ถ้าเอ๋ยถึง วัดท่าหลวง
พระอาราม จังหวัดพิจิตร สาธุชนคนทั่วไปจะนึกถึง พระคู่บ้าน คู่เมือง
ของจังหวัดพิจิตร คือองค์ หลวงพ่อเพชร ที่ทุกคนในประเทศแดนสยามจะรู้จัก
แต่ถ้าเอ๋ยถึงหลวงภัทร ทุกคนจะไม่ค่อยได้ยินชื่อของท่าน นอกจาก คนรุ่นเก่า ๆ
หรือพระภิกษุ สามเณร แม่ชี และผู้มาปฏิบัติธรรม
จะรู้ว่าหลวงพ่อภัทรเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์
เป็นพระพุทธรูปองค์ปฐมแห่งวัดท่าหลวงมาก่อน ช่วงทีผู้เขียนเองบวชเป็นสามเณรที่
วัดท่าหลวง องค์หลวงพ่อภัทรจะอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรม ที่วัดท่าหลวง
เป็นพระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธ์มาก
จะมีความศักดิ์สิทธ์อย่างไรผู้อ่านทุกท่านต้องไปกราบไหว้บูชากันเองครับของแบบนี้พูดยาก
แต่สมัยที่ผู้เขียนเองเคยบวชเรียนที่อารามแห่งนี้เคยสัมผัสกับความศักดิ์สิทธ์ของท่านมาแล้ว
หลวงพ่อภัทรเป็นพระพุทธปฏิมากรที่หล่อจากสำริด สร้างขึ้นตามศิลปะสมัยกรุงสุโขทัยพระพุทธลักษณะปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง ๔๕ นิ้วสูง ๖๐นิ้ว ฐานของพระสูง ๔.๕ นิ้วมีอายุมากกว่า ๘๐๐ ปี และเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ประจำวัดท่าหลวง แต่เดิมนั้นประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถหลังเก่าของวัดท่าหลวง ก่อนที่จะนำหลวงพ่อเพชรมาประดิษฐาน จึงถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปที่ประดิษฐานคู่กับวัดท่าหลวงมาโดยตลอด กาลต่อมา เมื่อพระเดชพระคุณพระธรรมทัสสีมุนีวงศ์ (หลวงพ่อเอี่ยม) ได้นำหลวงพ่อเพชรมาประดิษฐานที่วัดท่าหลวง ก็ได้ทำฐานใหม่ โดยได้ประดิษฐานองค์หลวงพ่อเพชรไว้ในพระอุโบสถไม้หลังเก่าของวัดท่าหลวง (ปัจจุบันทางวัดได้ปลูกศาลาจำหน่ายดอกไม้ธูปเทียนและจำหน่ายวัตถุมงคลไว้แทน)
คนเก่าแก่ของวัดได้เล่าให้ฟังว่า “ เมื่อพระเดชพระคุณพระธรรมทัสสีมุนีวงศ์ (หลวงปู่เอี่ยม) ได้นำหลวงพ่อเพชรมาประดิษฐานที่วัดท่าหลวงในพระอุโบสถหลังเดียวกับหลวงพ่อภัทร โดยได้สร้างฐานชุกชีสำหรับประดิษฐานหลวงพ่อเพชรขึ้นใหม่ และไว้ด้านหน้าหลวงพ่อภัทร เมื่อพระอุโบสถหลังเก่าซึ่งสร้างด้วยไม้เกิดชำรุดทรุดโทรมลงตามกาลเวลา และพังทลายลงแม่น้ำน่าน พระเดชพระคุณพระทีฆทัสสีมุนีวงศ์ (หลวงปู่ไป๋) ได้สร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้น (พระอุโบสถหลังปัจจุบัน) จึงนำหลวงพ่อเพชรมาประดิษฐานไว้พระอุโบสถเพียงองค์เดียว”
ส่วนหลวงพ่อภัทรได้สร้างศาลาไว้ประดิษฐานไว้ให้ประชาชนได้กราบไหว้ ณ บริเวณหน้าพระอุโบสถ และได้มีการเคลื่อนย้ายหลวงพ่อภัทรไปประดิษฐานไว้ในสำนักปฎิบัติธรรม ในสำนัก วัดท่าหลวง ตอนนี้องค์หลวงพ่อภัทรนั้น ทางวัดท่าหลวงได้อัญเชิญไปประดิษฐานที่กุฏิสามัคคีแสวงธรรมชั้นบน(กุฏิ ๕) แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีประชาชนชาวตลาดพิจิตร ชาวพิจิตรโดยดั้งเดิมมากราบไหว้ตลอดเวลา จนมาถึงปัจจุบัน ช่วงวันที่ 27 ธันวาคม 2560 เวลา 12.30 น. นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และรองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรทั้งสองท่าน นายอำเภอทุกอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการทุกภาคส่วน และผู้แทนภาคเอกชน ร่วมเป็นเจ้าภาพมอบเงินสมทบบุญเจ้าภาพเททองหล่อหลวงพ่อภัทร พระพุทธรูปองค์ปฐมพระประธานวัดท่าหลวงพระอารามหลวง เพื่อประดิษฐานเป็นพระประธาน ณ วัดบึงสีไฟภัทราราม และองค์เล็กหน้าตัก 16 นิ้ว 39 องค์ประดิษฐานไว้ ณ ศาลากลางจังหวัด ศาลจังหวัด กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และอำเภอทั้ง 12 อำเภอ รวมถึงส่วนราชการต่างๆ โดยยอดรวมการบริจาคทั้งสิ้น 172,700 บาท (หนึ่งแสนเจ็ดหมื่นสองพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน) พิธีมอบ ณ กุฏิสามัคคีแสวงธรรม ที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อภัทร วัดท่าหลวงพระอารามหลวง จ.พิจิตร
หลวงพ่อภัทรเป็นพระพุทธปฏิมากรที่หล่อจากสำริด สร้างขึ้นตามศิลปะสมัยกรุงสุโขทัยพระพุทธลักษณะปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง ๔๕ นิ้วสูง ๖๐นิ้ว ฐานของพระสูง ๔.๕ นิ้วมีอายุมากกว่า ๘๐๐ ปี และเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ประจำวัดท่าหลวง แต่เดิมนั้นประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถหลังเก่าของวัดท่าหลวง ก่อนที่จะนำหลวงพ่อเพชรมาประดิษฐาน จึงถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปที่ประดิษฐานคู่กับวัดท่าหลวงมาโดยตลอด กาลต่อมา เมื่อพระเดชพระคุณพระธรรมทัสสีมุนีวงศ์ (หลวงพ่อเอี่ยม) ได้นำหลวงพ่อเพชรมาประดิษฐานที่วัดท่าหลวง ก็ได้ทำฐานใหม่ โดยได้ประดิษฐานองค์หลวงพ่อเพชรไว้ในพระอุโบสถไม้หลังเก่าของวัดท่าหลวง (ปัจจุบันทางวัดได้ปลูกศาลาจำหน่ายดอกไม้ธูปเทียนและจำหน่ายวัตถุมงคลไว้แทน)
คนเก่าแก่ของวัดได้เล่าให้ฟังว่า “ เมื่อพระเดชพระคุณพระธรรมทัสสีมุนีวงศ์ (หลวงปู่เอี่ยม) ได้นำหลวงพ่อเพชรมาประดิษฐานที่วัดท่าหลวงในพระอุโบสถหลังเดียวกับหลวงพ่อภัทร โดยได้สร้างฐานชุกชีสำหรับประดิษฐานหลวงพ่อเพชรขึ้นใหม่ และไว้ด้านหน้าหลวงพ่อภัทร เมื่อพระอุโบสถหลังเก่าซึ่งสร้างด้วยไม้เกิดชำรุดทรุดโทรมลงตามกาลเวลา และพังทลายลงแม่น้ำน่าน พระเดชพระคุณพระทีฆทัสสีมุนีวงศ์ (หลวงปู่ไป๋) ได้สร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้น (พระอุโบสถหลังปัจจุบัน) จึงนำหลวงพ่อเพชรมาประดิษฐานไว้พระอุโบสถเพียงองค์เดียว”
ส่วนหลวงพ่อภัทรได้สร้างศาลาไว้ประดิษฐานไว้ให้ประชาชนได้กราบไหว้ ณ บริเวณหน้าพระอุโบสถ และได้มีการเคลื่อนย้ายหลวงพ่อภัทรไปประดิษฐานไว้ในสำนักปฎิบัติธรรม ในสำนัก วัดท่าหลวง ตอนนี้องค์หลวงพ่อภัทรนั้น ทางวัดท่าหลวงได้อัญเชิญไปประดิษฐานที่กุฏิสามัคคีแสวงธรรมชั้นบน(กุฏิ ๕) แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีประชาชนชาวตลาดพิจิตร ชาวพิจิตรโดยดั้งเดิมมากราบไหว้ตลอดเวลา จนมาถึงปัจจุบัน ช่วงวันที่ 27 ธันวาคม 2560 เวลา 12.30 น. นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และรองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรทั้งสองท่าน นายอำเภอทุกอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการทุกภาคส่วน และผู้แทนภาคเอกชน ร่วมเป็นเจ้าภาพมอบเงินสมทบบุญเจ้าภาพเททองหล่อหลวงพ่อภัทร พระพุทธรูปองค์ปฐมพระประธานวัดท่าหลวงพระอารามหลวง เพื่อประดิษฐานเป็นพระประธาน ณ วัดบึงสีไฟภัทราราม และองค์เล็กหน้าตัก 16 นิ้ว 39 องค์ประดิษฐานไว้ ณ ศาลากลางจังหวัด ศาลจังหวัด กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และอำเภอทั้ง 12 อำเภอ รวมถึงส่วนราชการต่างๆ โดยยอดรวมการบริจาคทั้งสิ้น 172,700 บาท (หนึ่งแสนเจ็ดหมื่นสองพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน) พิธีมอบ ณ กุฏิสามัคคีแสวงธรรม ที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อภัทร วัดท่าหลวงพระอารามหลวง จ.พิจิตร
ข่าวทั่วไทย พิจิตร นกพิราบ / ภาพข่าว ป.วีระสิทธิ์
ข่าวทั่วไทย พิจิตร นกพิราบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น