ขนส่งพิษณุโลก จัดโครงการรถเกษตรกรรมปลอดภัย ห่วงใยผู้ใช้รถใช้ถนนจังหวัดพิษณุโลก” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 รุ่นที่ 1
พิษณุโลก : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่นายสมเกียรติ พูลสุขเสริม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานพิธีเปิดโครงการรถเกษตรกรรมปลอดภัย ห่วงใยผู้ใช้รถใช้ถนนจังหวัดพิษณุโลก ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของสำนักงานขนส่งจังหวัดพิษณุโลก โดยมีนางสุธีวรรณ ศรีสุข ขนส่งจังหวัดพิษณุโลก กล่าวรายงานวัตุถุประสงค์ นายปราการ มสิกพรรค์ หัวหน้ากลุ่มวิชาการขนส่ง ตลอดจนเจ้าหน้าที่ในสังกัด ฯ และ เกษตรกรผู้ใช้รถเกษตรกรรม เข้าร่วมโครงการ ฯ องค์การบริหารส่วนตำบลมะต้อง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก
นายสมเกียรติ พูลสุขเสริม รอง ผวจ.พิษณุโลก กล่าวว่า ปัญหาอุบัติเหตุทางถนน นับเป็นปัญหาสำคัญระดับโลก จากรายงานสถานการณ์โลกด้านความปลอดภัยทางถนน ปี พ.ศ. 2561 พบว่าอัตราผู้เสียชีวิตบนท้องถนน เพิ่มขึ้นเป็น 1.35 ล้านคนต่อปี ซึ่งประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 9 ของโลก โดยมีประมาณการผู้เสียชีวิต 32.7 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน หรือมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยปีละ 22,491 คน (60 คนต่อวัน) และประเทศไทยยังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสูงที่สุดอันดับหนึ่งในเอเชีย และในภูมิภาคอาเซียน (ข้อมูลจาก “รายงานการวิเคราะห์สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนน ของกระทรวงคมนาคม พ.ศ. 2562” โดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร สำนักแผนความปลอดภัย เดือนพฤษภาคม 2563)
“ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ยานพาหนะที่ฝ่าฝืนกฎจราจร เลี้ยวตัดหน้าระยะกระชั้นชิด ตัดกระแสการจราจร ไม่แสดงสัญญาณไฟให้ผู้ร่วมทางเห็นอย่างชัดเจน และความแตกต่างด้านสมรรถนะของรถที่ใช้งานบนท้องถนน จังหวัดพิษณุโลกมีประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และนิยมนำรถเกษตรกรรมมาใช้กันอย่างแพร่หลาย ได้แก่ พื้นที่อำเภอพรหมพิราม อำเภอวัดโบสถ์ อำเภอวังทอง อำเภอบางระกำ อำเภอชาติตระการ ซึ่งอำเภอพรหมพิรามเป็นพื้นที่ที่มีการใช้รถเกษตรกรรมหรือรถอีแต๋นมากที่สุด มีทั้งรถที่จดทะเบียนและต่อภาษีรถอย่างครบถ้วนถูกต้อง รวมถึงรถที่ไม่มีการจดทะเบียนและนำมาวิ่งใช้งานบนท้องถนน
นอกจากนี้ ยังพบว่าสัดส่วนของผู้ขับขี่รถเกษตรกรรมที่มีใบอนุญาตขับรถเกษตรกรรมมีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนรถที่ใช้งาน รถเกษตรกรรม หรือ รถอีแต๋นเป็นรถที่ประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนที่ใช้แล้วของรถยนต์ทั่วไป ใช้กลไกง่าย ๆ ในการขับเคลื่อนตัวรถ และสามารถนำมาดัดแปลงให้เป็นเครื่องสูบน้ำในใช้ไร่นาได้อีกด้วย ปัจจุบันได้มีการใช้รถดังกล่าวกันอย่างแพร่หลายทั้งในไร่นาและบนท้องถนน ซึ่งปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดจากการใช้งานรถเกษตรกรรมกับรถชนิดอื่นบนท้องถนน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น การจัดกิจกรรมภายใต้โครงการ “รถเกษตรกรรมปลอดภัย ห่วงใยผู้ใช้รถใช้ถนนจังหวัดพิษณุโลก” ของสำนักงานขนส่งจังหวัดพิษณุโลก ที่มีรูปแบบเป็นการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย ในการให้ความรู้ด้านความปลอดภัยในการใช้รถเกษตรกรรมบนท้องถนน การตรวจเช็คสภาพรถ แก้ไขปรับปรุงระบบสัญญาณไฟรถให้ใช้งานได้ดี ติดป้ายสะท้อนแสงบนตัวรถ และ การจัดตั้งศูนย์ความปลอดภัยรถใช้งานเกษตรกรรมให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถือเป็นโครงการที่ดีเกิดประโยชน์อย่างสูงต่อการลดปัญหาอุบัติเหตุทางถนนที่ถือเป็นวาระสำคัญของจังหวัดพิษณุโลกและวาระแห่งชาติ นายสมเกียรติ กล่าว.
ด้าน นางสุธีวรรณ ศรีสุข ขนส่งจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ด้วยปัญหาอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เป็นปัญหารายวันที่มีแนวโน้มของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่าปัจจัยด้านพฤติกรรมของผู้ขับขี่เป็นปัจจัยสำคัญที่เป็นสาเหตุ ของการเกิดอุบัติเหตุ ได้แก่ การใช้ความเร็วสูงขณะขับขี่ การฝ่าฝืนและไม่เคารพกฎจราจร นอกจากนี้ สภาพตัวรถที่ไม่มีความพร้อมยังเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุแต่ละครั้งเช่นกัน ได้แก่ ความแตกต่างเกี่ยวกับสมรรถนะของตัวรถบนท้องถนน อุปกรณ์ส่วนควบของตัวรถที่ไม่มั่นคงแข็งแรง ขาดการบำรุงดูแลรักษาก่อนการใช้งานอย่างต่อเนื่อง การแก้ไขปัญหาที่เข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริง จะทำให้เกิดการแก้ปัญหาที่เอื้อต่อความปลอดภัยทางถนนให้กับประชาชน ปัจจุบันเกษตรกรจังหวัดพิษณุโลกได้มีการนำรถเกษตรกรรมหรือรถอีแต๋นมาวิ่งใช้งานบนท้องถนน และ มักเกิดอุบัติเหตุต่อตัวผู้ขับขี่รถเกษตรกรรมเอง และผู้ใช้รถอื่นบนท้องถนน ห้วงเวลาที่พบว่ามีการนำรถเกษตรกรรมหรือรถอีแต๋นดังกล่าว มาใช้งานบนท้องถนนมักจะเป็นเวลาเช้ามืดหรือพลบค่ำ ซึ่งรถส่วนใหญ่มีระบบไฟสัญญาณบนตัวรถไม่ชัดเจน ผู้ขับขี่รถอื่นบนท้องถนนมองเห็นไม่ชัดเจนในระยะที่ปลอดภัย ทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการชนกันอย่างรุนแรงและเกิดการสูญเสียอยู่บ่อยครั้ง
“ จากสถิติจำนวนรถใช้งานเกษตรกรรมที่จดทะเบียนถูกต้องของจังหวัดพิษณุโลก (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2563 มีจำนวนทั้งสิ้น 6,769 คัน สูงเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศ รองจากจังหวัดนครราชสีมา จังหวัดชัยภูมิ และจังหวัดอุตรดิตถ์ พื้นที่ที่มีจำนวนรถเกษตรกรรมมากที่สุดของจังหวัดพิษณุโลก คือ อำเภอพรหมพิราม มีจำนวน 3,730 คัน คิดเป็นร้อยละ 55.14 ของจำนวนรถใช้งานเกษตรกรรมที่มีอยู่ทั้งหมด มีจำนวนใบอนุญาตขับรถใช้งานเกษตรกรรม รวมจำนวนทั้งสิ้น 7,002 ฉบับ เป็นใบอนุญาตขับรถที่สิ้นอายุแล้วจำนวน 6,695 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 95.62 และยังไม่สิ้นอายุจำนวน 307 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 4.38 ของจำนวนผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถใช้งานเกษตรกรรมทั้งหมด นอกจากนี้ ยังพบว่ามีรถอีกจำนวนหนึ่งที่ถูกนำมาใช้อย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มีใบอนุญาตขับรถและไม่มีความรู้เรื่องของกฎจราจรในการใช้รถบนท้องถนน ร่วมกับผู้อื่นอย่างปลอดภัย เป็นปัญหาในการใช้รถบนท้องถนนและเป็นปัจจัยทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงตามมาสำนักงานขนส่งจังหวัดพิษณุโลก ได้มีความตระหนักและเห็นถึงความสำคัญของปัญหาอุบัติเหตุดังกล่าว จึงได้มีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดพิษณุโลก วิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก สำนักงาน คปภ. จังหวัดพิษณุโลก และ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด สาขาพิษณุโลก ในการจัดกิจกรรมให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น “
นางสุธีวรรณ กล่าวอีกว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ได้กำหนดเป้าหมายในการจัดกิจกรรมให้กับพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 6 แห่ง ๆ ละ 50 คน รวมจำนวนทั้งสิ้น 300 คน โดยได้พิจารณาจากพื้นที่ที่มีการใช้รถเกษตรกรรมจำนวนมาก และผู้นำท้องถิ่นที่เห็นถึงความสำคัญของการป้องกันและลดปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ จึงกำหนดจัดกิจกรรมรุ่นที่ 1 ณ องค์การบริหารส่วนตำบลมะต้อง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งกำหนดจัดกิจกรรมรุ่นละ 2 วัน คือ วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2563 เป็นการอบรมให้ความรู้จากวิทยากรของหน่วยงานภาคีเครือข่าย การตรวจเช็คสภาพรถ การปรับปรุงแก้ไขสัญญาณไฟตัวรถ การติดแผ่นป้ายสะท้อนแสงที่ตัวรถ การทดสอบขับรถใช้งานเกษตรกรรมในสนามทดสอบ ณ องค์การบริหารส่วนตำบลมะต้อง และ วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน 2563 จะเป็นการอบรมต่อเนื่องเพิ่มเติมในช่วงเช้า การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ผู้ผ่านการอบรมเข้ารับการทดสอบข้อเขียนด้วยระบบ E – exam และถ่ายรูปเพื่อออกใบอนุญาตขับรถใช้งานเกษตรกรรม ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดพิษณุโลก แห่งที่ 2 ตำบลวังพิกุล อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก นางสุธีวรรณ กล่าว.
กิตตติพงษ์ ทุนเพิ่ม ทีมข่าวภูมิภาค.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น