รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 กอ.รมน.จังหวัดเชียงราย หารือคณะทำงานติดตามสถานการณ์ covid-19 กรณีที่มีหญิงสาวอายุ 29 ปี ติดเชื้อโควิด 19 ที่จังหวัดเชียงใหม่
พันเอก กิตติพล ไพรหิรัญ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 การประชุม คณะทำงานติดตามสถานการณ์ covid-19 จังหวัดเชียงราย เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน 2563 ที่ห้องประชุมพญาพิภักษ์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ถนนแม่ฟ้าหลวง ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย โดยมี นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธาน , มี นาย วรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ผู้แทนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ผู้แทน กอ.รมน.จังหวัดเชียงราย รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ covid-19 และร่วมหารือแนวทางการปฏิบัติเชิงป้องกัน covid-19 จากกรณีที่มีหญิงสาวอายุ 29 ปี ติดเชื้อโควิด 19 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ผลการสอบสวนโรคพบว่า ทำงานที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน ประเทศเมียนมา และลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายข้ามแดนเข้าไทยทางด้านแม่สาย
โดยหลังจากที่ได้มีการประชุมและหารือจากทุกหน่วยงาน นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จากการสอบสวนโรคจากกรณีที่มีหญิงสาวอายุ 29 ปีที่จังหวัดเชียงใหม่ติดเชื้อ covid-19 ทราบว่ามีการลักลอบผ่านแดนเข้าทางช่องทางธรรมชาติที่จังหวัดเชียงรายนั้น จึงได้เรียกประชุมเพื่อติดตาม ป้องกัน ค้นหาผู้ที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยสืบทราบว่ามีขบวนการรับจ้างในการนำพาตัวลักลอบผ่านแดนเข้ามา ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปสืบสวนสอบสวนแล้ว และในส่วนของจังหวัดเชียงรายได้มีการวางกำหนดมาตรการในการป้องกันและรับมือ พร้อมทั้งจัดการหารือร่วมกับคณะกรรมการชายแดนไทยเมียนมาร์ หรือ TBC ในการรวบรวมข้อมูลของคนไทยในฝั่งเมียนมาร์ที่ต้องการจะกลับประเทศ เพื่อจะได้นำผ่านช่องทางที่ถูกต้องและผ่านการสอบสวนโรคตามมาตรฐานของสาธารณสุข และเข้ามาตรการกักกันหาเชื้อ 14 วันต่อไป
ซึ่งตอนนี้จังหวัดเชียงรายได้เตรียมออกประกาศอีกครั้ง ในด้านมาตรการของการดำเนินงานที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อในทุกวัน เพื่อติดตามสถานการณ์ อีกทั้งได้เน้นย้ำ และขอความร่วมมือให้ประชาชนในจังหวัดเชียงราย ช่วยกันการป้องกัน และให้ความสำคัญร่วมมือในการสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อออกนอกบ้าน ปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด อาทิ เช่น การล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ การรักษาระยะห่าง การไม่เข้าไปในที่ชุมชนแออัด การใช้แอพพลิเคชั่นไทยชนะ เป็นต้น
ทั้งนี้ ในส่วนด้านสาธารณสุข ทหาร ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการเพิ่มมาตรการ ในการป้องกันสกัดกั้น เพื่อไม่ให้มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ขึ้นในพื้นที่จังหวัดเชียงราย
สำหรับทางด้านชายแดนไทย-เมียนมา โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอแม่สาย ซึ่งผู้ติดเชื้อโควิดสารภาพว่าลักลอบข้ามแดนเข้ามานั้น หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สาย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้หารือกันและเห็นพ้องว่า ต้องเพิ่มเพิ่มความถี่ในการตรวจตราและลาดตระเวนตลอดแนวชายแดน รวมทั้งใช้อุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์พิเศษเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการลักลอบข้ามแดนเกิดขึ้นได้อีก
ส่วนบรรยากาศที่ด่านพรมแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 ยังคงมีการขนส่งสินค้ากันตามปกติ ทุกมาตรการยังคงเข้มข้นเช่นเดิม คือต้องมีการผลัดเปลี่ยนคนขับรถที่ด่านพรมแดน รวมทั้งยังคงเดินหน้ามาตรการเชิงรุก ด้วยการสุ่มตรวจคัดกรองบุคคลกลุ่มเสี่ยงซึ่งเกี่ยวข้องกับการนำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างไทย-เมียนมาอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องอีกด้วย
ภาพข่าวศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 3 นกพิราบศูนย์ข่าว พิจิตร
0831671688 รายงาน https://www.facebook.com/KaoTuaThai
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น