วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ปราจีนบุรี หัวอกหนุ่ม 56 พิการมาหาหมอข้ามคืนเดินเท้ากลับบ้าน!!

ปราจีนบุรี หัวอกหนุ่ม
56 พิการมาหาหมอข้ามคืนเดินเท้ากลับบ้าน!!

เป็นภาพที่น่าอดสูที่สุด
ขณะที่ผู้สื่อข่าวขับรถ
มาบนถนนสาย 304
กบินทร์บุรี-
นครราชสีมา ขาล่อง
ฉะเชิงเทราก่อนถึง
รร.สายมิตรศึกษา
ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี
จ.ปราจีนบุรี ได้พบเห็น
ชายวัยกลางคนกำลังใช้ไม้เท้าพยุงร่างกาย
เดินมาตามถนน พร้อม
กับหยุดเดินในบางช่วง
ลักษณะคล้ายคนเมา
เหล้ายืนไม่อยู่ และเดิน
มาอีกหน่อยท่ามกลาง
แสงแดดจ้ายืดหลังขึ้น
ในท่ายืนตรงเงยหน้าเล็กน้อย ในมือมีถุงพลาสติก ขณะหยุดเดิน ก้มดูในถุงพลาสติกเพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง
ขณะนั้นหนุ่มใหญ่ในชุด
เสื้อเชิตแขนสั้นสีครีมกางเกงขายาวสีดำ หันมาเห็นผู้สื่อข่าวที่แอบอยู่ใต้ต้นไม้ริมทาง สายตาที่มองมานั้นบ่งบอกว่าจะมีใครสนใจจะถามไถ่หรือไม่  ใบหน้าเหงื่อไหลอาบแก้มยืนถอนหายใจยาวหอบ
ตัวโยน ผู้สื่อขาวสบตา
ด้วยรับรู้ว่าชายคนนี้นั้น
กำลังครุ่นคิดอะไรอยู่
จึงถามว่า"ตาจะไปไหน
คับ"เสียงที่เปล่งตอบมา
ถ้าคิดมีอคติจะบอกออก
มาว่า "คนขี้เหล้าหรือคนบ้า" แต่ถามย้ำไปอีก
พร้อมกับสบสายตาชาย
หนุ่มมอซอคนนั้น ทันทีที่ได้ยินเสียงแหบแห้ง
แทบหรั่งน้ำตาออกมา
ด้วยความเวทนา
ชายคนดังกล่าวบอกว่า
มาเอายาที่ รพ.ตั้งแต่
เมื่อวานยังไม่ได้กลับบ้านเลย เมื่อสายๆที่
ผ่านมานั่งรอรถโดยสาร
สองแถวจะมาลงที่ปาก
ทางเข้าบ้าน แต่ลงรถผิดจึงเดินเท้ามาที่ปาก
ทางเข้าบ้าน 800 เมตร
ชายหนุ่มคนดังกล่าวได้
บอกอีกว่า ที่พูดน้ำเสียง
แหบแห้งไม่ใช่เมาเหล้า
แต่ตนเองป่วยหลังจาก
ประสบอุบัติเหตุทางรถ
ยนต์ ผ่าตัดจนพูดไม่มี
เสียงและกลายเป็นคน
พิการในที่สุด หนุ่มแต่ง
ตัวมอซอบอกว่าคนชื่อ
นายสุพิน จีนเจือ อายุ
56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 251
ม.5 ต.เขาไม้แก้ว
อ.กบินทร์บุรี
จ.ปราจีนบุรี เดินทาง
ิออกจากบ้านตั้งแต่วาน
นี้โดยอาศัยนั่งรถโดย
สารระหว่างหมู่บ้านมา
รับยาที่ รพ.กบินทร์บุรี
(ยาเบาหวานความดัน)
คนไข้เยอะกว่าจะได้
รับยาก็บ่ายเย็น รถหมด
เพราะรถมีเที่ยวเดียว
จึงต้องนอนค้างที่หน้า
รพ.หนึ่งคืน เมื่อสายๆ
จึงค่อยๆคิดค่อยทบ
ทวนว่าจะขึ้นรถมาลง
ตรงไหน แต่จำทาง
เข้าหมู่บ้านไม่ได้จึงขอ
ลงระหว่างทาง แต่เกิด
ลงรถผิดเมื่อลงรถผิดก็
ต้องตัดสินเดินเอาค่อยๆ
เดินมาเรื่อยไป ร่างกาย
ไม่สมประกอบจึงเดินมา
หยุดไปนั่งๆกระทั่งมาพบกับผู้สื่อข่าว
ผู้สื่อข่าวยังไม่แน่ใจว่า
ชายหนุ่มคนดังกล่าวมี
สติดีหรือไม่ ขณะนั้นมี
ตำรวจสายตรวจรถยนต์ สภ.สระบัวผ่าน
มาซื้อข้าวไปให้กำลังที่
อยู่ที่ตู้ยามจึงให้ช่วยสอบถาม ซึ่งนายสุพิน แสดงตัวว่าเป็นคนสุจริตชน
ผู้สื่อข่าวให้ขึ้นรถเพื่อที่จะไปส่งที่บ้านระยะทาง
20 กม.ทันที่ที่ไปถึงบ้านนั้นมีหญิงชรารีบออกมารับพร้อมกับถามว่า "กลับมาแล้วหรือลูกเมื่อคืนไปนอนที่ไหนมา"
"ผมนอนอยู่หน้ารพ."
แม่ยื่นมือมาจับแขนลูกชายลงเดินเข้าบ้าน
ที่อยู่ริมถนน ทั้งสองคุย
กันตามประสาแม่ลูก
ประโยคที่จุกอกที่สุดคือคำพูดที่จากปาก
ของนายสุพิน จีนเจือ
"เรามันคนจนขนาด
เห็นว่าคนบ้านเดียวกัน
ไปหาหมอขับรถผ่าน
หน้าเราแท้ๆยังไม่ถาม
ซักคำ"พูดเสร็จเอามือ
เท้าสะเอว และทราบ
ว่าผู้เป็นแม่คือยาย
รอด จันทร์เชื้อ อายุ
80 ปี ยายรอดบอกว่า
แต่งงานกับสามีลูก 1
คนคือนายสุพิน สามี
ตายก็อยู่กับลูกชาย 2
คน ก่อนหน้านี้ลูกชาย
ปกติดีรับจ้างขับรถ
บรรทุกและเกิดอุบัติ
เหตุจนกลายเป็นคน
พิการ ด้วยฐานะยาก
จนไม่มีที่อยู่หลังลูก
ชายกลายเป็นคนสติไม่เต็มมาขออาศัยผู้ใหญ่บ้านปลูกบ้านอยู่ ผู้ใหญ่ณัฐ ศรีกอง จึงให้ปลูกบ้านอยู่ในที่ดินของตนอยู่กันตามลำพัง
ยายรอดบอกว่าได้เบี้ย
ยังชีพคนชรากับเงิน
คนพิการพอได้ประทัง
ชีวิตไปวันๆหนึ่ง มีบ้าง
ขอข้าวสารวัดมากิน
พระท่านก็แบ่งปัน
อาหารให้บ้าง วันนี้
ยายรอดหาหอยขม
ในสระน้ำข้างบ้านมา
ต้มใส่น้ำปลาร้ากิน
และปลาร้าปลากระดี่
กับปลาร้าสับ ยายรอด
บอกว่าก็กินอยู่ตามมี
ตามเกิดสองแม่ลูกแม้
จะสงสารลูกชายเวลา
ไปหาหมอทีก็นั่งรถ
โดยสารไป วานนี้ค่ำ
แล้วไม่เห็นลูกชายกลับมาบ้านก็คิดว่าหมอคงให้นอนโรงพยาบาล แต่
ไม่มีรถกลับบ้านก็ต้อง
ทำใจไม่ว่าใครชินแล้ว
กับชีวิตสองแม่ลูก...






                        
ลักขณา สีนายกอง/รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดอุตรดิตถ์และนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.อุตรดิตถ์ เปิดบ้านต้อนรับ ททท. ต่อยอดกระแสภาพยนตร์“ธี่หยด2”

สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดอุตรดิตถ์และนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.อุตรดิตถ์ เปิดบ้านต้อนรับ ททท. ต่อยอดกระแสภาพยนตร์“ธี่หยด2”  ททท. ต...