วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2565

มทร.สุวรรณภูมิ ปรับทิศทางการพัฒนาจาก 5 ด้าน เพิ่มอีก 7 ด้าน ก้าวสู่มืออาชีพทุกด้าน


นายธีรพล ขุนเมืองอดีตอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ(มทรส.)ในฐานะประธานคณะกรรมการการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ มทรส.เปิดเผยว่าสภามหาวิทยาลัยฯมีมติเห็นชอบในคราวประชุมประจำเดือนมิถุนายน 2565 ให้วางนโยบายและปรับเพิ่มทิศทางการพัฒนามหาวิทยาลัยให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้เป็นมหาวิทยาลัยของชุมชน ก้าวสู่มืออาชีพในทุกด้าน โดยจากเดิมได้วางนโยบายหลักไว้ 5 ด้าน ประกอบด้วย 1)การจัดการศึกษาการส่งเสริมวิชาการและวิชาชีพชั้นสูงที่เน้นการปฏิบัติตลอดจนการผลิตครูวิชาชีพ 2)ด้านการวิจัยและพัฒนา 3)ด้านการให้บริการทางวิชาการในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแก่สังคม 4)ด้านการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม 5)ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยมีการปรับเพิ่มนโยบายอีก 7 ด้านได้แก่ 1)ด้านการปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตามกฎหมาย จริยธรรม ธรรมาภิบาล และกรอบเวลา 2)ด้านการตรวจสอบการเงิน การบัญชีการจัดซื้อจัดจ้าง การปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบและข้อบังคับและมุ่งผลสัมฤทธิ์ 3)ด้านการบริหารทรัพย์สินและรายได้ 4)ด้านการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมมาใช้ในการบริหารมหาวิทยาลัย 5)ด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย 6)ด้านการพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ความมั่นคงสวัสดิการที่ดีมีขวัญกำลังใจ และมีคุณธรรมและ7)ด้านกายภาพและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้เพื่อให้สถาบันอุดมศึกษามีบทบาทสำคัญและเป็นแบบอย่างแก่สังคมโดยรวม ในการเสริมสร้างพื้นฐานของการพัฒนากำลังคนของประเทศและการขับเคลื่อนประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าตามนโยบายของรัฐ โดยเน้นเชิงปริมาณและคุณภาพควบคู่กันไปในการผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติมืออาชีพ เพื่อก้าวสู่การทำงานอย่างมั่นคง เป็นทั้งคนดี คนเก่ง และมีคุณธรรม

นายธีรพล กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนามหาวิทยาลัย มทรส.พิจารณายกร่างนโยบายข้างต้นเพื่อถือเป็นแนวปฏิบัติให้แก่บุคลากร ของ มทรส.ทั้งนี้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดการอุดมศึกษาที่กำหนดให้มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันศึกษาด้านวิชาชีพและเทคโนโลยีส่งเสริมวิชาการและวิชาชีพชั้นสูงที่เน้นการปฏิบัติ ซึ่งจากการประเมินคุณภาพประจำปี 2563 ถึง 2565 มทรส.อยู่ในระดับการประเมิน"ระดับดี"มาโดยตลอด และในปี 2566 สภามหาวิทยาลัยฯเห็นชอบให้ตั้งเป้าปี 66 ให้เพิ่มมากขึ้นใน ระดับสูงสุดคือ"ดีมาก"โดยเฉพาะด้านการผลิตบัณฑิต ซึ่งมั่นใจว่านักศึกษาทุกคนที่เรียนจะเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศต่อไป.







ต้อม (สิงห์1)/ข่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น