น ส พ ข้าแผ่นดินสยาม ศูนย์ข่าวมุกดาหาร สวท.มุกดาหาร ทำบุญครบรอบ 39 ปี เพื่อความเป็นสิริมงคลและถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา ฯให้ทรงหายจากพระอาการประชวร
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2565 ที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดมุกดาหารสวท.มุกดาหาร ได้จัดงานทำบุญเนื่องในโอกาสคล้ายวันก่อตั้งหน่วยงาน ครบรอบ 39 ปี โดยมีพระมหายุทธวัฒน์ รองเจ้าคณะอำเภอเมืองมุกดาหาร เป็นประธานสงฆ์ นางทัศนีย์ ผลชานิโก รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ นายดุสิต สิงห์คีรี ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 พร้อมด้วยผู้บริหารในสังกัดสำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 ส่วนราชการและเครือข่ายประชาสัมพันธ์ ร่วมทำบุญถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์ จำนวน 9 รูปและเจริญจิตภาวนาบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดาให้หายจากพระอาการประชวรในเร็ววัน
การจัดงานทำบุญ ครบรอบ 39 ปี สวท.มุกดาหาร ได้รับเกียรติจาก นาย วรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร นายวลัยพรรณ น้อยสันเทียะ และนายบุญเรือง เมฆฉิม รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ในจังหวัดมุกดาหาร ร่วมเป็นเกียรติในการทำบุญและแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันก่อตั้งครบรอบ 39 ปี ในครั้งนี้ด้วย
ด้านว่าที่ร.ต.กิติวรรณ มณีล้ำ ผอ.สวท.มุกดาหาร กล่าวว่า สวท.มุกดาหาร จัดตั้งขึ้นเพื่อรับการตั้งจังหวัดมุกดาหาร ปี 2525 โดยทำการก่อสร้างสถานีวิทยุกระจายเสียงระบบ เอ.เอ็ม. ความถี่ 549 กิโลเฮิร์ซ เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2526 และต่อมาได้ก่อสร้างระบบ เอฟ.เอ็ม. ความถี่ 99.25 MHz เริ่มส่งกระจายเสียง วันที่ 29 กันยายน 2535 เป็นต้นมา โดยได้กำหนดให้วันที่ 29 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันก่อตั้งสวท.มุกดาหาร และในปีนี้จึงได้จัดทำบุญเลี้ยงพระเพื่อความเป็นสิริมงคลและประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์องค์กร ซึ่ง สวท.มุกดาหาร เป็นองค์กรหลักด้านดำเนินการการกระจายเสียงในพื้นที่ในการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารนโยบายของรัฐ ด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว รวมทั้งให้ความบันเทิงและสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างภาครัฐและประชาชนในพื้นที่ สามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร 39ปี สวท.มุกดาหาร
29 12 65 ภาพ ข่าวโดย วันวิภา แพงแก้ว อนุภาพ อาจหาญ สุวิทย ์โพธิรัชต์ ขุนศึกพระองค์ดำ รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น