เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2562 พันเอก ดร. รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ 3 และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 และ ร้อยเอก หญิง มณฑิรา พรมศรี ผู้ช่วยโฆษกกองทัพภาคที่ 3 และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 พร้อมทีมช่างภาพ PR ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 3 ...ยกทีมสัญจรในพื้นที่เมืองมะขามหวานถิ่นทหารม้า จังหวัดเพชรบูรณ์ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานในภารกิจที่สำคัญของกองทัพภาคที่ 3 ตามนโยบายของกองทัพบก ครั้งที่ 37 โดยมี พลโท ธวัช ศรีสว่าง รองผู้อำนวยการ ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 เป็นประธาน ณ ห้องประชุมกองบังคับการกองพันทหารม้าที่ 18 กรมทหารม้าที่ 3 ค่ายพ่อขุนผาเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ มีสาระสำคัญ ได้แก่ การแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันภาคเหนืออย่างยั่งยืน , การแข่งขันกีฬามิตรภาพระหว่างกองทัพไทย – เมียนมา, การปราบปรามการลักลอบนำเข้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย และ
การประกวดแข่งขันการสวดมนต์ตามแบบธรรมเนียมทหาร “100 ปี อนุศาสนาจารย์ไทย” เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานกำเนิดกิจการอนุศาสนาจารย์ไทย และจะได้มีวาระครบ 100 ปี นั้น กองกิจการอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก จึงกำหนดจัดการประกวดแข่งขันการสวดมนต์ตามแบบธรรมเนียมทหาร “100 ปี อนุศาสนาจารย์ไทย” เพื่อเป็นการอบรมด้านคุณธรรม จริยธรรมแก่ทหารกองประจำการ อีกทั้งเป็นการฝึกอบรมการไหว้พระสวดมนต์ตามแบบธรรมเนียมทหาร ให้มีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์เดียวกันทั้งกองทัพบก
สำหรับการประกวดแข่งขันฯ ในครั้งนี้ หน่วยขึ้นตรงกองทัพบกทุกหน่วย จะได้ดำเนินการคัดเลือกทีมทหารกองประจำการที่ดีที่สุดของแต่ละพื้นที่กองทัพภาค จากหน่วยทหารทั่วประเทศ ทีมละ 5 นาย เพื่อเข้าร่วมการประกวดแข่งขันรอบสุดท้าย ณ กองกิจการอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก ในวันที่ 3 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา โดยทำการประกวดแข่งขันการไหว้พระสวดมนต์ตามแบบธรรมเนียมทหารของกองทัพบก ซึ่งทหารกองประจำการทุกนาย ต้องสวดมนต์ทุกครั้งก่อนเข้านอน (ห้วงเวลา 20.30 น.) ทุกวัน ประกอบด้วย บทสรรเสริญพระรัตนตรัยเป็นภาษาบาลี พร้อมแปลภาษาไทยในลักษณะทำนองสังโยค หลังจากนั้นจะได้สำรวมจิต แผ่เมตตา กล่าวบทปลงใจ ร้องเพลงชาติและเพลงสรรเสริญพระบารมี ทั้งนี้ มุ่งหมายให้ทหารกองประจำการ ทุกนาย ได้น้อมรำลึก นึกถึงความสำคัญของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และบรรพชนไทยที่ได้เสียสละ เพื่อผืนแผ่นดินไทยในทุกขณะจิต
ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 3 ได้จัดส่งทีมทหารกองประจำการของหน่วย กองพันทหารม้าที่ 18 กรมทหาร ม้าที่ 3 ซึ่งผ่านการคัดเลือกในการแข่งขันระดับกองทัพภาค เป็นตัวแทนเข้าประกวดแข่งขันการสวดมนต์ ตามแบบธรรมเนียมทหาร “100 ปี อนุศาสนาจารย์ไทย” ระดับกองทัพบก ผลการประกวดแข่งขันฯ กองพันทหารม้าที่ 18 กรมทหารม้าที่ 3 ได้รับรางวัลชนะเลิศ ระดับกองทัพบก ได้รับมอบโล่รางวัลชนะเลิศพร้อมเงินรางวัลจากเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก นับได้ว่าเป็นความภาคภูมิใจของหน่วยเป็นอย่างยิ่ง
การเฝ้าระวังโรคไข้รากสาดใหญ่ หรือโรคสครับ ไทฟัส (Scrub Typhus) โรคไข้รากสาดใหญ่ หรือโรคสครับ ไทฟัส (Scrub Typhus) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในกลุ่มริกเก็ตเซีย (Rickettsia) มีไรอ่อนหรือไรแดงเป็นพาหะนำโรค ซึ่งไรมักจะอาศัยอยู่ตามพุ่มไม้ หรือทุ่งหญ้าในป่าละเมาะ หรืออยู่ในที่มืด โดยจะไต่ขึ้นตามแขน ขา เข้าในร่มผ้า ผู้ป่วยมักถูกกัดบริเวณอวัยวะเพศ รักแร้ หรือซอกคอ อาการของโรคมักจะเกิดขึ้นภายใน 10 วัน หลังจากที่โดนไรอ่อนหรือไรแดงกัด อาจทำให้เกิดอาการ ได้แก่ อาการปวดศีรษะ, มีไข้สูง ประมาณ 40 - 40.5 องศาเซลเซียส และหนาวสั่น มีต่อมน้ำเหลืองโตและกดเจ็บ ,ปวดกระบอกตา, ปวดกล้ามเนื้อ และปวดเมื่อยตามตัว คลื่นไส้และอาเจียน , ผื่นแดงเริ่มขึ้นบริเวณลำตัว และผื่นขนาดเล็กค่อย ๆ นูนหรือใหญ่ขึ้น ต่อมาอาจทำให้เป็นแผลที่คล้ายถูกบุหรี่จี้ (Eschar) ซึ่งเกิดจากชั้นเนื้อตาย โดยจะเกิดบริเวณที่ถูกไรอ่อนกัด มักไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวดและสังเกตเห็นได้ยาก ความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลงไป ตั้งแต่เกิดอาการสับสนไปจนถึงอาการขั้นวิกฤติ นอกจากนั้น ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงอาจทำให้การทำงานของอวัยวะล้มเหลวและเลือดออก หรือหากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้เสียชีวิตได้
แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 ได้มอบหมายให้โรงพยาบาลทหารทั้ง 10 แห่ง ในพื้นที่ภาคเหนือ ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ เพื่อเฝ้าระวังโรคไข้รากสาดใหญ่ หรือโรคสครับ ไทฟัส (Scrub Typhus) ช่วงต้นฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงที่มีการระบาดของโรคสูงสุด แก่กลุ่มบุคคลที่เสี่ยงต่อการ เกิดโรค ได้แก่ กลุ่มทหารและนักศึกษาวิชาทหารที่เข้าไปทำการฝึกภาคสนาม, กลุ่มนักท่องเที่ยวที่นิยมเดินท่องไพร และกลุ่มประชาชนที่ประกอบอาชีพเก็บของป่าขาย
ทั้งนี้ขอให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปในบริเวณยอดหญ้าที่เป็นหย่อมๆ รวมทั้งมีการแต่งกายที่มิดชิด ทายาป้องกันแมลงก่อนเข้าพื้นที่ป่าและอาบน้ำชำระร่างกายทันทีหลังออกจากพื้นที่ ซึ่งหากมีอาการบ่งชี้ ของโรคใกล้เคียงกับลักษณะดังกล่าว ขอให้ได้ไปพบแพทย์ ณ โรงพยาบาลทหาร หรือโรงพยาบาลในสังกัด ของกระทรวงสาธารณสุขใกล้บ้านโดยด่วน
นกพิราบศูนย์ข่าวพิจิตร
ภาพข่าวศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่
3
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น