โรงทานวัดท่าหลวงประกาศปิดโครงการแจกข้าวกล่องซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายหลังจากทำโรงทานมาตั้งแต่ 1 เม.ย 63 เป็นที่พึ่งของผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด19 วันส่งท้ายแจกถุงยังชีพชาวบ้านครึ่งหมื่น แห่เข้าแถวรอรับของแจกกันเนืองแน่น เป็นภาพที่เห็นแล้วน่าเศร้าใจคนไทยมาถึงจุดนี้กันได้อย่างไร?
วันที่ 30 เม.ย. 2563 นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นางสุกัญญา ชุมอุปการ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพิจิตร ได้ไปเป็นประธานในการแจกถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยทางเศรษฐกิจจากพิษโควิด19 ที่วัดท่าหลวง พระอารามหลวง ซึ่งจัดขึ้นโดย พระราชสิทธิเวที,ดร. เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร รักษาการเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง พระอารามหลวง และคณะสงฆ์จังหวัดพิจิตร ที่ ได้ทำโรงทานแจกข้าวกล่องให้กับผู้ที่ตกงาน ผู้ที่ยากจน ยากไร้ คนแก่ คนพิการและเด็ก ที่ในแต่ละวันมายืนรอเข้าแถวขอข้าววัดกินนับพันคน ซึ่งได้ทำโรงทานมาตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2563 โดยได้รับเงินบริจาคจากผู้ที่มีจิตศรัทธามาเป็นทุนในการทำโรงทานดังกล่าว บัดนี้ได้ประกาศขอปิดโครงการและจะแจกอาหารและข้าวกล่องให้กินมื้อกลางวันของ วันนี้เป็นมื้อสุดท้าย รวมถึงได้แจกถุงยังชีพที่ประกอบไปด้วย ข้าวสาร และไข่ไก่ ฯลฯ ที่ครั้งแรกวางเป้าหมายไว้ว่าจะแจกแค่ 1,000 ชุด แต่พอถึงเวลาจริงชาวบ้านมากันมากมายน่าจะเกือบ 5,000 คน ทางวัดจึงต้องเร่งจัดหาสิ่งของมาแจกเพิ่มเติม ซึ่งในที่สุดก็ได้สิ่งของถุงยังชีพแจกให้กับชาวบ้านทั่วไป 1,300 ชุด และแจกให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่เป็นชั้นผู้น้อย 500 ชุด และแจกข้าวกล่องที่วันนี้มีผู้ใจบุญนำสิ่งของที่ล้วนเป็นของที่กินได้มาแจกสมทบด้วยอย่างมากมาย จึงทำให้มีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19 ที่ทราบข่าวการแจกสิ่งของดังกล่าวแห่กันมารอรับแจกสิ่งของกันอย่างเนืองแน่นอย่างในภาพที่เห็น หลายคนบอกว่าหลังจากโรงทานของวัดท่าหลวงหยุดโครงการแล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะไปพึ่งขอข้าว ขอน้ำ จากใครกินได้ อีกทั้งช่วงนี้การประกาศขยายเวลาของพรก.ฉุกเฉิน ก็ขยายเวลาต่อไปอีก 30 วัน ทำให้สถานประกอบการ โรงงาน สถานบันเทิง ร้านค้า ร้านอาหาร ต่างก็ยังไม่พร้อมที่จะเปิดรับสมัครคนงาน จึงทำให้หลายคนต้องตกงานต่อไป จึงฝากความหวังอยากให้หน่วยงานราชการมาเปิดโรงครัว โรงทาน แจกข้าว แจกน้ำให้ชาวบ้านกิน รวมถึง อยากวิงวอนขอให้ผู้ใจบุญมาร่วมทำบุญกับวัดท่าหลวงเพื่อที่ทางวัดจะได้มีทุนเปิดโรงทานช่วยเหลือชาวบ้านอีกครั้ง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
สิทธิพจน์ พิจิตร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น