บุรีรัมย์ ตามรวบวัยรุ่นขโมยโขมยรถขัามจังหวัด ไปแลกยาบ้ามาขาย จ่ายค่าเทอมลูก
สองผัวเมียวัย 69 ปี ชาว อ.สตึก บุรีรัมย์ ถึงกับเอาดอกไม้ไปขอบคุณ ผกก. หลังจากสามารถตามเอารถกระบะที่หายไป 10 วันคืนมาได้ ดีใจบอกไม่ถูกไม่คิด ไม่ฝันว่าจะได้คืน ตำรวจตามรวบได้ผู้ต้องหาสารภาพ”เอาไปแลกยาบ้า”ที่ จ.มุกดาหาร ยังไม่ได้ของโดนจับก่อน สาเหตุเพราะต้องการเงินเอาไปเสียค่าเทอมลูกที่เรียนอยู่กรุงเทพฯ ขณะ ผกก.เตือนไม่ควรเสียบกุลแจไว้ ในรถเหมือนรายนี้
วันที่ 30 มิ.ย.64 พ.ต.อ.วชิรวิทย์ วรรธานี ผกก.สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ นำตัวนายประสิทธิ์ หรือทิศ สีทา อายุ 23 ปี อยู่เลขที่ 218 หมู่ 3 ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ มาสอบสวน
หลังจาก พ.ต.ท.นิติพงษ์ สีทาเลิศ รอง ผกก.(สืบสวน)นำกำลังจาก สภ.สตึก ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.ดงเย็น อ.เมือง จ.มุกดาหาร และ สภ.ดงหลวง อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เข้าจับกุมและยึดของรถยนต์ของกลาง
ระหว่างนำรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนเงิน ทะเบียน บบ-373 บุรีรัมย์ ไปขายให้กับพ่อค้าชาว จ.มุกดาหาร เพื่อนำไปส่งขายต่อประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งรถคันดังกล่าว ได้ถูกขโมยไปจาก ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นนำตัวไปตรวจปัสสาวะ พบว่ามีฉี่เป็นสีม่วง
จากการสอบสวนนายประสิทธิ์ หรือทิศ สีทา ผู้ต้องหา ได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ขโมยไปจริง หลังจากขับรถไปเจอรถยนต์จอดอยู่ทุ่งนา แล้วเห็นกุลแจเสียบคาไว้ จึงไปชักชวนเพื่อนมาร่วมกันขโมยไปเอาไปซุกซ่อนไว้ แล้วกลางดึกวันเดียวกัน ได้ขับออกไปจังหวัดมุกดาหารกับเพื่อนรวม 3 คน
เมื่อไปถึงได้ติดต่อขายให้กับพ่อค้ารับซื้อรถที่ จ.มุกดาหาร โดยตกลงราคากัน 50,000 บาท เพื่อแลกกับยาบ้าจำนวน 2 มัดหรือ 4,000 เม็ด แต่ยังไม่ได้ยา มาถูกตำรวจจับก่อน
นายทิศ ยังสารภาพด้วยว่า สาเหตุที่ไปขโมยรถยนต์ของชาวบ้านไปขาย เพราะต้องการเงินไปจ่ายค่าเทอมให้ลูกสาวที่เรียนอยู่กรุงเทพฯ โดยมีเพื่อนมาแนะนำ ให้เอาไปแลกยาบ้า แล้วเอายามาขายปลีก จะเพิ่มมูลค่าได้มากกว่า 50,000 บาท เพราะยาบ้าจำนวน 4,000 เม็ดถ้าขายเม็ดละ 50 บาท จะขายได้เงินกว่า 200,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการสอบสวน นายอ้วย รุ่งสวัสดิ์ อายุ 69 ปี และนางค้ำ รุ่งสวัสดิ์ อายุ 69 ปี ชาวบ้านดงยายเภา หมู่ 3 ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ สองสามีภรรยา เจ้าของรถคันที่ได้คืนมา ที่มาเฝ้าติดตามอยู่ ได้นำพวงมาลัย ไปกราบขอบคุณ พ.ต.อ.วชิรวิทย์ วรรณธานี ผกก.สภ.สตึก ที่สามารถตามเอารถคืนมาได้
นางค้ำ บอกว่าหลังจากรถหายไปกินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะเป็นรถคันแรกของครอบครัว โดยเฉพาะได้ยินคำพูดของชาวบ้านที่ว่า”ถ้ารถหายไม่มีทางได้คืน”พอมาเจอกับตัวเองตนเชื่อว่า”ตำรวจสตึก”เก่ง
ด้าน ผกก.สภ.สตึก กล่าวว่า เคสนี้ถือเป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์ สำหรับผู้ใช้รถสำหรับคนที่ชอบเสียบกุลแจรถคาไว้ เช่นเดียวกับกรณีนี้ เพราะเป็นการเปิดช่องให้คนร้ายก่ออาชญากรรมได้ง่าย เนื่องจากการประกอบอาชญากรรม จะประกอบด้วย”โอกาส เหยื่อ และผู้เสียหาย ดังนั้นเราควรจะลดโอกาสเพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างของคนร้าย ทั้งนี้ตำรวจได้ตั้งข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษ(ยาบ้า)และลักทรัพย์หรือรับของโจร”
ประยงค์ วงศ์ประโคน จ.บุรีรัมย์ รายงาน