วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2562

รองผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ร่วมแถลงข่าวยึดยาบ้าเกือบ 5,400,000 เม็ด ยาไอซ์กว่า 185 กก. คีตามีนอีก 40 กก. ซุกอยู่ในถ้ำกลางป่าดิบเชียงดาว

รองผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ร่วมแถลงข่าวยึดยาบ้าเกือบ 5,400,000 เม็ด ยาไอซ์กว่า 185 กก. คีตามีนอีก 40 กก. ซุกอยู่ในถ้ำกลางป่าดิบเชียงดาว

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2562 เวลา 10.00 น. พลตรี วิชิต วงศ์สังข์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง มอบหมายให้ พันเอก นฤทธิ์ ถาวรวงศ์ รองผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เป็นผู้แทน พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวกรณีตรวจยึดยาเสพติดที่สำคัญ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า จำนวน 5,400,000 เม็ด, ยาไอซ์ จำนวน 185 กิโลกรัม และยาเสพติดให้โทษประเภท 2 คีตามีน จํานวน 40 กิโลกรัม ณ กองบังคับการกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 335 อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี พลตำรวจตรี สุนทร เฉลิมเกียรติทรองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เป็นประธาน

จากกรณี เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2562 เวลา 06.00 น. หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 5 กองกำลังผาเมืองได้รับการประสานจาก พันตำรวจโท ดิลก อารินเป็ง ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 335 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงขนยาเสพติดมาพักคอยในบริเวณบ้านหนองเต่า - บ้านถ้ำแกลบ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ หน่วยจึงได้จัดกำลังร่วมปฏิบัติการทำการลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ จำนวน 3 ชุดปฏิบัติการ โดยได้ทำการลาดตระเวนเส้นทางหลัก/รอง ในพื้นที่บ้านหนองเต่า ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ และลาดตระเวนเส้นทางธรรมชาติในพื้นที่บ้านถ้ำแกลบ ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่  จนกระทั่งเมื่อเวลา 12.00 น. ชุดปฏิบัติการกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 335 พร้อมด้วยกำลังจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 5 กองกำลังผาเมือง ตรวจพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้าและยาไอซ์ จำนวน 64 กระสอบ ซุกซ่อนอยู่ในถ้ำขนาดเล็กในป่าดิบ โดยจากการตรวจนับพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า จำนวน 54 กระสอบ รวมยาเสพติด 5,400,000. เม็ด และยาไอซ์ จำนวน 10 กระสอบ รวมน้ำหนักทั้งสิ้น 185 กิโลกรัม ยาเสพติดให้โทษ ประเภท 2 คีตามีนจํานวน 40 กิโลกรัม ได้ภายในถ้ำแกลบ บริเวณป่ารอยต่อ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้ากว่า 2 ชั่วโมง จึงจะสามารถลำเลียงยาเสพติดลงมายังเส้นทางหลักได้ โดยคาดว่ายาเสพติดล็อตนี้ เป็นของขบวนการชาวเขาเผ่ามูเซอ เครือข่าย  พันเอกจะลอโบ่ โดยมีเครือข่าย พันโทจะปีก่อย ร่วมผลิตยาเสพติด

จากรายงานทราบว่า กลุ่มมูเซอจะลำเลียงยาเสพติดโดยใช้รถยนต์เป็นพาหนะจากพื้นที่ชายแดนเพื่อนบ้าน และใช้เส้นทางเดินเท้าลำเลียงยาเสพติดเข้ามาพัก โดยการลักลอบลำเลียงยาเสพติดครั้งนี้ คาดว่าใช้กำลังคนประมาณ 10 - 15 คน ต่อการลำเลียง 1 ครั้ง และคาดว่ามีการทยอยลำเลียงยาเสพติดล็อตดังกล่าว จำนวน 4 ครั้ง ก่อนจะมีขบวนการค้ายาเสพติดในประเทศไทยอีกกลุ่มมารับช่วงต่อเพื่อกระจายยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน

ด้าน พลตำรวจตรี สุนทร เฉลิมเกียรติ รองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กล่าวว่า การเข้าถึงข้อมูลของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก  เนื่องจากชาวบ้านทั้งสองฝั่งเป็นกลุ่มเผ่าเดียวกัน แม้จะมีการเฝ้าระวังแต่ขบวนการลำเลียงยาเสพติด หรือที่เรียกว่ามดงาน จะเป็นคนในพื้นที่ชำนาญเส้นทางธรรมชาติ โดยจะอาศัยเวลากลางคืนในการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่

สำหรับการตรวจยึดยาเสพติดในครั้งนี้  เป็นที่น่าสังเกตว่า เจ้าหน้าที่ไม่พบกระเป๋าเป้บรรจุยาเสพติดทิ้งเอาไว้ คาดว่าคนร้ายน่าจะนำกระเป๋าที่บรรจุยาเสพติดกลับไปด้วยเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่านำยาเสพติดไปส่งไว้จริง

จากแนวทางการสืบสวนทราบว่า มดงานจะได้ค่าจ้างเป้ละ 30,000 บาท และหากนำกระเป๋าที่บรรจุยาเสพติดกลับไปจะได้ค่าจ้างเพิ่มอีก เป้ละ  1,500 บาท เบื้องต้นนำของกลางทั้งหมดส่ง พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเชียงดาว เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และขยายผลต่อไป









นกพิราบศูนย์ข่าวพิจิตร
ภาพข่าวศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 3

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมาคมพิทักษ์แผ่นดินไทย”(ศ.ป.พ.๓) ตำบล แก่งหางแมว อำเภอ แก่งหางแมว จังหวัด จันทบุรี ได้ร่วมจัดชุดยังชีพมอบให้กับครอบครัวผู้มีรายได้น้อย

วันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๗ “สมาคมพิทักษ์แผ่นดินไทย”(ศ.ป.พ.๓) ตำบล แก่งหางแมว อำเภอ แก่งหางแมว จังหวัด จันทบุรี ได้ร่วมจัดชุดยังชีพมอบให้กั...