พันเอก วุทธิพัฒน์ ปรัชญ์ฐากรณ์ รองผู้บังคับหน่วยพากิจกรมทหารม้าที่ 2 ร่วมพิธีเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมถ้ำหลวง อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย อย่างเป็นทางการ หลังจากทดลองเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเมื่อ 27 ตุลาคม 2562 มาแล้ว ท่ามกลางนักท่องเที่ยวที่มารอเข้าชมเป็นจำนวนมาก โดยมี นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นประธาน
โอกาสนี้ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้นำบวงสรวงบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณปากถ้ำ ที่ตั้งของศาลเจ้าแม่นางนอน ก่อนที่พราหมณ์จะนำกล่าวคำบวงสรวง โปรยข้าวตอกดอกไม้ ประกอบพิธีบูชาพระรัตนตรัย พระสงฆ์ให้ศีลและเจริญพระพุทธมนตร์ ถวายจตุปัจจัย เครื่องไทยทานแด่พระสงฆ์
จากนั้น รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดบริเวณปากถ้ำหลวง เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เข้าชมบรรยากาศภายในถ้ำหลวงเป็นครั้งแรก ต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย ภายหลังจากที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มีประกาศปิดพื้นที่ไม่ให้เข้าชมภายในถ้ำหลวง เนื่องจากมีความห่วงใยในความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยว อีกทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีภารกิจในการขนย้ายอุปกรณ์ช่วยเหลือที่ยังมีคงค้างอยู่ในถ้ำ จึงมีการปิดปากถ้ำด้วยรั้วโลหะ สามารถมองเห็นปากถ้ำได้เพียงในระยะ 30 เมตรเท่านั้น
จากนั้นได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเฉพาะที่มีบัตรได้เดินขึ้นบันไดเพื่อเข้าชมตรงบริเวณโถง 1 ซึ่งเป็นโถงใหญ่ และโถงแรกของถ้ำหลวงที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยรวมทั้งร่องลำธารจากในถ้ำออกมา โดยเจ้าหน้าที่จะกำหนดเวลาเข้าชมที่เหมาะสมและให้นักท่องเที่ยวได้รักษาเวลาอย่างเข้มงวด รวมทั้งกำหนดให้อยู่เฉพาะจุดที่กำหนดเพื่อความปลอดภัย หากฝ่าฝืนจนเกิดอุบัติเหตุหรือพลัดหลงเจ้าหน้าที่จะไม่ผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้นด้วย สิ่งสำคัญอีกประการของให้ช่วยกันรักษาความสะอาดและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย
รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า สำหรับวันนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ทดลองเปิดบริเวณปากถ้ำหลวงเพื่อทดลองระบบการเข้า-ออก และการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว เพื่อใช้สำหรับการบริหารจัดการในอนาคตและต้องการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบว่า ขณะนี้อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) ได้เตรียมความพร้อมรันักท่องเที่ยวอย่างเหมาะสมในทุกด้าน เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนผ่านจากวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนเป็นอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ซึ่งทั้งหมดเป็นเพียงจุดเริ่มต้น และรูปแบบที่จะใช้พัฒนาพื้นที่แห่งนี้ โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะดำเนินการพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ให้เต็มรูปแบบเพื่อความภาคภูมิใจของประชาชน ชาวไทยต่อไปในอนาคต ซึ่งการพัฒนาคงต้องทำอย่างระมัดระวังและรัดกุมให้มากที่สุด โดยจะมีนักวิชาการมาช่วยศึกษาความเป็นไปได้ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งจะต้องมีการศึกษาจัดทำแผนแม่บทโดยจะศึกษาตั้งแต่ข้อมูลเชิงลึกของพื้นที่ การดูแลคุ้มครองพื้นที่ การท่องเที่ยว เรื่องของธรณีวิทยาและที่สำคัญคือ เหตุการณ์การกู้ภัยในครั้งนั้น ตลอดจนเรื่องราวจิตอาสาของคนไทยในครั้งนั้นด้วย
ระหว่างรอแผนแม่บท กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะทำการปรับปรุงพัฒนาด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ตามแนวทางการจัดการอุทยานแห่งชาติพร้อมทั้งร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมทรัพยากรธรณีและกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้ทำการสำรวจรายละเอียดภายในถ้ำหลวงและสำหรับช่วงนี้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้สำรวจเส้นทางเดินในถ้ำทรายทอง บริเวณขุนน้ำนางนอน เพื่อพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งด้วย
สำหรับการเข้าชมถ้ำหลวง ในแต่ละวัน สามารถรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณวันละ 2,000 คน ซึ่งในวันนี้เป็นวันแรก จะเริ่มให้เข้าชมได้ในเวลา 10.00 น. แต่สำหรับวันต่อไปจะเปิดให้เข้าชมในเวลา 08.30-16.30 น โดยการเข้าชมจะแบ่งเป็นรอบๆ ละ 30 คน
ด้านนายกวี ประสมพล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง -ขุนน้ำนางนอน กล่าวว่า สำหรับการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมถ้ำหลวงด้วยการแลกบัตรดังกล่าวจะจัดแบ่งเข้าชมได้รอบละ 3 จุดๆ ละจำนวน 20 คน คือ ปากทางเข้าถ้ำ หน้าศาลเจ้าแม่นางนอน และบริเวณปากโถงถ้ำแรก รวมรอบละ 60 คน แต่ถ้าจำนวนนักท่องเที่ยวแออัดกันมากเกินไปจนเป็นแถวยาวก็สามารถจะเพิ่มให้เป็นจุดละ 30 คน หรือรอบละ 90 คนได้
นกพิราบศูนย์ข่าวพิจิตร
ภาพข่าวศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่
3
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น