หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 สนับสนุนกำลังพล ส่งรถดับเพลิงระงับเพลิงไหม้กุฏิไม้สัก วัดสุวรรณโคมคำ หรือวัดห้วยโผ ...ก่อนเช้านี้ นำทหารจิตอาสาภัยพิบัติ มอบสิ่งของ อาหารให้พระภิกษุสงฆ์
จากกรณี เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 19.00 น. หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้กุฏิหลังใหญ่วัดสุวรรณโคมคำ หรือ วัดห้วยโผ ที่บ้านห้วยโผ หมู่ที่ 6 ตำบลแม่ยวม อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งกุฎิดังกล่าวได้สร้างขึ้นจากไม้สักทองทั้งหลัง ขั้นต้นหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ได้จัดรถยนต์บรรทุกน้ำขนาด 6 ตัน สนับสนุนเข้าพื้นที่บริเวณทางขึ้นวัดห้วยโผ ร่วมกับ รถดับเพลิงและรถฉีดน้ำจากหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 36 สำนักงานพัฒนาภาค 3 และส่วนราชการ, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่ไม่สามารถนำรถบรรทุกน้ำขึ้นไปยังพื้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ได้ เนื่องจากเส้นทางขึ้นวัดสุวรรณโคมคำเป็นภูเขาสูงลาดชัน และเส้นทางคดเคี้ยวเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายเป็นเหตุให้เพลิงไหม้กุฏิเสียหายทั้งหลังและเพลิงได้สงบลงเมื่อเวลา 24.00 น. ที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564 พันเอก สมรรถชัย แปงสาย ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 36/ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 มอบหมายให้ ร้อยเอก ศุภวัฒน์ คิดดี นายทหารฝ่ายกิจการพลเรือน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 นำกำลังพล พร้อมด้วยทหารจิตอาสาภัยพิบัติ นำข้าวสาร, อาหารแห้ง, น้ำดื่มและสิ่งของใช้ที่จำเป็นไปมอบให้แก่พระมหาสุรพงษ์ มหาวีโร ซึ่งเป็นพระลูกวัดสุวรรณโคมคำ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้เบื้องต้น ซึ่ง วัดสุวรรณโคมคำ หรือ วัดห้วยโผ มีพระภิกษุสงฆ์อาศัยอยู่จำนวน 2 รูป
จากการสอบถามพระมหาสุรพงษ์ มหาวีโร ถึงสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้กุฏิ ในครั้งนี้ ทราบว่า เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 17.00 น. ได้เกิดไฟป่าไหม้อย่างรุนแรงขึ้นบริเวณโดยรอบ ตีนเขาวัดสุวรรณโคมคำ หรือวัดห้วยโผ ทำให้พระภิกษุสงฆ์และชาวบ้านบ้านห้วยโผ ต้องเร่งช่วยกันควบคุมไฟป่า ซึ่งได้ควบคุมได้ระดับหนึ่งแล้ว จนกระทั่งเมื่อเวลา 19.00 น. ไฟป่าได้เกิดปะทุขึ้นอีก และลุกลามอย่างรวดเร็ว ประกอบกับมีลมพัดแรง จึงทำให้ไฟป่าไหม้ลามถึงกุฏิไม้หลังใหญ่วอดไปทั้งหลัง โดยขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
สำหรับสถานที่เกิดเหตุเพลิงไหม้กุฏิในครั้งนี้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่สะเรียง ได้ทำการปิดกั้นไม่ให้บุคคลใดที่ไม่เกี่ยวข้องผ่านเข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุ เนื่องจากต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าไปทำการพิสูจน์สาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 จะได้ติดตามสถานการณ์และการช่วยเหลือรายงานให้ทราบต่อไป
ภาพข่าวศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 3 นกพิราบศูนย์ข่าว พิจิตร
0831671688 รายงาน https://www.facebook.com/KaoTuaThai
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น