วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2561

แม่ทัพภาคที่ 3 ตรวจเยี่ยม การดำเนินงาน ตาม“โครงการไทยนิยม ยั่งยืน”

แม่ทัพภาคที่ 3  ตรวจเยี่ยม การดำเนินงาน ตาม“โครงการไทยนิยม ยั่งยืน”
     พลโท วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน ตาม “โครงการไทยนิยม ยั่งยืน” ของทีมขับเคลื่อนระดับตำบล ในพื้นที่บ้านหนองหญ้า ตำบลวังน้ำคู้ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ณ หอประชุมโรงเรียนบ้านหนองหญ้า ตำบลวังน้ำคู้ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันจันทร์ที่ 30 เมษายน 2561
    เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561 รัฐบาล ได้เริ่มดำเนินการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ, แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ ไปสู่การปฏิบัติ ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้ “โครงการ     ไทยนิยม ยั่งยืน” โดยได้มอบหมายให้ส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง สำหรับ กองทัพภาคที่ 3 ได้รับมอบหมาย จากกองทัพบก ให้จัดทีมขับเคลื่อนระดับตำบล ลงพื้นที่ทุกตำบล และทุกหมู่บ้าน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยจะเป็นการลงพื้นที่ เพื่อเข้าไปปรับทุกข์ ผูกมิตร สืบสภาพปัญหา และค้นหาความต้องการของประชาชน เพื่อนำมาจัดทำโครงการ เสนอตามกรอบการพัฒนาคุณภาพชีวิต, ขับเคลื่อนการพัฒนา และการแก้ไขปัญหา โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม เพื่อไปสู่การพัฒนาประเทศ ตาม Road map ที่รัฐบาลกำหนดไว้  คือ แผนการลงพื้นที่ เพื่อจัดเวที “ไทยนิยม ยั่งยืน” จำนวน 4 ครั้ง ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กองทัพภาคที่ 3 ได้ติดตามและสนับสนุนกำลังพล พร้อมทั้ง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง และดำเนินงาน ตามแผนการลงพื้นที่ไปแล้ว จำนวน 2 ครั้ง มีดังนี้
ครั้งที่ 1 เวทีปรับทุกข์ ผูกมิตร เพื่อเป็นการเยี่ยมเยียนประชาชนรับทราบความทุกข์ยากและปัญหา รวมถึงค้นหาความต้องการของประชาชน
ครั้งที่ 2 สร้างการรับรู้และปฏิบัติตามสัญญาประชาคม รู้สิทธิ รู้หน้าที่ รู้กฎหมาย รู้รักประชาธิปไตยรู้กลไกการบริหาร และรู้การอยู่ร่วมกัน เพื่อให้ประชาชนเข้าใจการอยู่ร่วมกันในสังคม สร้างความสามัคคีปรองดอง ตามหลักประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
   ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ได้ดำเนินมาถึงแผนการลงพื้นที่ ครั้งที่ 3 ปรับเปลี่ยนความคิด (mindset) ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปปฏิบัติ เพื่อให้ประชาชนเข้าใจและน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง โดย กองทัพภาคที่ 3 ได้ตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน ตาม“โครงการไทยนิยม ยั่งยืน” ของทีมขับเคลื่อนระดับตำบล ในพื้นที่บ้านหนองหญ้า ตำบลวังน้ำคู้ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินงาน และรับทราบปัญหาข้อขัดข้องในการดำเนินโครงการฯ รวมถึงความต้องการของประชาชน และหาแนวทางแก้ไข โดยจะต้องใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า สมประโยชน์ ทั้งนี้ ในการพัฒนาความเป็นอยู่ พัฒนาคุณภาพชีวิต อาชีพและรายได้ นั้น จะไม่สัมฤทธิ์ผล ถ้าหากขาดความร่วมมือกันของทางภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ฉะนั้น ทุกภาคส่วนจะต้องสามัคคี และปรองดอง เพื่อร่วมกันพัฒนา น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้ในการดำเนินชีวิต สร้างวินัย การออม รู้อยู่ รู้กิน รู้ใช้ ตลอดจนตั้งปณิธานทำความดี และเข้าใจการมีส่วนร่วมในการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อให้กลไกการขับเคลื่อนประเทศไทยมีความเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป   
   ขณะที่ แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า โครงการไทยนิยม ยั่งยืนนั้นรัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ปัญหาให้กับประชาชน โดยยึดเป้าหมายคือความต้องการของหมู่บ้าน/ชุมชนเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความเดือดร้อนส่วนตัว เช่น หนี้สิน ปัญหาส่วนรวม โดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต รวมถึงการออม การจัดทำบัญชีครัวเรือนภายในครอบครัว และชุมชน และการทำเกษตรกรรมที่ยั่งยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเป็นการเกษตรที่ช่วยกันฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติดิน น้ำ ป่า ให้กลับคืนมา รูปแบบเกษตรอินทรีย์ ดังนั้นเกษตรกรจะต้องยึดความรู้และคุณธรรมให้มั่น ควรศึกษาและปฏิบัติตามแนวทางของในหลวงรัชกาลที่ 9 อย่างจริงจัง
    ทั้งนี้ กลไกการรวมกลุ่มของชุมชนในรูปแบบสหกรณ์และเครือข่ายที่ช่วยกันสร้างความยั่งยืนให้กับระบบผลิต ที่สำคัญภาครัฐโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะเข้ามาสนับสนุนด้านวิชาการ แหล่งเงินทุน องค์ความรู้ ตลอดจนวิธีการ โดยชุมชนต้องลุกขึ้นมาเป็นแกนนำ สื่อมวลชนต้องเข้ามาช่วยเชื่อมโยงสู่ผู้บริโภค เพื่อเร่งขยายการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ไปทั่วประเทศให้สามารถมีผลผลิตเพียงพอสำหรับบริโภคภายในประเทศและพัฒนาสู่การส่งออก ดังนั้นการดำเนินงานต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย 
   โอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่ 3 ได้ให้ความสนใจติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการ และได้สอบถามปัญหาข้อขัดข้อง พร้อมให้กำลังใจแก่ทีมขับเคลื่อนฯ ทุกฝ่ายที่ได้ทุ่มเทกำลังเพื่อปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจ เน้นการปรับทุกข์ผูกมิตร และกำชับถึงการเป็น “ คนดีสำคัญที่สุดคือคิดดี พูดดี ทำดี ” จะลดปัญหาต่างๆ อาทิ แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป  ทำเกษตรกรไทยตะลึง หลังขายทุเรียนได้มากกว่า 80,000 ลูก ในเวลาแค่ 1 นาที ผ่านทางเว็บไซต์ซื้อขายของชาวจีน Tmall.com  โดยการนำเทคโนโลยี การค้าออนไลน์ หรือ อีคอมเมิร์ซ (e-Commerce) มาช่วยให้เกิดตลาดที่เข้าถึงฐานผู้บริโภค  เน้นให้ผู้ประกอบการมีความเข้าใจ ได้เรียนรู้และเสริมทักษะการใช้เทคโนโลยีไทยให้สามารถเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์  และเข้าถึงตลาดจีนที่มีผู้บริโภคอยู่ไม่น้อยกว่า 500 ล้านคน รวมถึงตลาดในภูมิภาคและตลาดสากลได้ตามลำดับ (Regional and Global Value Chain)  ในปัจจุบันรัฐบาลอยู่ในช่วงขับเคลื่อนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ได้ร่วมมือกับ อาลีบาบากรุ๊ป ด้าน สร้างดิจิทัลฮับ Smart Digital Hub และ Digital transformatin strategic Partnership ซึ่งจะช่วยเชื่อมโยง SMEs ไทย กลุ่ม OTOP และกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ ให้สามารถเข้าถึงตลาดจีนและตลาดโลกได้ ที่สำคัญประชาชนต้องเพิ่มการรับรู้ข่าวสาร และน้อมนำศาสตร์พระราชา/เศรษฐกิจพอเพียง มาปฏิบัติ ทั้งนี้ชุมชนจะต้องร่วมกันพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี สืบสาน ต่อยอด รักษาในสิ่งที่ดีงาม เพื่อให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตามยุทธศาสตร์ชาติ ต่อไป













ข่าวทั่วไทย พิจิตร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 33 ดำเนินการ ผสมเทียมโคพันธุ์ชาร์โรเล่ ให้เกษตรกร อำเภอแม่ระมาดยกระดับรายได้ส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้เกษตรกรไทย   เมื่อ...