชน ในห้วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 พร้อมให้แนวทางในการปฏิบัติงาน และมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค ให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ และพบปะกำลังพลจาก  กองพันทหารม้าที่ 9 กองพลทหารราบที่ 4 ,เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ -  กู้ภัย , สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก , จิตอาสาภาคเอกชน แลเยี่ยมชมการปฏิบัติงานของนักศึกษา จากวิทยาลัยเทคนิคสองแควพิษณุโลก, วิทยาลัยสารพัดช่างพิษณุโลก ในการซ่อมแซมยานพาหนะ, เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและเปลี่ยนอะไหล่ ตามโครงการอาชีวะอาสา โดยมี พลตรีจาตุรงค์ เชื้อคำฟู ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 39, นายพิทยา กุดหอม ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 9 พิษณุโลก , พันโท ประวิทย์ ธรรมชาติ ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 9 ร่วมให้การต้อนรับ ณ จุดบริการประชาชนปั๊มน้ำมันปตท.ศรีสุธาออยล์ บ้านวังส้มซ่า หมู่ 2 ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก   
     ตามที่รัฐบาล ได้มีนโยบายแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2561 เพื่อให้การดำเนินงานในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ภายใต้แนวคิด "ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร" โดยแบ่งการดำเนินการเป็น ๒ ช่วงดังนี้ ช่วงเตรียมความพร้อม การรณรงค์ และเสริมสร้างวินัย เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมถึง 10 เมษายน 2561 และจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 31 ธันวาคม 2561 และช่วงควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2561 เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้เดินทางอย่างปลอดภัย และลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้เหลือน้อยที่สุด รวมทั้งมุ่งเน้นการเฝ้าระวัง 109 อำเภอใน 52 จังหวัด ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง โดยจะดำเนินการภายใต้ 6 มาตรการสำคัญ ได้แก่ มาตรการลดปัจจัยเสี่ยงด้านคน มาตรการลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสิ่งแวดล้อม มาตรการลดปัจจัยเสี่ยงด้านยานพาหนะ มาตรการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว มาตรการความปลอดภัยทางน้ำ และมาตรการด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ เพื่อให้การดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนมีประสิทธิภาพสูงสุด

ในส่วนของกองทัพบก ผู้บัญชาการทหารบก ได้มอบหมายให้หน่วยทหารของกองทัพบก ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ จัดตั้งจุดบริการประชาชน 553 จุด ในพื้นที่สำคัญของแต่ละจังหวัด ได้แก่ บริเวณเส้นทางคมนาคมสายหลัก พื้นที่หน้าค่ายทหาร พื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ สถานที่ท่องเที่ยว เส้นทางก่อนถึงด่านชายแดน เป็นต้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และการสกัดกั้นการทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะยาเสพติด อีกทั้งให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วมกับตำรวจ จังหวัด เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรคับคั่ง พร้อมให้ข้อมูลเส้นทาง โดยต้องมีการประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชน ได้รับทราบถึงจุดเสี่ยง และจุดวิกฤต ในการเดินทางทั้งขาไปและกลับ นอกจากนี้ให้ผู้บังคับบัญชาลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดบริการในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และเน้นย้ำให้เตรียมพร้อมกำลังพล เพื่อรองรับสถานการณ์ต่างๆที่อาจเกิดขึ้น
กองทัพภาคที่ 3 จึงร่วมกับส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการจัดตั้งจุดบริการประชาชน และอำนวยความสะดวก ในห้วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2561 ถึง 17 เมษายน 2561 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ตามนโยบายของรัฐบาลและกองทัพบก โดยได้กำหนดจุดบริการไว้ที่ถนนสายหลัก, ถนนสายรอง และในบริเวณถนนชุมชน จำนวนทั้งสิ้น 144 จุด เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชนได้มีความปลอดภัย และช่วยลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ลดจำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บให้เหลือน้อยที่สุด อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบกระทำความผิดกฎหมายอีกด้วย

ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 3 มีความห่วงใยในเรื่องของการขับขี่ยานพาหนะ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวสัญจรในปริมาณมาก ประกอบกับเส้นทางในบางพื้นที่ของภาคเหนือมีความสูงชัน เพราะฉะนั้นผู้ขับขี่จึงต้องมีความระมัดระวัง ควรศึกษาเส้นทาง และตรวจสภาพความพร้อมของยานพาหนะ ก่อนการเดินทางไปตามสถานที่และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ อีกทั้ง ให้หน่วยขึ้นตรงของกองทัพภาคที่ 3 ได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ อาทิ การร่วมบูรณาการกับกรมการขนส่งทางบก ที่ได้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะ รถยนต์ส่วนบุคคล รถจักรยานยนต์ และจัดหน่วยเคลื่อนที่ออกตรวจจับความเร็วรถด้วยกล้องเลเซอร์ เป็นต้น

 นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 3 ยังเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงาน ดูแลอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ในหลายด้านอาทิ เป็นพื้นที่พักรถ-พักคน สอบถามเส้นทาง การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ตรวจเช็คสภาพรถ บริการน้ำดื่ม-กาแฟ รวมถึงเป็นจุดรับแจ้งเหตุด่วน และที่สำคัญอยากให้ประชาชนร่วมกันตระหนัก ตลอดจนให้ความสำคัญในการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน รวมถึงให้ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อลดปัญหาการสูญเสีย ทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และเพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนในสังคมไทยให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน


















ข่าวทั่วไทย พิจิตร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น