“ ฝนตกไม่ท้อ น้ำสูงไม่ถอย ” ทหารจิตอาสาภัยพิบัติ กองบัญการช่วยรบที่ 3 จับมือ มูลนิธิร่วมกตัญญู จิตอาสา ประชาชน รวมจัดถุงยังชีพ ปรุงอาหาร 500 ชุด แจกจ่าย และช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดสุโขทัย..... บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พร้อมทหารจิตอาสา ลุยฝ่ากระแสน้ำช่วยประชาชน......
“ ฝนตกไม่ท้อ น้ำสูงไม่ถอย ” ทหารจิตอาสาภัยพิบัติ กองบัญการช่วยรบที่ 3 จับมือ มูลนิธิร่วมกตัญญู จิตอาสา ประชาชน รวมจัดถุงยังชีพ ปรุงอาหาร 500 ชุด แจกจ่าย และช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดสุโขทัย..... บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พร้อมทหารจิตอาสา ลุยฝ่ากระแสน้ำช่วยประชาชน......
หลังจากสถานการณ์น้ำหลาก ทะลักท่วมหลายพื้นที่ในจังหวัดสุโขทัย อย่างรวดเร็ว จนเกิดน้ำท่วมขัง บ้านเรือนได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง น้ำกัดเซาะริมตลิ่ง คันดินกั้นน้ำบางจุดพัง นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วย ,พันเอก เสมา มังมติ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในสุโขทัย ฝ่ายทหาร ,นายธนพงษ์ บุญเรือง นายอำเภอเมืองสุโขทัย ,บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางลงพื้นที่ ตำบลปากแคว ตำบลคลองกระจง ตำบลท่าทอง ตำบลเมืองบางยม เพื่อมอบถุงยังชีพ ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
และ ทหารจิตอาสาภัยพิบัติ กองบัญการช่วยรบที่ 3 นำกำลังพล ยกทัพช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมฉับพลัน ร่วมกับภาคคีเครือข่าย ส่วนราชการจังหวัดสุโขทัย , อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู , ชุดทหารบรรเทาสาธารณภัย , จิตอาสาพระราชทาน, ฝ่ายปกครองจังหวัดสุโขทัย, นายอำเภอสวรรคโลก , นายอำเภอศรีสำโรง, นายวรพจน์ ศิริทรัพย์ , นายอธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา , นายปฏิญญา วิบูลย์นันทน์, นายณภัทร กลมเกลี้ยง , องค์กร มูลนิธิ และเครือข่ายจิตอาสาภาคประชาชน เข้าช่วยเหลือผู้ประสับน้ำท่วม ในพื้นที่หมู่ 7 ตำบลคลองกระจง อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย เนื่องจากได้เกิดเหตุคันดินกั้นน้ำพังน้ำจึงทะลักท่วมหมู่บ้าน น้ำหลากฉับพลันอย่างรวดเร็ว และระดับนำเพิ่มขึ้นสูงต่อเนื่อง และมีชาวบ้านติดค้างอยู่อีกจำนวนมาก โดยทางเจ้าหน้าที่ได้นำอาหาร น้ำดื่ม ถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาในเบื้องต้น ขณะนี้ วันที่ 25 สิงหาคม 2563 ระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระแสน้ำแรงกว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา กำลังทหารจิตอาสาภัยพิบัติได้ลงพื้นที่พร้อมกับมูลนิธิร่วมกตัญญู เพื่อเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน โดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ณ ศูนย์ประสานงานมูลนิธิร่วมกตัญญู บริเวณวัดศรนิโคธาราม อำเภอสรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย มี ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบัญชาการช่วยรบที่ 3, จิตอาสา พระราชทาน , น้องๆ นักเรียน วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุโขทัย และชาวบ้านจิตอาสาในพื้นที่ มาร่วมแรงร่วมใจ จัดถุงยังชีพ ขนของ และประกอบอาหารจำนวน 500 ชุด โดย กองพันส่งกำลังและบริการที่ 23 กองบัญชาการช่วยรบที่ 3 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบัญชาการช่วยรบที่ 3 จัดตั้งรถครัวสนาม " ตั้งโรงครัวพระราชทานประกอบอาหาร " ให้ผู้ประสบอุทกภัยด้วย เพื่อไปส่งมอบให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมในจุดต่างๆ และประชาชนก็ได้นำอาหารสด เช่น พืชผักสวนครัว เนื้อสัตว์ต่างๆ มามอบให้โรงครัวปรุงอาหาร หลายรายการ เพื่อไปมอบให้ชาวบ้านผู้ประสบอุทกภัยด้วย ซึ่งจะไปช่วยผู้ประสบภัยใน อำเภอสวรรคโลก อำเภอศรีสำโรง และอำเภอเมืองสุโขทัย ตลอดจนพื้นที่ใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบ โดยทาง สิงห์อาสา ร่วมทัพช่วยเหลือในครั้งนี้ด้วย
“ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เปิดเผยว่า ....สถานการณ์น้ำท่วม ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ยังวิกฤตหนัก หลังมีฝนตกและเกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน ซึ่งหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ จังหวัดสุโขทัย พบว่ามีชาวบ้านในพื้นที่เดือดร้อนมาก และน้ำเพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว ”
ทางด้าน นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ได้ให้สัมภาษณ์ ถึงสถานการณ์น้ำในขณะนี้ ระบุว่า ถ้าน้ำมาตามลำน้ำ แม่น้ำ ไม่มีผนังแตก ถนนขาด ราษฏร์คงไม่เดือดร้อน เพราะมันก็ไปตามธรรมชาติ แต่จุดเสี่ยงในตอนนี้ มี 18 จุด ใน 3 อำเภอ มีผนังแตก ถรรขาด ทำให้น้ำทะลักไหลเข้าบ้านเรือน พื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งในขณะนี้ก็ได้สั่งการให้นายอำเภอ จิตอาสาพรราชทาน ฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง รับทราบมีหน้าที่ดูแลชาวบ้านให้ดีที่สุด ต้องเอาชีวิตชาวบ้านเป็นหลัก ต้องให้ปลอดภัยไม่ได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้ที่สำรวจในเบื้องต้น มีผู้เดือดร้อนกว่า 6,000 หลังคาเรือน กว่า 20,000 คน ส่วนราษฏรที่บ้านได้รับความเสียหาย ได้บรูณการวางแผนกับทางกองทัพภาคที่ 3 หน่วยงานราชการไว้แล้วว่า หลังน้ำลดลงไปบ้าง จะเข้าเยี่ยมราษฏร เรื่องแรกจะทำให้น้ำแห้งไปก่อน และทำความสะอาดบ้านให้ ส่วนอะไรที่พังเสียหาย จะมีระเบียบของหน่วยงานราชการ ไว้รองรับช่วยเหลืออยู่แล้ว ที่จะต้องไปช่วยเหลือ อย่างทั่วถึงแน่นอน แต่ในส่วนที่ไม่ทั่วถึงก็ขอให้เข้าใจ และต้องขอโทษทางราษฏรประชาชน แต่หากที่ไหนไม่ได้รับการช่วยเหลือ ขาดตกบกพร่อง ก็ขอให้แจ้งเข้ามาได้ เพราะมีหน่วยเฉพาะกิจคอยรับเรื่องดูแล ส่วนในเรื่องของมวลน้ำจากอำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ที่มีการคาดการณ์ว่าจะไหลเข้าสู่แม่น้ำยม และเข้าสู่ จังหวัดสุโขทัย โดยมีมวลน้ำกว่า 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพราะปกติ จังหวัดสุโขทัยสามารถรองรับได้ที่ 1,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่ระดับ 1,300 ลูกบาศก์เมตร จะค่อยๆลดลง ซึ่งคาดว่าจะมาตลอด แต่อาจจะลดลงเล็กน้อย ถ้าอำเภอวังชิ้น ไม่เกิน 1,000 ลูกบาศก์เมตร ก็จะเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ และคาดการณ์ว่าในจัหงวัดสุโขทัย ไม่เกิน 1 สัปดาห์ ระดับน้ำจะค่อยลดลง ทางด้านนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัย กรมโยธาธิการและผังเมือง ก็จะเข้ามาซ่อมไม่ให้น้ำเข้ามาอีก ระบายออกไปเรื่อยๆ ก็จะลดเร็ว เราจะเอาเจ้าหน้าที่ทหารจิตอาสาภัยพิบัติ ทหารจากกองบัญชาการช่วยรบที่ 3 ตำรวจ ลงไปช่วยประชาชนทำความสะอาดบ้านเรือน
ส่วน คุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ และทีมอาสาสมัครร่วมกตัญญู พร้อมเรือท้องแบนขนาดใหญ่ เดินทางลงพื้นที่บ้านหนองโว้ง ตำบลเมืองบางยม อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย หลังจากได้มีชาวบ้านอาศัยอยู่ริมใกล้ตลิ่งริมแม่น้ำยม ขอความช่วยเหลือเร่งด่วน เนื่องจากคันดินกั้นน้ำบริเวณแม่น้ำยมพัง น้ำทะลักเข้าหมู่บ้าน บ้านถูกกระแสน้ำหลากพัดพังทั้งหลัง ข้าวของเครื่องใช้ก็นำออกมาไม่ทัน ทุกคนต้องหนีเอาชีวิตรอดออกมาก่อน เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงบริเวณสะพานเมืองบางยม ระดับน้ำค่อนข้างสูงและไหลเชี่ยวกราด เจ้าหน้าที่ต้องจอดรถไว้บริเวณตัวสะพาน และต้องเดินเท้าเข้าไป เนื่องจากบริเวณข้างหน้ามีน้ำท่วมขัง บางจุดมีการใช้กระกระสอบกั้นเพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้ามา กระแสน้ำในหมู่บ้านเชี่ยวกราดแรงมาก ระดับน้ำสูงราวๆเกือบ 1 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่เองต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ บ้านหลายหลังได้รับความเสียหาย จากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำรถแม๊คโคร ยกกระสอบทรายกั้นบริเวณแนวริมทางน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำทะลักเข้ามาก่อน ในขณะเดียวกัน กระแสน้ำยังคงเพิ่มขึ้นและแรงแบบต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่เข้าไปลึกกว่านี้ไม่ได้ ต้องถอนกำลังออกมา เมื่อกั้นกระสอบทรายจนกระแสน้ำเบาลง จะได้นำเรือท้องแบนเข้าไปในพื้นที่ พบว่ามีชาวบ้านจำนวนหนึ่ง เฝ้ายืนรอกันด้วยความหวัง ทุกคนต่างงดีใจเมื่อได้เห็นพี่บิณฑ์และทีมงานเข้ามาช่วยเหลือ
สำหรับพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในเขตตำบลอำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย ได้เเก่ ตำบลท่าทอง 6 หมู่บ้าน 523 ครัวเรือน
หมู่ 1 ได้รับผลกระทบ 70 เรือน, หมู่ 2 ได้รับผลกระทบ 69 ครับเรือน, หมู่ 3 ได้รับผลกระทบ 101 ครัวเรือน, หมู่ 4 ได้รับผลกระทบ 42 ครัวเรือน, หมู่ 6 ได้รับผลกระทบ 141 ครัวเรือน, หมู่ 7 ได้รับผลกระทบ 100 ครัวเรือน
และ ตำบลครองกระจง 7 หมู่บ้าน 907 ครัวเรือน หมู่ 1 ได้รับผลกระทบ 129 ครัวเรือน, หมู่ 2 ได้รับผลกระทบ 190 ครัวเรือน, หมู่ 3 ได้รับผลกระทบ 186 ครัวเรือน, หมู่ 4 ได้รับผลกระทบ 80 ครัวเรือน, หมู่ 6 ได้รับผลกระทบ 95 ครัวเรือน, หมู่ 7 ได้รับผลกระทบ 147 ครัวเรือน, หมู่ 8 ได้รับผลกระทบ 80 ครัวเรือน
ภาพข่าวศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 3 นกพิราบศูนย์ข่าว พิจิตร รายงาน






































ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น