กองทัพภาคที่ 3 เปิดยุทธการสกัดกั้นการลักลอบขนยาเสพติดข้ามชาติเข้าในประเทศไทย พร้อมตรวจยึดยาบ้า 100,00 เม็ด
ตามนโยบายของรัฐบาล กำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่สำคัญ ที่ต้องได้รับการป้องกันและแก้ไขอย่างเร่งด่วน กองทัพบก จึงได้ให้หน่วยในพื้นที่ชายแดน วางมาตรการป้องกัน การลักลอบลำเลียงยาเสพติดที่จะเข้ามาภายในประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ขบวนการค้ายาเสพติด จะลักลอบเข้ามาโดยใช้จุดพักยาตามแนวชายแดน และหาโอกาสลำเลียงด้วยยานพาหนะเข้ามาพื้นที่ตอนในต่อไป เพื่อเป็นการตอบรับนโยบายของรัฐบาล และกองทัพบก พลโทวิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองทัพภาคที่ 3 จึงได้สั่งการให้ทุกภาคส่วนผนึกกำลัง เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ จากพื้นที่ชายแดนถึงพื้นที่ตอนใน และให้มีการเพิ่มมาตรการเข้มงวดในการป้องกัน และสกัดกั้นปราบปรามยาเสพติด ตามแนวชายแดน โดยให้หน่วยในพื้นที่ชายแดนของกองทัพภาคที่ 3 เปิดยุทธการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง
- เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2561 กองทัพภาคที่ 3 โดย กองบังคับการควบคุมทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 / ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองทัพภาคที่ 3 กองกำลังผาเมือง เปิดยุทธการ มอบหมายให้ กองร้อยทหารพรานที่ 3204 จัดกำลังชุดปฏิบัติการทำการออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนเพื่อทำการสกัดกั้นขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ โดยตรึงแนวชายแดนจุดทางเท้า ที่พร้อมจะนำสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชายแดนไทย สืบเนื่องจากสืบทราบว่าจะมีกลุ่มขบวนการลักลอบขนยาเสพติดนำเข้ามาในพื้นที่ประเทศ โดยชุดลาดตระเวนทำการลาดตระเวนบริเวณพื้นที่สันเขากลางป่า ช่องทางเดินเท้าและช่องทางธรรมชาติ จนกระทั่งเมื่อเวลา เวลา 04.00 นาฬิกา กำลังเจ้าหน้าที่ได้ออกลาดตระเวนบริเวณแนวชายแดน บ้านบะหลา หมู่ที่ 11 ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ พบกลุ่มขบวนการลักลอบนำยาเสพติดเดินเท้าเข้ามา ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว แต่กลุ่มขบวนการดังกล่าวได้เปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่ จึงเกิดการปะทะกันขึ้นเป็นเวลานานกว่า 15 นาที เหตุการณ์จึงสงบลง ภายหลังสิ้นเสียงปืนเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบพื้นที่จุดปะทะ พบคราบเลือดหยดเป็นทางแต่ไม่พบศพหรือผู้บาดเจ็บ พบเพียงเป้สีเขียวภายในมียาบ้า จำนวน 50 มัด จำนวน 100,000 เม็ด ถูกบรรจุอยู่ภายในกระเป๋าเป้ที่กลุ่มขบวนการลักลอบทำตกไว้ และปลอกกระสุนอาก้า หรือ AK47 ตกอยู่ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมประสานกำลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรอำเภอแม่อาย และกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 334 เข้าทำการสนับสนุนตรึงกำลังทางช่องทางด้านตีนเขาเพื่อสกัดกั้นกลุ่มขบวนการที่อาจจะหลบหนีออกมา จนกระทั่งเวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่จึงได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่เกิดเหตุ ในส่วนทางพื้นราบได้ประสานโรงพยาบาลและสถานีอนามัยในพื้นที่ ว่ามีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บเข้ามารักษาตัวหรือไม่ เพื่อจะติดตามตัวมาขยายผลและดำเนินคดีต่อไป
จากการเพิ่มมาตรการสกัดกั้นยาเสพติดของกองทัพภาคที่ 3 ด้วยการประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงานการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือและผลจากการตรวจเยี่ยมติดตามการปฏิบัติงานของแม่ทัพภาคที่ 3/ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองทัพภาคที่ 3 ซึ่งให้มุ่งเน้นมาตรการลาดตระเวน เฝ้าตรวจ และการจัดตั้งจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ด้านอำเภอชายแดนของจังหวัดเชียงรายนั้น ทุกหน่วยได้ปฏิบัติตามนโยบายอย่างเข้มข้น จนมีผลการปฏิบัติการจับกุม ตรวจยึดยาเสพติดปริมาณมากของกองกำลังผาเมืองนั้น
ผลของการจับกุมขบวนการลำเลียงยาเสพติดในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะสามารถนำข้อมูลที่สอบสวนได้นั้น ดำเนินการขยายผลได้ถึงต้นตอ รายใหญ่ และทำให้รู้วิธีการขนยาเสพติด และเส้นทางการลำเลียงของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ซึ่งสามารถช่วยให้เจ้าหน้าที่นำไปเพิ่มมาตรการต่างๆ ให้เข้มงวดขึ้น และใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาในการป้องกันปราบปรามยาเสพติด เพื่อลดการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ อีกทั้งยังช่วยสกัดกั้นยาเสพติดที่จะทะลักเข้ามาในพื้นที่ตอนในของประเทศไทยอีกด้วย ดังนั้น ต้องร่วมกันผนึกกำลังทั้ง ทหาร ตำรวจ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน เพื่อมุ่งไปสู่การแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น