วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2568

ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้า กองทัพภาคที่ 3 สนับสนุนอากาศยานและกำลังพลภาคพื้นดิน ร่วมกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำรวจจุดความร้อนและทิ้งน้ำพื้นที่เกิดไฟป่า พร้อมเร่งปฏิบัติการลดฝุ่นละอองในอากาศ PM 2.5 หลายจังหวัดภาคเหนือตอนบน

ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3  ส่วนหน้า กองทัพภาคที่ 3 สนับสนุนอากาศยานและกำลังพลภาคพื้นดิน ร่วมกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  สำรวจจุดความร้อนและทิ้งน้ำพื้นที่เกิดไฟป่า พร้อมเร่งปฏิบัติการลดฝุ่นละอองในอากาศ PM 2.5 หลายจังหวัดภาคเหนือตอนบน 

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2568 ศูนย์อำนวยการจิตอาสาภัยพิบัติ ภาค 3  และ ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3  ส่วนหน้า กองทัพภาคที่ 3   ร่วมกับ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร โดยหน่วยดัดแปรสภาพอากาศเพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5) จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแพร่ และจังหวัดพิษณุโลก สนับสนุนอากาศยาน ปฏิบัติภารกิจบรรเทาหมอกควันและสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ให้กับ ศอ.ปกป.ภาค 3 สน. ในพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) บริเวณ จ.เชียงใหม่ จ.พิษณุโลก และพื้นที่ใกล้เคียง CN จำนวน 2 ลำ CASA จำนวน 4 ลำ และ Caravan 3 ลำ (รวม 20 เที่ยวบิน) โดยมีการปฏิบัติ อ.เมืองปาน จ.ลำปาง, อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน, อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา,อ.งาว จ.ลำปาง, อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์, อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ -  อ. ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน, อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน, อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่, อ.บ้านตาก - อ.สามเงา จ.ตาก, อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์, อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก, อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย, อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่, และ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่  ซึ่งจากการปฏิบัติ พบว่าค่า PM2.5 ในสถานีเป้าหมายมีแนวโน้มลดลง จากนั้น ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3  ส่วนหน้า กองทัพภาคที่ 3  ร่วมกับ ศูนย์ฯภาคเหนือ ศทอ. สนับสนุน เฮลิคอปเตอร์ ฮ.ทส.1110 กับ 1114 ในพื้นที่ภาคเหนือ โดย ปฏิบัติการบินสนับสนุนจังหวัดแม่ฮ่องสอนในภารกิจการบินตรวจประเมินสถานการณ์ไฟป่าและสำรวจไฟป่าตามจุดความร้อน  HOTSPOT ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ บริเวณพื้นที่ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอนซึ่งกำลังมีสถานการณ์ไฟป่าเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจลุกลามต่อเนื่องไปยังพื้นที่สูงชันข้างเคียง, ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบินสำรวจเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนเข้าดับไฟป่า จำนวน 2 เที่ยวบิน ผลการปฏิบัติ เนื่องจากสภาพอากาศมีควันจำนวนมากชุดปฏิบัติการบิน ฮ.ทส.1114จึงไม่สามารถทำการตักน้ำดับไฟได้ เวลา 13:00 น. เฮลิคอปเตอร์ ฮ.ทส.1114 จึงได้บินเดินทางมายังศูนย์ปฏิบัติการพื้นที่ภาคเหนือเพื่อเตรียมรอรับภารกิจต่อไป และ เฮลิคอปเตอร์  ฮ.ทส.1110 ยกตัวบิน  เพื่อบินตรวจสภานการณ์ไฟป่าตามเส้นทางการบิน จากพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ - อำเภอสะเมิง จ. เชียงใหม่ ต่อไปยัง อ.ปาย - อ.ปางมะผ้า - อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน จากนั้นจะนำข้อมูลมาใช้เพื่อวางแผนบริหารจัดการไฟป่าในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ต่อไป และ  ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3  ส่วนหน้า กองทัพภาคที่ 3  สนับสนุน เฮลิคอปเตอร์ ฮ.ท.17 ของ กองทัพบก โดย กองทัพภาคที่ 3 ปฏิบัติภารกิจสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ให้กับ ศอ.ปกป.ภาค 3 สน. ปฏิบัติการดับไฟป่าในพื้นที่ อําเภอบ้านโฮ่ง จว.ลำพูน ซึ่งจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ (สันอ่างห้วยโทก)  และ พิกัดจุดจอด ฮ. สนามกีฬาบ้านห้วยหละ (สำรอง)  พร้อมสำรวจ จุดความร้อนบริเวณ พิกัดจุดทิ้งน้ำ (พระบาทสามยอด) และ จุดเติมน้ำบริเวณพิกัดแหล่งน้ำ อ่างเก็บน้ำห้วยโทก  และ อ่างเก็บน้ำป่าซางอ่อน (สำรอง)   ร่วมกับ นายจรัล มณีจันสุข นายอำเภอบ้านโฮ่ง  นายธีระยุทธ ช่วงชัยชาญ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลพ 4  โดยได้ทำการบินทิ้งน้ำดับไฟ อําเภอบ้านโฮ่ง จว.ลำพูน จำนวน 11 เที่ยวบิน จำนวนน้ำ 38,500 ลิตร





























ภาพข่าว- วีดีโอ -ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 3 ธีรพงศ์ นาคแนม (นกพิราบศูนย์ข่าว จังหวัดพิจิตร)  โทร 0831671688 รายงาน** คนรู้จักพัก ทว่าไม่รู้จักพอ ** จิตอาสาพัฒนา เราทำความดีด้วยหัวใจ....ร่วมใจกันพัฒนา


ศูนย์อำนวยการจิตอาสาภัยพิบัติ ภาค 3 บูรณาการการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดตาก จังหวัดกำแพงเพชร และจังหวัดน่าน ร่วมกับ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 14 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 32

ศูนย์อำนวยการจิตอาสาภัยพิบัติ ภาค 3  บูรณาการการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดตาก จังหวัดกำแพงเพชร และจังหวัดน่าน  ร่วมกับ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35  กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 14   หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 32 

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2568 ศูนย์อำนวยการจิตอาสาภัยพิบัติ ภาค 3 และ ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้า กองทัพภาคที่ 3 บูรณาการร่วมกับ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สะเรียง, อุทยานแห่งชาติแม่สะเรียง (เตรียมการ), หน่วยควบคุมไฟป่าแม่สะเรียง, ผู้นำชุมชน และประชาชน ร่วมดับไฟป่า พร้อมทั้งทำแนวกันไฟ ในพื้นที่ ต.บ้ากาศ และ ต.แม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ต่อมา หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ร่วมกับ สถานีดับไฟป่าแม่สุรินทร์, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเวียงล้า และประชาชน บ.แม่สะเปใต้ อ.เมือง  จ.แม่ฮ่องสอน  ร่วมดับไฟป่าตามจุดฮอตสปอร์ตที่เกิดขึ้นในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเวียงล้า และทำแนวกันไฟเพื่อไม่ให้ไฟลุกลามไปพื้นที่อื่นๆ สามารถควบคุมไฟป่าไว้ได้สำเร็จ จากนั้น หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 พร้อมด้วย ชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนที่ 306 กองกำลังนเรศวร ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบล แม่คง ดำเนินการ ฉีดพ่นละอองน้ำ เพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง ในพื้นที่ บ.แม่สะลาบ ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน นอกจากนี้ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 พร้อมด้วย ชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนที่ 305 กองกำลังนเรศวร และ  ชุดพัฒนามวลชนสัมพันธ์ที่ 3105 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยก 1 ร่วมกับ สถานีตำรวจภูธรท่าสองยาง ร่วมกัน ประชาสัมพันธ์ 47 วันอันตราย ห้ามเผาเด็ดขาดในพื้นที่โล่ง หรือพื้นที่เกษตร ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม ถึง 30 เมษายน 2568 ตามประกาศจังหวัดตาก เพื่อให้ได้ทราบถึงปัญหามลพิษในอากาศ และขับเคลื่อนการลดการเผาในพื้นที่โล่งแจ้ง แก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่ บ.ทีโน๊ะโค๊ะ ต.แม่อุสุ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ขณะที่ ชุดปฏิบัติการลาดตระเวนป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 14 ชุดปฏิบัติการที่ 1-4 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า (วจ.4 แม่ยะมา),  เจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่า อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า และชาวบ้าน บ้านมอรังงาม ร่วมกิจกรรมทำแนวกันไฟบริเวณป่าชุมชน  บ้านมอรังงาม หมู่ 22 ต.โกสัมพี อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร  ซึ่งได้ดำเนินการ ทำแนวกันไปได้ระยะทาง 1 กม.ต่อจากนั้น  ชุดปฏิบัติการรณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 14 ร่วมกับผู้นำท้องถิ่น เข้าดำเนินการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ปัญหาไฟป่าหมอกควัน  ณ บ้านหนองเสือ หมู่ 7  และ บ้านพานทอง หมู่ 1 ต.พานทอง อ.ไทรงาม จว.กำแพงเพชร  และ กองร้อยทหารพรานที่ 3208 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 32 กองกำลังผาเมือง จัดกำลังพล ร่วมกับฝ่ายปกครอง, ผู้นำชุมชน และประชาชน บ.น้ำลาด และ บ.ขุนน้ำลาด  จำนวน 120 คน จัดกิจกรรมลาดตระเวน ป้องกันไฟป่า และสร้างแนวกันไฟในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า รวมระยะทาง 5 กม. เพื่อแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในพื้นที่แนวป่าชุมชน บริเวณ บ.น้ำลาด ม.6 และ บ.ขุนน้ำลาด ม.7 ต.งอบ อ.ทุ่งช้าง จว.น่าน 










































































ภาพข่าว- วีดีโอ -ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 3 ธีรพงศ์ นาคแนม (นกพิราบศูนย์ข่าว จังหวัดพิจิตร)  โทร 0831671688 รายงาน** คนรู้จักพัก ทว่าไม่รู้จักพอ ** จิตอาสาพัฒนา เราทำความดีด้วยหัวใจ....ร่วมใจกันพัฒนา